รีวิวอุปกรณ์แนว IoT (Internet of Thing) ที่มีแนวคิดน่าสนใจ และเอามาใช้งานแล้วสร้างความสะดวกสบายกว่าเดิมมาก นี่คือ Ambi Climate 2 ชุดอุปกรณ์ควบคุมการทำงานเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน ไม่ใช่แค่เอาไว้เปิดปิดหรือตั้งเวลาการทำงาน แต่มีการเอาระบบประมวลผลแบบ AI มาช่วยควบคุมอุณหภูมิในบ้าน ให้เหมาะสมกับเรามากที่สุด
Ambi Climate เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากบริษัท Startup จากฮ่องกง ที่มีแนวคิดให้เราสามารถควบคุมการทำงานเครื่องปรับอากาศภายในบ้านผ่านแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน โดยไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องใหม่หรือติดตั้งให้ยุ่งยาก มันจึงถูกพัฒนาจากแนวคิดง่ายๆ คือ เป็นตัวส่งสัญญาณคำสั่งแบบ “อินฟราเรด” ซึ่งเป็นระบบมาตรฐานของแอร์ทั่วโลก
ในแพ็คเกจของ Ambi Climate 2 มีอะไรมาให้บ้าง?
ตัวกล่องสินค้ามา มีขนาดเล็กกะทัดรัดด้วยวัสดุกระดาษรีไซเคิลได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายในจะมีตัวเครื่อง Ambi Climate พร้อมกับสายไฟแบบ USB หัว Micro USB พร้อมอแดปเตอร์ชาร์ไฟ และคู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ตัวเครื่องนั้น ออกแบบมารูปร่างหน้าตาดูเรียบง่าย วางภายในบ้านได้ไม่สะดุดตา สีบอดี้จะเป็นสีขาว จะเห็นมีส่วนสีดำที่ด้านบน นั่นคือภาคส่งสัญญาณอินฟราเรดเพื่อใช้สั่งควบคุมแอร์ ด้านหน้าจะเห็นมีไฟ LED ที่โลโก้ เป็นสัญญาณบอกสถานะการทำงาน
ส่วนที่ด้านหลังนั้นจะมีช่องพอร์ต Micro USB สำหรับเสียบไฟกับอแดปเตอร์ ต้องบอกว่ามันไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัว จะต้องเสียบปลั้กเสียบสายเอาไว้ตลอดเวลา ถัดมาเป็นช่องพอร์ต USB เอาไว้สำหรับเสียบข้อมูลเพื่ออัพเกรด ส่วนสุดท้ายจะเป็นปุ่มรีเซ็ตการตั้งค่าการทำงาน
การรองรับเพื่อใช้งานกับเครื่องปรับอากาศนั้น ทีมงานพัฒนามีการใส่ฐานข้อมูลอินฟราเรดของรีโมทคอนโทรลแอร์มากกว่า 1,000 รุ่น หลากหลายแบรนด์ ซึ่งเราสามารถเข้าไปเช็คข้อมูลได้ที่ ฐานข้อมูล ดูได้
ก่อนเริ่มทำการเซ็ตอัพติดตั้ง ให้ทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Ambi Climate ลงในสมาร์ทโฟนเสียก่อน มีรองรับให้ทั้งในระบบ iOS และ Android จัดการลงทะเบียนสร้างบัญชีผู้ใช้ให้เรียบร้อย
เริ่มการใช้งานต้องบอกว่าง่ายมากๆ เพราะเราไม่ต้องทำอะไรกับตัวเครื่องปรับอากาศของเราเลย เพียงแค่เอาตัวเครื่อง Ambi Climate 2 วางไว้ในตำแหน่งที่สามารถยิงสัญญาณอินฟราเรดไปที่แอร์ได้ ของผมลองทั้งแบบวางไว้ด้านล่างแอร์ และวางห่างออกไป 6-7 เมตร ก็ยังสามารถควบคุมได้
เริ่มการใช้งานเราจะต้องเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับ Wi-Fi เพื่อให้มันออนไลน์ (รองรับที่ 2.4GHz) และจับคู่ให้ตรงตามรุ่นของรีโมท เท่านี้เราก็จะสามารถเริ่มใช้สั่งงานควบคุมเครื่องปรับอากาศจากแอปในมือถือได้แล้ว
Ambi Climate 2 ไม่ใช่แค่เอาไว้สั่งเปิดปิด แต่คิดประมวลผลให้ผ่าน AI
บางคนอาจจะคิดว่า มันมีแค่เอาไว้สั่งเปิดปิดตั้งเวลาควบคุมเครื่องปรับอากาศ แต่จริงๆ แล้วมันมีความฉลาดและทำงานที่ล้ำลึกกว่านั้น เพราะที่ตัวเครื่องนั้นจะมีเซนเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและความชื้นอยู่ในตัว เพราะที่จะทราบข้อมูลอุณหภูมิที่แท้จริงภายในห้อง โดยพื้นฐานในโหมดการทำงานแล้ว จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน
- Comfort Mode เป็นการสั่งปรับอุณหภูมิตามความรู้สึก และให้ระบบ AI มาประเมินและควบคุมให้อัตโนมัติ
- Temperature Mode เลือกปรับอุณหภูมิตามที่ต้องการ โดย AI จะเลือกปรับให้สมดุลตามค่าอุณหภูมิที่ต้องการ
- Away Mode ใช้สำหรับควบคุมให้เครื่องปรับอากาศในช่วงที่เราไม่อยู่บ้าน ให้ได้อุณหภูมิและความชื้นที่ต้องการ เหมาะสำหรับกรณีที่มีสัตว์เลี้ยง หรือการเปิดคอมพิวเตอร์ไว้ในบ้าน
- Manual Mode ใช้ควบคุมแอร์แบบเหมือนกับสั่งด้วยรีโมทแอร์ปกติ
Comfort Mode ช่วยปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เราชอบมากที่สุด
เป็นโหมดที่ลองใช้แล้วชอบมากที่สุดครับ ปกติแล้วเวลาเราปรับแอร์ เราก็จะเลือกไปว่าจะเอากี่องศา ซึ่งแอร์มันก็จะปรับตามกำลังเครื่องที่ระดับอุณหภูมินั้น แต่ไม่ได้สนใจว่าจริงๆ แล้วอุณหภูมิในห้องนั้นมันเท่ากับตัวเลขที่ปรับไว้หรือเปล่า
ไม่รวมถึงปัจจัยอื่นอย่างเช่นอุณหภูมิภายนอก หลายคนอาจจะเคยเจอเหตุการณ์ เปิดแอร์ก่อนนอนเอาไว้ที่ 25 องศา เย็นสบายกำลังดี คราวนี้หลับไป พอตกดึกเกิดฝนตกหรืออุณหภูมินอกบ้านลดลง ทำให้ในห้องเรากลายเป็นหนาวเหน็บ ต้องนอนขดคลุมโปงอย่างทนทุกข์ทรมาณ
ระบบ AI ของ Ambi Climate นั้นมีเซนเซอร์อุณหภูมิและความชื้นในตัวเอง มันจึงสามารถปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับเดิมตลอดเวลาแม้ว่าจะมีปัจจัยภายนอกเข้า เราจึงได้อุณหภูมิของห้องที่คงที่ในระดับที่เลือกไว้ตลอด รวมถึงยังมีการเอาค่าอุณหภูมิภายนอก, แสงอาทิตย์ และช่วงเวลา มาช่วยประมวลผลควบคุมด้วย
แต่โหมด Comfort นั้นจะฉลาดขึ้นไปอีกขั้น โดยที่เราจะสอนให้ระบบ AI เรียนรู้ว่าอุณหภูมิระดับไหนที่เราชอบมากที่สุด โดยการสั่งในระบบจะไม่ใช่การเลือกตั้งค่าอุณหภูมิ แต่เป็นการบอกว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไร
เราจะเลือกบอกได้ว่าตอนนี้เรารู้สึกอย่างไรกับอุณหภูมิในห้อง บอกได้ว่ารู้สึกหนาวไป ร้อนไป หรือว่ากำลังดี มีให้เลือกได้ 7 ระดับ ซึ่งระดับกำลังดี (Comfort) จะเป็นตัวบอกได้ว่า นี่ล่ะระดับที่เราโอเค
การสั่งงานในโหมดนี้ จะต้องใช้เวลาให้ AI เรียนรู้ประมาณ 3-4 วัน จากนั้นเมื่อเราสั่งเปิดแอร์ขึ้นมา ระบบจะเลือกโหมดและพยายามปรับอุณหภูมิไปยังระดับที่เรารู้สึกสบายมากที่สุดทันที และควบคุมอุณภูมิให้อยู่ระดับนั้นตลอดเวลา
ฉลาดกว่าเดิม เชื่อมต่อกับระบบ Smart Assistant
ประโยชน์อีกอย่างของ Ambi Climate 2 ก็คือ มันเป็นตัวเชื่อมต่อเครื่องปรับอากาศในบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ให้เข้าสู่ระบบ Smart Assistant ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรองรับกับ Amazon Alexa, Google Assistant และ IFTTT
คราวนี้เลยสะดวกมากกว่าเดิม ไม่ใช่แค่ไม่ต้องใช้รีโมทแอร์ควบคุมแล้ว ตอนนี้แอปในสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องใช้ โดยที่เราสามารถสั่งงานให้ Ambi Climate ควบคุมแอร์ได้ด้วยคำสั่งเสียงได้เลย
ในบ้านผมมีตัวลำโพง JBL Link10 ที่รองรับ Google Assistant อยู่ ผมเชื่อมต่อให้อยู่ในระบบเรียบร้อย คราวนี้ก็สามารถพูดสั่งเปิดแอร์ ปิดแอร์ หรือปรับอุณหภูมิโดยพูดสั่งได้เลย หรือถ้าต้องการสั่งในคำสั่งที่ซับซ้อนมากๆ ก็สามารถไปเซ็ตใน IFTTT ได้ด้วย อย่างเช่น เมื่อเรามาถึงบ้านให้เปิดแอร์, เปิดแอร์เมื่ออุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด ฯลฯ อันนี้ถือว่าทำให้ทุกอย่างเกี่ยวกับการปรับอุณหภูมิของห้องนั้นเป็นเรื่องที่สะดวกสบายแบบ Handoff ไม่ต้องกดปุ่มหรือเลือกอะไรเลย
นอกจากนี้ การทำงานที่เชื่อมต่อกับ Cloud ยังช่วยเก็บสถิติเกี่ยวกับอุณหภูมิและความชื้นภายในห้องของเรา แล้วสรุปเป็นกราฟสถิติเพื่อให้เราเช็คดูข้อมูลย้อนหลังได้อีกด้วย
ถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนให้แอร์ทุกรุ่นในบ้าน ให้เชื่อมต่อออนไลน์และกลายเป็น Smart IoT ได้สะดวกรวดเร็ว และไม่ยุ่งยากเลยแม้แต่น้อย แค่เสียบปลั้กตั้งไว้ใกล้ๆ เชื่อมต่อ Wi-Fi เท่านี้ก็ใช้งานได้เลย ส่วนระบบ AI คือสิ่งที่มาช่วยควบคุมการทำงานแบบที่เรียนรู้พฤติกรรมของเรา จนเราไม่ต้องวุ่นวายกับรีโมทแอร์เดิมๆ แค่สั่งเปิดสั่งปิด อากาศในห้องจะถูกควบคุมในระดับที่เราชอบได้ทันที
แต่ในมุมมองของผมจากที่ได้ลองใช้ ก็รู้สึกว่า มันเหมาะจะใช้กับ ห้องนอน มากที่สุด เพราะเป็นห้องที่เราเปิดแอร์มากที่สุดในแต่ละวัน และระหว่างนอนการที่ระบบช่วยควบคุมอุณหภูมิคงที่ก็ทำให้เราหลับสบายไม่หนาวสั่นตอนดึกได้
ข้อจำกัดที่อาจจะมีบ้างก็คือ การรปรับแอร์ให้เป็นที่พอใจกับทุกคนในห้องนี่ล่ะ (ฮา) อันนี้กรณีที่มีคนอยู่ในห้องหลายคน แน่นอนความขี้หนาวขี้ร้อนของแต่ละคนไม่เท่ากัน อันนี้อาจจะต้องใช้เวลาให้ AI เรียนรู้มากหน่อย (ระบบสามารถให้ User แยกควบคุมได้หลายคน)
สำหรับราคาค่าตัวนั้นอยู่ที่ 4,990 บาท อาจจะอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงสำหรับหลายคน แต่ก็ถือว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่อยากได้ความสะดวกสบายในการควบคุมแอร์ในบ้านผ่านระบบแอปและ AI โดยไม่ต้องต่อสายหรือพ่วงต่อวงจรกับแอร์ ทำได้สารพัดอย่างทั้ง เปิดปิด ปรับอุณหภูมิ ตั้งเวลาเปิดปิด และเก็บข้อมูลได้อย่างละเอียด
ดูรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่นี่