เปิดตัวออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับ realme 5 และ realme 5 Pro สมาร์ทโฟน 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ที่การันตีในเรื่องราคาค่าตัวคุ้มค่าแบบแรงๆ อย่างแน่นอน
รุ่นใหม่นี้จัดหนักให้ในเรื่องกล้อง ที่มีมาให้ถึง 4 ตัวกันไปเลย พร้อมชิปเซ็ตตัวใหม่ ทรงพลังมากกว่าเก่า และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เอาใจคนใช้ทั้งวัน เหลือเฟือสบายๆ
realme 5 มาพร้อมหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด HD+ ที่ 1600 x 720 พิกเซล เป็นสัดส่วน Ratio แบบ 20:9
ใช้ชิป Qualcomm Snapdragon 665 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ 2 ที่ใช้ชิปเซ็ตเทคโนโลยีการผลิตแบบ 11 นาโนเมตร แต่ถือเป็นรุ่นแรก ที่เปิดตัวในอินเดีย เพราะ Xiaomi Mi A3 ยังไม่ได้เปิดตัวแข่งนั่นเอง
สามารถใส่ microSD การ์ดเพิ่มได้สูงสุด 256GB และเป็นถาดใส่คู่พร้อมกับ SIM การ์ด แต่ไม่ใช่แบบ Hybrid แยกออกจากกันเลย
ด้านของกล้องนั้น จัดมาให้เป็นตัวหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide องศากว้างถึง 119 องศา FoV ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนอีก 2 ตัว เป็นกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกันใกล้สุด 4 เซ็นติเมตร และเซ็นเซอร์วัดระยะ Depth Sensor
กล้องด้านหน้า จะวางอยู่ตรงกลางด้านบน หลบอยู่ในมุมของติ่งทรงหยดน้ำ มีความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซล ส่วนแบตเตอรี่ ให้มาเป็นขนาด 5,000 mAh ใหญ่โต ใช้พอร์ต microUSB และไม่มีระบบ Fast Charge มาให้
เรื่องของแรมและความจุตัวเครื่อง ก็มีมาให้เลือกกันถึง 3 สเปก คือ 3/32GB, 4/64GB และ 4/128GB มีให้เลือก 2 สี ราคาเริ่มต้นที่ 9,999 รูปี หรือประมาณ 4,300 บาท พร้อมจำหน่าย 27 สิงหาคมนี้
ต่อกันด้วยอีกรุ่น Realme 5 Pro มีขนาดตัวเครื่องที่เล็กลงมานิดนึง แต่ว่ามีพลังความแรงที่มากว่า หน้าจอเป็นขนาด 6.3 นิ้ว สัดส่วน Aspect Ratioo แบบ 19:5:9 ความละเอียด Full HD+ พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4,035 mAh
สเปกแรมและความจุ ก็มีมาให้เลือก 3 สเปกเช่นเดียวกัน คือ 4/64GB, 6/64GB และ 8/128GB ส่วนชิป ให้มาเป็น Snapdragon 712 เป็นรุ่นอัปเกรดเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยจาก Snapdragon 710 เน้นในเรื่องของชิปกราฟิก GPU
กล้องหลัง 4 ตัวมีการอัปเกรดเช่นกัน ตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล Sony IMX586 สามารถสร้างภาพรายละเอียดเยอะพิเศษ ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลได้ ส่วนกล้องหน้า ก็อัปเกรดมาเป็น 16 ล้านพิกเซล f/2.0
มีะบบ Fast Charge ชาร์จเร็ว VOOC 3.0 กำลัง 20 วัตต์ ผ่านพอร์ต USB-C สมัยใหม่ และยังมีระบบ AI Freezer ที่จะเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของเรา เพื่อปรับแต่งการใช้พลังงานให้เหมาะสมที่สุด
มีให้เลือก 3 สีเช่นเดียวกัน พร้อมราคาเริ่มต้นที่ 13,999 รูปี หรือประมาณ 6,000 บาท พร้อมจำหน่าย 4 กันยายนนี้
ที่มา: GSM Arena
