หลังจากการทดสอบมากว่าปี ในที่สุดตอนนี้ Google ก็พร้อมนำเสนอ Android 10 ให้ใช้งานกันอย่างเป็นทางการแล้ว
เวอร์ชั่นใหม่นี้เป็นการออกแบบให้สอดคล้องกับเทรนด์เทคโนโลยีหลัก 3 อย่าง หนึ่ง คือความสามารถในการรองรับกับอุปกรณ์ใหม่ๆ อย่างเช่นสมาร์ตโฟนพับจอได้ และสมาร์ตโฟน 5G
สอง คือการโฟกัสให้ความสำคัญ ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานและความปลอดภัย มีฟีเจอร์มากกว่า 50 อย่าง เพิ่มระบบป้องกันให้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พร้อมการควบคุมเรื่องต่างๆ ให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
สาม ออกแบบผสมผสานการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลกับชีวิตของผู้คน ให้ดีมากขึ้น สามารถเชื่อมต่อกันและกัน หรือระหว่างเราและครอบครัวด้วยเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว
แน่นอนว่าเครื่องรุ่นแรกที่ได้อัปเกรด จะเป็น Google Pixel ทั้ง 3 รุ่น เริ่มเปิดให้ใช้งานได้ทั่วโลก ส่วนผู้ผลิตเจ้าอื่นๆ ก็ได้ส่งให้เริ่มพัฒนา และเตรียมออกอัปเดตเวอร์ชั่นภายในสิ้นปีนี้
New statue and signing tradition! #android pic.twitter.com/zDyPYgKSPc
— Dave Burke (@davey_burke) September 3, 2019
มาลองดูตัวอย่างฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจของเวอร์ชั่นใหม่นี้กัน
Live Caption นี่คือความสามารถใหม่ ในการขึ้นตัวหนังสือซับไตเติ้ล แสดงคำพูดจากคลิปวิดีโอที่เราดูบนสมาร์ตโฟนทุกคำ เหมือนกันกับปุ่ม CC บน YouTube ที่นี้ไม่ว่าจะเป็นคลิปอะไร ดูจากที่ไหน เราก็สามารถปิดเสียงอ่านซับได้ทุกคลิป
Dark Theme เปลี่ยนพื้นหลักหน้าจอทั้งหมดให้เป็นสีเข้ม ลดความสว่างลง และช่วยประหยัดพลังงาน
Gesture Navigation สามารถควบคุมเครื่องด้วยการวาดนิ้ว ไม่จำเป็นต้องมีปุ่มปุ่ม Navigation Bar ที่ใต้หน้าจออีกต่อไปแล้ว เพิ่มพื้นที่แสดงผลเต็มประสิทธิภาพ ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
เพิ่มการควบคุมข้อมูลตำแหน่ง Location ในเวอร์ชั่นปัจจุบันที่เราใช้งานกันอยู่ หลายคนอาจไม่ค่อยรู้เรื่องการตั้งค่านี้ แต่ในเวอร์ชั่นใหม่ จะมีระบบการควบคุมเพิ่มมากขึ้น สามารถอนุญาตให้รู้ตำแหน่ง GPS ของเราได้ต่อเมื่อเราเปิดเข้าแอปเท่านั้น เป็นต้น
ปกป้องข้อมูลการติดตามของเครื่อง แอปต่างๆ จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล IMEI, Serial Number หรือข้อมูลที่ระบุเฉพาะเครื่องของเราได้ และ MAC Address จะถูกสุ่ม เมื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ทั่วไป
Dynamic Depth เพิ่มความสามารถการเข้าถึงข้อมูลระยะชัดตื้นลึกของภาพ ที่อยู่ใน JPEG, XMP Metadata ช่วยให้ทำภาพหน้าชัดหลังเบลอ ละลายพื้นได้เนียน และสวยงามสมจริงมากยิ่งขึ้น และเป็นเทคโนโลยี Open Format ที่สามารถใช้งานรวมกันกับแต่ละบริษัทได้หมด
Codec Audio และ Video ตัวใหม่ AV1 ช่วยเพิ่มคุณภาพของทั้งเสียงและวิดีโอให้คมชัดมากขึ้น แต่ใช้แบนด์วิดธ์น้อยลง แถมยังรองรับ HDR10+ ให้อรรถรสของภาพอย่างเต็มที่
Wi-Fi โหมด Performance เพิ่มระบบการเชื่อมต่อ Wi-Fi แบบประสิทธิภาพสูง และมีความหน่วงดีเลย์สัญญาณต่ำ ช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น ลดการสะดุด หรือการใช้งานเพื่อคุยเสียง
เรียกว่าฟีเจอร์ใหม่นี่เพียบ เล่ากัน 5 หน้ายังไม่หมด ใครที่อยากดูรายละเอียดเต็มๆ ก็สามารถเข้าไปตามลิงก์ที่มาต้นทางด้านล่างกันได้เลย
ที่มา: Google Blog