OPPO Reno 10x Zoom เป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นล่าสุด ที่มาพร้อมกับดีไซน์สวยหรู อัดแน่นมาด้วยสเปคภายในที่เร็วแรงระดับต้นๆ ของโลก แต่อีกสิ่งสำคัญที่มองข้ามไปไม่ได้ก็คือเรื่องของแบตเตอรี่ และการใช้งานในแต่ละวัน มาดูกันดีกว่าว่า เครื่องแรงขนาดนี้ แบตเตอรี่จะใช้งานต่อเนื่องได้ขนาดไหน?
ตามสเปคแล้ว OPPO Reno 10x Zoom ความจุของแบตเตอรี่ให้มาใหญ่ถึง 4,065 mAh ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานในแต่ละวันได้ แบบไม่ต้องชาร์จเติมไฟวันละหลายๆ รอบ ดังนั้นการทดสอบของเราจะไม่ใช่แค่ใช้งานทั่วไป แต่จะใช้งานทุกอย่างแบบเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ใช้งานกล้อง เปิดแผนที่นำทาง คุยเล่นโซเชียล รวมถึงการเชื่อมต่อก็เปิดหมดทั้ง Bluetooth, NFC, Wi-Fi
VOOC 3.0 ชาร์จไวทันใจ ไม่ต้องรอนาน
ก่อนจะเริ่มใช้งานกันวันนี้ มาคุยกันเรื่องระบบชาร์จไฟของ OPPO กันก่อน เพราะว่าการมีแบตเตอรี่ใหญ่นั้น สิ่งที่ต้องมีควบคู่ด้วยกันคือ “ระบบชาร์จที่รวดเร็ว” เพราะแบตฯ ยิ่งใหญ่ก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะชาร์จเต็ม
OPPO นั้นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่พัฒนาเรื่องของระบบชาร์จไฟที่ชื่อว่า VOOC Flash Charge มาอย่างต่อเนื่อง และใน OPPO Reno 10x Zoom ก็มีระบบ VOOC 3.0 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่ช่วยให้ชีวิตของเราสะดวกสบายมากขึ้น
ก่อนจะทดสอบความอึด ของโชว์ประสิทธิภาพของ VOOC 3.0 กันก่อน ผมเริ่มชาร์จ OPPO Reno 10x Zoom ที่มีแบตเตอรี่เหลืออยู่ 2% ตอนเวลา 10.24 น.
เสียบชาร์จทิ้งเอาไว้ถึง 10.51 น. ก็ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ปรากฎว่าได้แบตเตอรี่เพิ่มมาเป็น 42% ถือว่าชาร์จได้เร็วมากๆ
จากนั้นก็ทิ้งเครื่องเอาไว้ ให้แบตเตอรี่เต็ม 100% เพื่อเตรียมสำหรับทดสอบใช้งานวันนี้ โดยแบตฯ เต็มตอนเวลา 11.35 น. รวมแล้วใช้เวลาไป 71 นาที ก็ชาร์จไฟเต็มแล้ว!
ด้วยคุณสมบัติของ VOOC 3.0 สามารถชาร์จไฟได้เร็วกว่าเวอร์ชั่นก่อนถึง 20% ด้วยกำลังไฟ 20W โดยที่ตัวเครื่องนั้นอุณหภูมิไม่ได้สูงขึ้นมาก คือมีอุ่นๆ บ้างในระดับที่ว่าจะเสียบชาร์จไปเล่นไปด้วยก็ยังได้
อีกสิ่งที่ดีมากกับระบบชาร์จตัวนี้คือ OPPO พิถีพิถัน ใส่ระบบตรวจเช็คความปลอดภัยไว้ถึง 5 ขั้นตอน ตั้งแต่ที่ตัวชาร์จไปจนถึงสายชาร์จจนมาถึงในตัวเครื่อง เพื่อควบคุมกระแสไฟฟ้าในการชาร์จได้อย่างปลอดภัย และผ่านมาตรฐานการรับรองจาก TUV Rheinland ของเยอรมันด้วย
รวมถึงตัวอแดปเตอร์ชาร์จพร้อมสาย USB Type-C ก็มีแถมมาให้ในกล่องเรียบร้อย ไม่ต้องไปซื้อเพิ่ม ขนาดก็เล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่ายไม่หนักกระเป๋า
ทดสอบใช้งาน OPPO Reno 10x Zoom ใช้งานแบบเต็มที่!
โอเค! แบตเตอรี่ชาร์จเต็มเรียบร้อย เราจะเริ่มการทดสอบกันเลย ซึ่งเราเริ่มนับเวลากันตอนเที่ยงตรง 12.00 น. ด้วยบทเรียนแรกคือ “เล่นเกม” กิจกรรมที่สามารถสูบแบตเตอรี่อย่างมูมมามที่สุด เพราะเป็นการใช้งานประสิทธิภาพของเครื่องแบบเต็มที่ ทั้งการประมวลผลของ CPU, ภาพกราฟฟิก และการเชื่อมต่อออนไลน์
ผมทดสอบกับเกม ROV ที่อัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ สนามกราฟฟิคสวยขึ้นกว่าเดิม และก็มาพร้อมกับโหมดแสดงผลภาพใหม่คือ “สูงมาก” ซึ่งรองรับกับสมาร์ทโฟนที่มีสเปคสูงเท่านั้นจึงจะปรับได้
แน่นอนว่า OPPO Reno 10xZoom ที่สเปคใช้ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 855 พร้อม RAM ให้มา 8GB สามารถเลือกเปิดกราฟฟิคระดับสูงสุดได้ทั้งหมด ดังนั้นไม่เกรงใจล่ะนะ เปิดโหมด Hi Framerate ไปด้วยเลย
การทดสอบเล่นเกม ROV ด้วยกราฟฟิคระดับสูงสุด เฟรมเรตวิ่งอยู่ที่ 59-61 ตลอดทั้งเกม ผมทดสอบเล่นไปเลย 2 ชั่วโมง มาดูกันว่าแบตเหลือเท่าไหร่?
จากแบตฯ เต็ม 100% หลังจากเล่นเกมหนักๆ ไป 2 ชั่วโมง ตอนนี้เหลืออยู่ 76%
ถือว่าโอเคเลย เล่นเกมหนักๆ 2 ชม. ใช้แบตเตอรี่ไปแค่ประมาณ 20 กว่าเปอร์เซนต์เท่านั้น เพราะในตัว ColorOS 6 นั้นมี HyperBoost 2.0 มาช่วยจัดการเรื่องประสิทธิภาพและการใช้พลังงานให้ดีขึ้นอีกด้วย เยี่ยมจริงๆ!
เอาล่ะ เรามาบันเทิงกันต่อ เล่นเกมเสร็จก็ดูหนังต่อเลย ทดสอบด้วยการเปิด Netflix ดูซีรี่ย์ 1 ตอน ใช้เวลาไปประมาณ 1 ชั่วโมง เรื่องดูหนังก็เป็นอะไรที่ดีมากๆ ด้วยหน้าจอที่ใหญ่เต็มตา ด้วยจอแบบ Panoramic Screen ใหญ่สุดขอบไม่มีติ่งแหว่งกวนใจ สีสวยคมชัดระดับ HD แถมลำโพงเป็นแบบ Stereo หรือถ้าฟังผ่านหูฟังก็จะได้ระบบเสียงกระหึ่มแบบ Dolby Atmos ด้วย
บทต่อไปจะเป็นการใช้งานระหว่างวัน ซึ่งจะมีทั้งเรื่องของโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Facebook, คุยแชทผ่าน LINE, Messenger ซึ่งมีประปรายตลอดช่วงบ่าย และมีกิจกรรมที่ใช้งานเครื่องหนักอีก 2 อย่างรออยู่ นั่นคือ การถ่ายภาพ และ ใช้ GPS นำทาง
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า การใช้งานกล้องนั้นกินแบตฯ พอๆ กับการเล่นเกมเลยล่ะ เพราะต้องใช้ประสิทธิภาพของเครื่องเต็มที่เหมือนกัน ทั้งเซลฟี่กล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera แล้วยิ่งกล้องหลังเป็นแบบ 10x Hybrid Zoom ถ่ายซูม 10 เท่าได้คมชัด และซูมได้ไกลสุด 60x Digital Zoom การทดสอบแบตเตอรี่ของเราวันนี้ ก็เลยถือโอกาสถ่ายภาพสวยๆ ไปหลายรูปเลย
ปิดท้ายกลับบ้านด้วยการเปิดใช้งานนำทางด้วย Google Maps นี่ก็เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ เพราะใช้เป็น Dual-frequency GPS หรือระบบการจับตำแหน่งสองสัญญาณ จับได้ทั้ง L1+L5 จับสัญญาณได้ไวและแม่นยำดีมาก กดนำทางกลับบ้านในช่วงหัวค่ำของกรุงเทพฯ ที่จราจรติดขัดพองาม
ใช้งานตั้งแต่เที่ยงถึง 4 ทุ่ม แบตฯ เหลือแค่ไหน?
ชาร์จแบตฯ จากเต็มๆ ไม่มีชาร์จเติมระหว่างวัน สรุปแล้วแบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ถึง 36% และในหน้า Power Usage นี้จะบอกให้เห็นว่าการทดสอบของเราครั้งนี้ แอพไหนบ้างที่ใช้พลังงานมากที่สุด แน่นอนว่า เล่นเกมนั้นกินเยอะสุด ตามมาด้วยการถ่ายภาพ (เราถ่ายเยอะจริงๆ นะวันนั้น 50-60 ภาพเลย) รองลงมาก็คือ Netflix
ช่วงเวลาการทดสอบอยู่ที่ราว 10 ชั่วโมง ที่เราลองใช้งาน ในระดับทั่วไป จนถึงแบบหนักๆ เล่นเกม ดูซีรี่ย์ ถ่ายภาพ ถ้าเป็นกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ก็คงจะแบตฯ หมดลาโลกไปตั้งแต่ช่วงบ่ายๆ เย็นๆ แล้ว แต่กับ OPPO Reno 10x Zoom นั้นเราใช้งานได้ลากยาว 10 ชั่วโมงโดยที่แบตเตอรี่ใช้ไปแค่ 2 ใน 3 เท่านั้น ซึ่งยังเหลือเอาไว้ใช้งานหนักๆ ต่อได้อีก 2-3 ชั่วโมงได้แบบสบายๆ
ถือว่าทำงานได้แบบครบเครื่องดีมาก สำหรับ OPPO Reno 10x Zoom ที่ใช้งานได้แรงเต็มประสิทธิภาพ แบบไม่ต้องห่วงกังวลแบตฯ หมดระหว่างวัน แต่ถ้าอยากให้อึดมากกว่านี้ก็ทำได้ เพราะยังมีโหมด Smart Power Saver ที่จะปรับแต่งการใช้พลังงานระหว่างวันให้อัตโนมัติ
เล่นเกมไปชาร์จไปก็ได้ ไม่ร้อนมือ!
อีกอย่างที่เราอยากทดสอบก็คือ การชาร์จและเล่นเกมไปด้วย ที่ออปโป้บอกว่า VOOC 3.0 นั้น ชาร์จไปเล่นไปไม่ร้อนมือ ซึ่งจากที่ลองแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ คือตัวเครื่องจะแค่อุ่นๆ ไม่ร้อนจี๋
ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่น เวลาเราเสียบชาร์จไปเล่นเกมไปด้วย นอกจากจะร้อนจี๋แล้ว แบตฯยังลดด้วย พูดง่ายๆ คือ ชาร์จไม่ทันกับที่เครื่องใช้ไฟนั่นล่ะ แต่ VOOC 3.0 นั้นชาร์จไปเล่นไป ไฟก็เติมให้ด้วย หลังจากที่เล่น ROV ไป 1 เกม ประมาณ 20 นาที เสียบชาร์จไปด้วย ได้ไฟเติมกลับมา 25% เฉลี่ยนาทีละ 1% และเสียบชาร์จต่อไปอีก 20 กว่านาทีก็เต็ม 100% เรียบร้อย