เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย ได้กล่าวว่า หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีนกำลังสร้างแนวร่วมกับพันธมิตรและร่วมกันทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์และสังคม
“ผมคิดว่าเป้าหมายของหัวเว่ยคือการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และให้บริการอันล้ำสมัยแก่มนุษยชาติ”
มร. เหริน กล่าว ในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก ทีวี
“เราจะเพิ่มการพัฒนาความร่วมมือกับบริษัทใด ๆ ก็ตามที่เต็มใจให้การสนับสนุนแก่เรา” เขากล่าวกับสื่อในระหว่างการให้สัมภาษณ์แยก “มีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า ‘การทำสิ่งที่ถูกต้องมักได้รับการสนับสนุนมากมาย ส่วนการทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องมักได้รับการสนับสนุนเพียงน้อยนิด’ เราจึงยึดมั่นแนวทางนี้เพื่อสร้างแนวร่วมขึ้นมา”
งาน Huawei Asia-Pacific Innovation Day ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 3 กันยายน ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน จะมีทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักประดิษฐ์ นักวิชาการ และผู้กำหนดนโยบายจำนวนมากมาร่วมประชุมกันเพื่อแสวงหาแนวทางการใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยในเชิงสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อสังคม อาทิเช่น 5G ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รวมไปถึงวิธีที่เทคโนโลยีจะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในทุก ๆ ด้าน
ในงานหัวเว่ยจะเปิดตัวฐานของระบบอีโคซิสเต็ม “คุนเผิง” พร้อมจัดแสดงนวัตกรรมใหม่ ๆ อาทิ การแพทย์ทางไกลด้วย 5G และแอปพลิเคชั่น AI สำหรับเด็กที่สูญเสียการได้ยิน
“ตลอดเวลา 30 ปีที่ผ่านมา หัวเว่ยเป็นบริษัทแถวหน้าที่ให้การช่วยเหลือผู้คน เราคอยให้การสนับสนุนในทุก ๆ ที่ ทุก ๆ เวลา ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีโรคระบาดหรือในภาวะสงคราม หรือช่วงเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ การรั่วไหลของนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย กล่าว
เหริน ได้บอกกับสื่อว่าในอีกห้าปีข้างหน้า หัวเว่ยจะทุ่มงบราว 100,000 ล้านเหรียญเพื่อปรับโฉมสถาปัตยกรรมเครือข่าย เพื่อให้เครือข่ายมีความเรียบง่าย เร็วขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และเชื่อถือได้มากขึ้น
“เมื่อความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้น เราจะได้เห็นเศรษฐกิจเติบโตขึ้นมากอย่างไม่น่าเชื่อ 5G จะเร็วกว่า 4G อย่างน้อย 10 เท่า และความเร็วที่มากขึ้นนี้จะขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว” มร. เหริน กล่าว
จากรายงานความยั่งยืนประจำปี 2018 ของบริษัท เทคโนโลยีใหม่ ๆ ทำให้ 5G ของหัวเว่ยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของสถานี 5G ไปถึงร้อยละ 20 จากอัตราการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
ด้วยโครงการต่าง ๆ อาทิ Tech4ALL ซึ่งเน้นย้ำในด้านการเชื่อมต่อ การใช้งาน และทักษะ ผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของโลกอย่างหัวเว่ย จะช่วยให้ประชากรอีกกว่า 500 ล้านคน ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในอีกห้าปีข้างหน้า
“ในสังคมแห่งข้อมูล แม้แต่เด็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญก็ยังเข้าใจความเป็นไปของโลกได้ และเด็กเหล่านั้นจะพัฒนาได้เร็วขึ้น สร้างผลผลิตมากขึ้น ซึ่งนั่นทำให้เกิดความร่ำรวยมากขึ้น คนจำนวนมากจะหลุดพ้นจากความยากจน ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างประโยชน์ต่อสังคมทั้งสิ้น”
จากความท้าทายต่าง ๆ ที่บริษัทต้องประสบในช่วงที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทหัวเว่ยจะไม่ล่มสลายจากการกีดกันของสหรัฐฯ “อันที่จริงแล้ว ธุรกิจของเราดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเสียอีก”
ในครึ่งแรกของปี 2019 รายได้ของบริษัทเพิ่มสูงถึง 401,300 ล้านหยวน สูงขึ้น 23.2% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ปีนี้บริษัทจะลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาอีก 120,000 ล้านหยวน จากรายงานในช่วงครึ่งแรกของปี
“เราต้องการสร้างความพึงพอใจให้แก่สังคมและประชากรโลก เพราะเป้าหมายสูงสุดของเรา คือการให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งก็คือประชากร 6,500 ล้านคน หรืออาจมากกว่านี้ในอนาคตจากการเชื่อมต่อ IoT เราจึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณค่าให้แก่ลูกค้า และตอบสนองความต้องการของคนทุกคน” เหริน เจิ้งเฟย กล่าวทิ้งท้าย