Fitbit Versa Lite Edition เป็นสมาร์ทวอชอีกรุ่นของทาง ฟิตบิท ที่มีการออกแบบให้มีความสวยงาม น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย โดยมีฟีเจอร์การเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายได้ครบถ้วน ในราคา 6,690 บาท
จริงๆ แล้ว รุ่นนี่คือการปรับลดฟีเจอร์บางอย่างจากรุ่นปกติลงไปบ้างบางส่วน โดยที่ฟีเจอร์หลักสำคัญยังมีอยู่ครบถ้วน จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ ดีไซน์หน้าตาตัวเรือนที่เป็นนาฬิกาที่ดูเรียบๆ แต่สวยพรีเมี่ยม มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา เพียงแค่ 38 กรัม ที่ใส่แล้วไม่รู้สึกรำคาญข้อมือเวลาที่ออกกำลังกาย โดยการทำงานสามารถเชื่อมต่อกับแอพ Fitbit ที่รองรับได้ทั้ง iOS และ Android
หน้าจอนั้นขนาด 1.34 นิ้วแบบสัมผัส ที่มีขนาดใหญ่ชัดเจน ด้านหน้ากระจกเป็น Corning Gorila Glass 3 ส่วนตัวเรือนวัสดุเป็นอลูมิเนียมที่แข็งแรงแต่ว่าน้ำหนักเบา ส่วนสายเป็นโพลีเอสเตอร์ที่ยืดหยุ่นนิ่มสวยใส่สบาย
ด้านหลังตัวเรือนมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบแสง ที่เก็บข้อมูลตลอด 24 ชั่วโมง และมีคอนแทคสำหรับติดกับตัวชาร์จไฟผ่าน USB โดยแบตเตอรี่ชาร์จเต็มใช้งานได้นานสุดถึง 4 วัน
หน้าจอที่ใหญ่ ทำให้การแสดงผลบนหน้าปัดทำได้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เอาไว้ดูนาฬิกา ที่เลือกได้หลายแบบสวยๆ เยอะเลย ยังเอาไว้ใช้แสดงข้อมูลระหว่างที่เราเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย อย่างเช่นระยะทาง, ความเร็ว Pace, อัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ ที่มองเห็นได้สะดวก
อีกทั้งยังมีการทำงานควบคู่กับสมาร์ทโฟน อย่างเช่นแสดงการแจ้งเตือนเวลามีสายโทรเข้า, ข้อความ ที่เราเลือกตอบข้อความด่วนที่บันทึกเอาไว้ได้ แต่ติดนิดนึงตรงที่การแสดงผลข้อความต่างๆ จะยังไม่รองรับภาษาไทย
รุ่น Lite Edition ตัวเรือนยังคงกันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร ที่เป็นมาตรฐานในการใส่เพื่อออกกำลังกายในน้ำอย่างว่ายน้ำได้อย่างไม่มีปัญหา ดังนั้นจะใส่อาบน้ำอะไรก็ไม่ต้องกังวล รวมถึงจะใส่ลงน้ำทะเลก็ได้ด้วยเช่นกัน (แต่ขึ้นมาแล้วต้องล้างด้วยน้ำสะอาดด้วยนะ)
ฟีเจอร์สำคัญด้านสุขภาพ กีฬา และออกกำลังกาย
หลักๆ ในการเก็บข้อมูลของ Fitbit Versa Lite Editionนั้น จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่ตลอดเวลา เพื่อเก็บเอาจำนวนก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่ที่เผาผลาญ และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจ ก็เก็บได้แบบ 24 ชม. ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกส่งเข้าไปประมวลผลใน Fitbit app บนสมาร์ทโฟน เราสามารถเปิดดูเพื่อประเมินและศึกษาได้ว่า ในแต่ละวันเราเคลื่อนไหวเพียงพอหรือไม่, ความปกติด้านสุขภาพดีพอหรือเปล่า
ส่วนการนอนก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญและ Fitbit ตอบโจทย์ให้ได้ค่อนข้างดี ที่เช็คการนอนของเราตลอดทั้งคืนว่า นอนพักผ่อนเพียงพอหรือไม่ โดยจำแนกแยกระยะการนอนได้ถึง 4 ช่วงด้วยกันคือ การหลับสนิท, การเคลิ้มหลับ, การตื่น และ REM ที่เป็นช่วงของการนอนหลับฝัน
และยังมีฟีเจอร์พิเศษ ที่ Fitbit พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ข้อมูลด้านสุขภาพสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ นั่นคือการเก็บสถิติของรอบเดือน วันตกไข่ ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผู้หญิงที่ต้องการข้อมูลสุขภาพด้านนี้เป็นพิเศษ
ทีนี้เรื่องของการเล่นกีฬาและการออกกำลังกาย ก็มีรองรับได้หลายอย่าง ทั้ง วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ แต่ว่ารุ่นนี้ไม่มี GPS ในตัว ดังนั้นเวลาวิ่งหรือปั่นจักรยาน จะเป็นการใช้พิกัด GPS จากสมาร์ทโฟนเป็นข้อมูล ทำให้ความแม่นยำเรื่องระยะทาง และความเร็ว ก็จะแปรผันตามความแม่นยำ GPS ที่เราใช้งานร่วมกัน และยังมีกิจกรรมพวกเล่นฟิตเนสต่างๆ ให้เลือกบันทึก ซึ่งผลการเล่นกีฬา ก็จะถูกนำไปประมวลผลในแอพของ Fitbit ด้วยเช่นกัน
อีกทั้งยังมีบริการให้ข้อมูล Coaching ด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย วางแผนให้เราฟิตร่างกาย ทั้งด้านของการลดน้ำหนัก ฯลฯ ซึ่งถ้าลองจัดระเบียบแล้วเล่นตาม ก็ช่วยให้ร่างกายมีการพัฒนาด้านสุขภาพที่ดีขึ้นได้
เพิ่มเติมอีกโหมดที่น่าสนใจ คือ Relaxing หรือจริงๆ ก็คือตัวช่วยให้เรานั่งสมาธิ โดยจะช่วยกำหนดลมหายใจเข้า – ออก เป็นจังหวะ และทำเป็นคอร์สให้เราทำ เพื่อให้ได้ผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างวัน ซึ่งระบบจะจับว่าเรามีความเครียดสะสมหรือไม่ โหมดนี้จะเด้งขึ้นมาและให้ทำประมาณ 2-3 นาที ก็ช่วยให้จิตใจเราได้พักและสงบได้
Fitbit Versa Lite Edition เหมาะสำหรับใคร?
ด้วยดีไซน์เรียบๆ แต่ดูดีแบบนี้ มีสายหลายแบบให้เลือกซื้อมาเปลี่ยนให้เข้ากับแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ราคาก็ถือว่าไม่ได้สูงจนเกินไป ฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ตอบโจทย์ในกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬาจ๋า แต่ก็มีการออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส และสนใจใส่ใจเรื่องสุขภาพของตัวเอง
ในเวอร์ชั่นนี้ เรื่องการปรับแต่งดีไซน์ หรืออุปกรณ์เสริมสำหรับเปลี่ยน อย่างพวกสายนาฬิกา ก็มีการออกแบบมาให้เลือกหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่สายซิลิโคนที่มีหลายสี แต่ยังมีรูปแบบ และวัสดุที่แตกต่างกันไป หลายอย่าง เพื่อให้เราสามารถใช้งานเพื่อนเล่นกีฬา ก็ใช้พวกสายซิลิโคน แต่ถ้าอยากแฟชั่น หรือเข้ากับสไตล์การแต่งตัวแต่ละวัน ต่างโอกาส ก็เลือกเปลี่ยนสายได้อย่างที่ต้องการ
เรื่องของแบตเตอรี่ ก็เป็นสิ่งที่น่าประทับใจ เพราะใช้งานต่อเนื่องได้หลายวัน ทั้งๆ ที่เป็นหน้าจอแบบสี ส่วนการชาร์จจนเต็มถ้าหากใช้จนแบตใกล้หมด (เหลือ 10-20%) จะใช้เวลาชาร์จราวชั่วโมงกว่าๆ แนะนำว่า ให้ชาร์จทุกวันครับ ง่ายๆ แค่กลับบ้านมา ตอนที่อาบน้ำก็ถอดชาร์จเอาไว้ 10-15 นาที ก็ช่วยเติมแบตเตอรี่ให้เต็มได้ทุกวัน
Fitbit Versa Lite Editionถือว่าเป็นอีกตัวช่วยที่จะให้คุณรู้ว่า ในแต่ละวันคุณฟิตแค่ไหน นอนเต็มอิ่มหรือไม่ ออกกำลังกายเพียงพอหรือเปล่า เพื่อช่วยเตือนและปรับพฤติกรรมในการดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้าเทียบกับ Versa รุ่นปกติแล้ว ถือว่าเป็นปรับลดฟีเจอร์ออกไปให้ราคาถูกลง โดยคงตัวฟีเจอร์หลักในการติดตามสุขภาพ และใช้งานฟังค์ชั่นของแอพ Fitbit ได้แบบครบถ้วนที่สุด