Rod Breslau ที่ปรึกษากีฬา E-Sports ระบุว่า เงินรางวัล 15 ล้านดอลล่าร์ ผู้เล่นแต่ละคนของทีม OG ก็จะได้เงินรางวัลประมาณคนละ 3.1 ล้านดอลล่าร์ (ประมาณ 94.83 ล้านบาทต่อคน)
หากเทียบเงินรางวัลต่อคนที่ได้นั้น ถือว่าเยอะมาก เมื่อเปรียบเทียบกับเงินรางวัลต่อไปนี้
- Tiger Woods ได้เงินรางวัลจาก The Masters 2019 ไป 2.07 ล้านดอลล่าร์
- แชมป์ชายเดี่ยวเทนนิสวิมเบิลดัน อย่าง Novak Djokovic หรือ แชมป์หญิงเดี่ยวเทนนิสวิมเบิลดัน อย่าง Simona Halep นั้น ได้เงินรางวัลไปคนละ 2.9 ดอลล่าร์
ถ้าเทียบกับ กอล์ฟ หรือ เทนนิส ที่เป็นกีฬายอดนิยม และเงินรางวัลมากแล้ว พบว่า ผู้เล่นระดับตัวท็อปๆ ของกีฬา E-Sports นั้นรายได้งามและน่าจะสามารถหารายได้ได้มากกว่านักกีฬาหลายๆ ประเภท
ทีมรองชนะเลิศอย่าง Team Liquid ได้รับเงินรางวัลไป 4,458,038 ดอลล่าร์ ซึ่งก็จะตีเป็นเงินรางวัลต่อคนที่ 892,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 27.29 ล้านบาทต่อคน)
แต่ ก่อนที่จะวางไม้แร็กเกต ไม้กอล์ฟ แล้ว หันมาจับคีย์บอร์ด เพื่อมาเป็นนักกีฬา E-Sports มีสิ่งสำคัญที่อยากให้คำนึงถึง นั่นคือ เงินรางวัลและการแข่งขันของทัวร์นาเมนต์ The International อาจจะดูยิ่งใหญ่ แต่ มันก็เป็นแค่เพียง event หลัก event เดียวเท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับการแข่งขันเทนนิสระดับนานาชาติ ก็ยังมีอีก 3 แกรนด์สแลม ที่นอกเหนือจาก เทนนิส วิมเบิลดัน
รวมถึงวงจรของนักกีฬา E-Sports เองก็ไม่เหมือนกับกีฬาประเภทอื่นๆ อย่างเช่น เทนนิส หรือว่า กอล์ฟ ซึ่งอาจจะประสบความสำเร็จเร็ว เงินรางวัลเยอะ แต่ cycle ของนักกีฬา E-Sports ก็อาจจะไม่ยาวมาก หากเทียบกับกีฬาประเภทอื่น ซึ่งมีความเป็นไปได้ ที่จะสำเร็จเร็ว ดังเร็ว และ อาจจะเงียบหายไปเร็วเช่นกัน)
แต่ ด้วยความสนุกของการแข่งขัน และ เงินรางวัลที่มหาศาล ก็ต้องยอมรับตามตรงว่า เป็นการยากที่จะปฏิเสธ และยากที่จะเพิกเฉย และทำใจให้ไม่สนกีฬาประเภท E-Sports เช่นกัน