เพิ่งเปิดตัว Garmin Fenix 6 ไปอาทิตย์ก่อน ตอนนี้ตามมาติดๆ ด้วย Garmin Venu อีกหนึ่งรุ่น มาพร้อมหน้าจอแบบ OLED เป็นครั้งแรก สีสันคมชัดสวยใส แข่งกับ Apple Watch ได้เลยทีเดียว
ขนาดตัวเรือนที่ 43 มิลลิเมตร หน้าจอขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 390 x 390 พิกเซล สามารถตั้งเป็นโหมด Always-On แสดงเวลาตลอดเวลา 7/24 ได้เลย ออกแบบมาให้สามารถแสดงแจ้งเตือนต่างๆ เวลาอยู่ออฟฟิศ
[youtube v=”x5qx6fA2brM”]
หรือช่วยให้ออกกำลังกายได้ตามเป้าหมาย ใช้เป็นอุปกรณ์สำหรับจ่ายชำระค่าต่างๆ ด้วย Garmin Pay และยังสามารถจับการนอนหลับของเราในตอนกลางคืนได้ด้วยเช่นเดียวกัน
จริงๆ แล้วก็ค่อนข้างเหมือนเอารุ่น Vivoactive มาอัปเกรดใหม่ ให้มีความสามารถมากขึ้น สามารถแข่งกับ Apple Watch ได้ รวมถึงคู่แข่งอีกเจ้าอย่าง Fitbit Versa 2 ด้วย ที่เน้นใช้งานในร่มมากกว่ากล้างแจ้ง
และด้วยหน้าจอใหม่นี้ ก็สามารถแสดงผลอะไรได้หลายอย่างมากยิ่งขึ้น สามารถแสดงข้อมูลเฉพาะ สำหรับกิจกรรมการออกกำลังกายแต่ละแบบได้ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
ใส่การแสดงข้อมูลใหม่ๆ อย่างการติดตามความชุ่มชื้นในร่างกายได้ ระบบติดตามการหายใจแบบใหม่ จับความเครียด สามารถติดตามรอบเดือนสำหรับผู้หญิงได้
และระบบจับการนอนแบบ Pulse OX Sleep Tracking ที่วัดความอิ่มตัวของออกซีเจนในเลือด เพื่อดูว่าการนอนของเรานั้น มีคุณภาพดีเพียงพอมากแค่ไหน
สามารถใช้งานได้ทั้งกับ iOS และ Android รองรับกับแอปอย่าง Spotify, Deezer และ Amazon Music ใช้งานในโหมดสมาร์ทวอทช์ได้นานสูงสุดถึ 5 วัน หรือ 6 ชั่วโมง ในโหมด GPS + เล่นเพลงไปด้วย
Garmin Venu เตรียมจำหน่ายเดือนนี้ ที่ราคา $399.99 ประมาณ 12,200 บาท
[youtube v=”IApAtpWIvjY”]
นอกจากนั้นยังอัปเดตรุ่นใหม่ Garmin Vivoactive 4 มาใหม่ด้วย เป็นขนาด 45 มิลลิเมตร ทำงานได้นานสูงสุด 8 วัน และสูงสุด 6 ชั่วโมง ในโหมด GPS + เล่นเพลงไปด้วย
ส่วนอีกรุ่นที่เล็กลง Vivoactive 4S ขนาด 40 มิลลิเมตร ใช้งานได้นานสูงสุด 7 ชั่วโมง และ 5 ชั่วโมง ในโหมด GSP + เล่นเพลงไปด้วย ทั้งสองตัวในหน้าจอแบบ Transflective เหมือนกับใน Vivoactive 3
ช่วยให้อ่านได้ชัดเจนมากกว่าภายใต้แสงแดดจ้ากลางแจ้ง ไม่เหมือนกับ OLED ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ จะเหมือนกันกับใน Venu เลย เริ่มจำหน่ายเดือนนี้ที่ราคา $349.99 ประมาณ 10,700 บาท
[youtube v=”Bqk6F6K61Z8″]
ปิดด้วยรุ่นสุดท้าย Vivomove เน้นความแฟชั่น มาพร้อมเข็มเดินได้แบบ Analog ผสมหน้าจอที่ซ่อนอยู่ด้านล่าง มีการเพิ่ม GPS, Garmin Pay, Pulse OX Sleep Tracking และระบบต่างๆ มากมายเหมือนกับ 2 รุ่นข้างบน
มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น คือ Luxe ขนาด 42 มิลลิเมตร ใช้วัสดุสแตนเลสสตีลและกระจก Sapphire Crystal มีสายทั้งหนังและโลหะ ส่วนอีกรุ่น Style ขนาดเท่ากัน แต่ใช้สายแบบไนลอนและซิลิโคน
รุ่น Vivomove 3 ขนาด 44 มิลลิเมตร และ 3S ขนาด 39 มิลลิเมตร มาพร้อมสายซิลิโคน ใช้งานได้นานสูงสุด 5 วัน ราคาเริ่มที่ $249.99 – 549.99 ประมาณ 7,600 – 16,700 บาท
ที่มา: The Verge