Breaking! สหรัฐฯ อาจยืดระยะเวลาผ่อนผัน แบน Huawei ไปอีก 90 วัน

มีข่าวลือว่าเกี่ยวกับการที่สหรัฐ แบน Huawei มีความเป็นไปได้ว่า จะได้รับการยืดระยะเวลาสำหรับใบอนุญาติชั่วคราวไปอีก 90 วัน หลังจากกำหนดการเดิมกำลังจะหมด 90 วันลงในวันจันทร์ ที่ 19 สิงหาคม ที่จะถึงนี้แล้ว

Huawei will reportedly get another 90-days to obtain U.S. supplies for existing devices แบน Huawei

หลังจากที่ Huawei ถูกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาขึ้นบัญชี Entity List ทำให้บริษัทไม่สามารถเข้าถึง supply chain การผลิตที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้ โดยรัฐบาลสหรัฐฯที่นำโดย ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ผ่อนปลน ยืดระยะเวลาให้กับทางผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจากจีน 90 วัน

ระหว่างระยะเวลาที่ยืดออกไปให้นั้น ทางบริษัทฝั่งสหรัฐอเมริกาได้รับอนุญาติให้ขนส่งพวกชิ้นส่วน และ ซอร์ฟแวร์ของ Huawei ที่จำเป็นต้องใช้งาน บำรุงรักษา สนับสนุน และรองรับ เครือข่าย และอุปกรณ์ที่มีอยู่ รวมไปถึง การอัพเดตซอร์ฟแวร์ และ แพทช์ต่างๆ ภายในระยะเวลา 90 วัน ซึ่ง . . . มันกำลังจะหมดเวลาแล้วในวันจันทร์ที่จะถึงนี้

แหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ แจ้งกับทางสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทางการสหรัฐฯ จะขยายเวลาให้อีกรอบ สำหรับ ใบอนุญาติทั่วไปชั่วคราว เป็นเวลาอีก 90 วัน

มูลเหตุที่ทำให้ Huawei ถูกแบนจากสหรัฐฯ เพราะ ถูกมองว่า เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เพราะ ทางฝั่งรัฐบาลจีนอาจให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนติดตั้งอุปกรณ์ และเป็นสายลับให้เมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งทางฝั่งผู้ร่างกฏหมายของสหรัฐฯเกรงว่า บริษัทผู้ผลิตมือถือจากจีนจะแอบติดตั้งอะไรบางอย่างในสมาร์ทโฟน และส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังแผ่นดินแม่ ซึ่งทาง Huawei เองก็เคยออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว รวมไปถึง Liang Hua ประธานของ Huawei เองก็เคยเสนอให้มีการเซ็นสัญญาที่จะไม่ทำการสปาย หรือ สอดแนมข้อมูลระหว่างกัน (“No-Spy” contract)

ดูเหมือนการ แบน Huawei จะเป็นสิ่งที่ใช้ต่อรองเงื่อนไขการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในอนาคต เมื่อทั้ง 2 ประเทศมีส่วนร่วมในสงครามการค้าที่กำลังจะเริ่มขึ้นวันที่ 1 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่จะมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% จากมูลค่าสินค้าเพิ่มเติมจากจีนที่ถูกนำเข้ามายังสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลล่าร์ (สินค้าประเภทโทรศัพท์มือถือ เช่น Apple iPhone เองก็อยู่ในประเภทนี้ด้วย) ซึ่งล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เลื่อนการเก็บภาษีจากสินค้าบางประเภท เช่น iPhone, เครื่องเล่นเกม, และสินค้าอิเล็คทรอนิกซ์จากจีน ไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการให้สินค้ากลุ่มนี้ มีราคาแพงกว่าในช่วงเทศกาลชอปปิ้งวันหยุด

ถึง iPhone จะรอด และไม่ถูกเก็บภาษี แต่ก็ยังมีสินค้าบางตัวที่ไม่รอด ได้แก่ หูฟังไร้สาย Apple AirPods และ นาฬิกา Apple Watch จะโดนเก็บภาษี 10% โดยจะเริ่มเก็บวันที่ 1 กันยายนนี้

ณ ตอนนี้ Apple เองก็อยู่ในระหว่างการตัดสินใจว่า จะคิดเอาเงินภาษีส่วนนี้เข้าเป็นต้นทุน บางส่วน หรือ ทั้งหมด แล้ว ปล่อยให้เป็นภาระของผู้ซื้อ บางส่วน หรือ ทั้งหมด ในรูปแบบของราคาขายที่สูงขึ้น (ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ iPhone และ iPad นั้นมีการเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% แต่ ทาง Apple เป็นผู้จ่ายต้นทุนส่วนต่างให้ เพื่อให้ราคาขายของอุปกรณ์ 2 ชิ้นนี้ ไม่ต่างกับราคาขายที่อื่นๆ)

จะว่าไป Huawei เองก็ถูกมอง และ คาดการณ์ว่า จะเป็นขึ้นมาเป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ใน ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

สถิติครึ่งปีแรกของปี 2019 พบว่า Huawei จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือออกไปแล้วกว่า 118 ล้านเครื่องทั่วโลก

เมื่อปีที่แล้ว Huawei ก็ขนส่งอุปกรณ์มือถือไปขายกว่า 206 ล้านเครื่องทั่วโลก ทำให้ Huawei เป็นที่ 3 รองจาก Samsung และ Apple

ที่น่าจับตามองเลย คือ ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ Huaweu ขนส่งอุปกรณ์มือถือกว่า 59 ล้านเครื่องขายทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนั้นเพิ่มขึ้นกว่าตัวเลขรายปีถึง 50% ทำให้ Huawei ขึ้นแซง Apple ได้สำเร็จ และเป็นรองแค่ Samsung เท่านั้น

และ ไตรมาสที่ 2 Huawei ก็ยังคงรักษาระดับได้ โดยส่งอุปกรณ์มือถือไปขายอีก 59 ล้านเครื่องทั่วโลก ซึ่ง ระยะเวลา 3 เดือนหลังจากไตรมาสแรก บริษัทมีผลกำไรเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แต่ ผลการดำเนินงานที่มั่นคง และรักษาระดับได้ในช่วงครึ่งปีแรก ดูจะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทเท่าไหร่ เพราะ ถึงแม้ว่า ระยะเวลาครึ่งปีแรกของปี 2019 ทาง Huawei จะขายอุปกรณ์มือถือไปแล้วว่า 118 ล้านเครื่อง แต่การถูกรัฐบาลสหรัฐแบนก็ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อธุรกิจสมาร์ทโฟนของ Huawei เป็นอย่างมาก

เมื่อเดือนที่แล้ว Wilbur Ross รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า เค้าได้รับคำขอใบอนุญาติพิเศษที่จะทำการขายให้กับ Huawei กว่า 50 รายการ และคาดว่า น่าจะมีคำขอเข้ามาเพิ่มขึ้นอีก

ส่วนเรื่องขยายระยะเวลาเพิ่มอีก 90 วันนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังไม่ออกความเห็นใดๆเกี่ยวกับข่าวลือนี้

PHONEARENA

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)