ปีนี้ OPPO มีเรื่องเซอร์ไพรส์ทีมงานล้ำหน้าฯ บ่อยมาก และนี่ก็เป็นอีกครั้ง เราจะมา พรีวิว OPPO A9 2020 ที่ไม่ธรรมดาด้วยสเปคที่แรงสุดในซีรี่ย์ A เท่าที่ออปโป้เคยมีมา
ตามปกติแล้ว ในตระกูล A ของ OPPO นั้น จะเป็นกลุ่มของสมาร์ทโฟนตั้งแต่ระดับเริ่มต้น Entry Level ไล่มาจนอยู่ในระดับ ไม่เกิน 10,000 บาท ถือว่าเป็นรุ่นราคาไม่แพง เหมาะสำหรับคนที่งบไม่เยอะ หรือต้องการสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่สูงมาก แต่ได้ประสิทธิภาพการใช้งานที่น่าพึงพอใจ
แต่กับ A9 2020 (ออกปีนี้ ตั้งชื่อรุ่นปีหน้ารอไว้เลย) ดูจะเป็นการแหวกธรรมเนียมเดิมของตระกูล A โดยทางออปโป้บอกเราว่า จะมีจัดงานเปิดตัว พร้อมทั้งยังยกระดับเรื่องของสเปคให้ชนิดที่ว่า “ดีสุดแรงสุด” โดยประกาศกร้าวกับเราว่า “พร้อมชนพร้อมฆ่าทุกรุ่นทุกแบรนด์ในกลุ่มราคานี้”
นานๆ เราจะเห็นออปโป้ออกตัวแบบเกรี้ยวกราดขนาดนี้ แปลว่า A9 2020 จะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ดังนั้น เราจะมาพรีวิว แกะกล่อง และเล่าบอกถึงเรื่องเด่นๆ สเปคเด่นๆ ให้ได้ทราบกัน
สเปค OPPO A9 2020
เริ่มต้นเรามากางดูข้อมูลสเปค A9 2020 กันก่อนเลย ย้ำกันเอาไว้ตั้งแต่ตรงนี้เลยว่า นี่คือสเปคของสมาร์ทโฟน ที่ราคาหลักพัน ยังไม่ถึงหมื่นบาทจริงๆ
- ขนาด 163.6 x 75.6 x 9.1 มิลลิเมตร
- หน้าจอ IPS ขนาด 6.5 นิ้ว แบบ Waterdrop Screen ความละเอียด HD+ ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 3+
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 665
- RAM 8GB LPDDR 4x
- หน่วยความจำภายใน 128GB (UFS 2.1) เพิ่ม microSD ได้ 256GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล (มุมกว้าง 79 องศา)
- กล้องหลังแบบ 4 กล้อง Quad-Camera
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล
- กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide Angle 119 องศา 8 ล้านพิกเซล
- กล้องวัดระยะ Portrait 2 ล้านพิกเซล
- กล้องขาวดำ Mono 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ 2 ซิม 3G/4G dual stand by ถาดซิมแบบ Triple tray
- ลำโพงคู่ Stereo ระบบเสียง Dolby Atmos
- เชื่อมต่อไร้สาย Wifi 2.4GHz/5GHz, Bluetooth 5.0
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6 บนพื้นฐาน Android 9.0
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C , ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- มีให้เลือก 2 สี Marine Green และ Space Purple
ลองสัมผัส จับของจริง OPPO A9 2020
เห็นครั้งแรกรู้สึกได้ทันทีว่า ได้ DNA จากรุ่นพี่อย่างซีรี่ย์ F รวมถึง Reno อยู่ไม่น้อย ตั้งแต่รูปทรง, การจัดวางเรียงกล้องและปุ่มต่างๆ ที่สวยงาม ตัวเครื่องโค้งมนถือถนัดมือ และมีเล่นไล่เฉดสีสันของฝาหลัง ให้ออกมาดูมีมิติแวววาว
ถือว่าการออกแบบทำดี ใส่ความพรีเมี่ยมมาให้อย่างหรูหรา ปุ่มกดต่างๆ วางเรียงในตำแหน่งที่จับได้ถนัดมือ ปุ่ม Power อยู่ด้านขวา ส่วนปุ่มปรับระดับเสียงอยู่ด้านซ้าย ตัวเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ที่ด้านหลังตรงกลางต่อจากชุดเลนส์กล้อง
ด้านล่างเครื่องพอร์ตเชื่อมต่อมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และพอร์ต USB-C ทีนี้ก็เลิกบ่นเลิกแซวออปโป้กันได้แล้วนะ เปลี่ยนจาก Micro USB เป็น USB-C ที่ทุกคนอยากได้เรียบร้อยแล้ว
หน้าจอเป็นแบบ IPS ขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว เว้นติ่งหยดน้ำเล็กด้านบนเล็กน้อย โดยตัวลำโพงสนทนาจะหลบขึ้นมาอยู่ด้านบน ถือว่าเป็นดีไซน์ที่ดี ให้พื้นที่ของหน้าจอได้ใหญ่เต็มตา แถมรุ่นนี้ยังให้ระบบเสียงเป็นลำโพงคู่มาให้ด้วยนะ
ประสิทธิภาพภายใน
ออปโป้ให้สเปค A9 2020 แบบที่ว่า แรงสุดเท่าที่จัดให้มาในรุ่นกลุ่มราคานี้ ตั้งแต่ชิปเซตที่ใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 665 AIE มีระบบ AI ในการทำงานที่ชาญฉลาด เรื่องของ RAM ให้มาเลยถึง 8GB แบบ LPDDR 4x ที่ดูแล้ว สเปคนี้เล่นเกมฮิตทั้งหลายได้สบายๆ แล้วล่ะ ไม่ต้องกังวล ตัวพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน ก็ให้มาอย่างใหญ่ถึง 128GB แบบ UFS 2.1 ที่รับส่งข้อมูลได้รวดเร็ว ถ้าหากใครคิดว่ายังไม่พอ ยังเพิ่ม microSD ได้อีก
ทางผมยังไม่ได้ทดสอบลองประสิทธิภาพแบบเต็มที่ แต่ดูจากสเปคคร่าวๆ นี้เชื่อว่าไหลลื่นใช้งานไม่มีสะดุดแล้วล่ะ ส่วนเรื่องเล่นเกมก็ไม่น่ามีปัญหา ทั้งเรื่องของสเปค และยังมีตัวระบบ Game Boost 2.0 ของ OPPO มาช่วยเสริมให้ด้วย
ไม่มีผิดหวังทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ออปโป้นั้นพัฒนาเรื่องกล้องบนสมาร์ทโฟนมาอย่างต่อเนื่อง และใน A9 2020 เอง เท่าที่ลองใช้งานแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
กล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่ใส่ AI Beautification ให้มาด้วย เรียกว่าถ่ายมาไม่ต้องกังวลว่าจะหน้ามืดหรือไม่สวย เพราะระบบจะช่วยปรับให้ภาพออกมาสวยเนียน ในสภาพย้อนแสงก็ยังหน้าใสนวลกระจ่างได้
กล้องหลังเป็น 4 เลนส์ แต่อาจจะแปลกๆ หน่อยเพราะเลนส์ที่ 4 เป็นแบบโมโน เพื่อเอามาช่วยเรื่องของการถ่ายภาพ Portrait ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นมีสมาร์ทโฟนในปัจจุบันใช้กันสักเท่าไหร่
- Ultra Night Mode 2.0 สำหรับถ่ายในเวลากลางคืนหรือแสงน้อย เก็บแสงสีได้สวย และรายละเอียดในภาพมีความคมชัด ไม่ได้สว่างเวอร์เกินจริง
ลองใช้คร่าวๆ มีอะไรที่น่าสนใจบ้างกับรุ่นนี้
พรีวิวลองเล่นกันแล้ว มีหลายอย่างเลยล่ะที่รู้สึกน่าประทับใจ จะมาไล่กันเป็นข้อๆ กันเลย
- หน้าจอแม้ว่าจะเป็น IPS ไม่ใช่ Super AMOLED แต่สีสันก็ถือว่ายังแสดงผลได้สวยสดดี ซึ่งออปโป้มีใส่เทคโนโลยี Sunlight screen ช่วยให้ใช้งานกลางแจ้งก็ยังมองเห็นได้ชัด และมี Blue Shield ช่วยลดแสงสีฟ้ามาให้ด้วย
- ถ่ายวิดีโอมีระบบกันสั่นให้แล้ว จริงๆ ก็คือ EIS ล่ะ ซึ่งลองใช้ดูแล้วโอเคเลย คือลดการสั่นไหวของภาพวิดีโอแบบเดินถ่ายได้จริงๆ ไม่มีกระโดกกระเดกสั่นให้เห็นแล้ว ถือว่าดีมากๆ
- เมนูและฟีเจอร์กล้องยกรุ่นพี่มาแบบครบเซ็ต ท้ง Ultra Night Mode 2.0 ถ่ายกลางคืนให้ได้สีสันสดใส, โหมด AI Beauty ปรับหน้าสวยเป็นธรรมชาติ ส่วนกล้องหลังถ่าย Portrait ได้ตัวกล้อง Mono มาช่วยเรื่องความคมชัดและรายละเอียดในภาพก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของ OPPO เลย
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ หาไม่ได้ง่ายๆ เลยกับสมาร์ทโฟนราคาหลักพัน ไม่ถึงเกินหมื่นบาท ที่จะมีระบบเสียงลำโพง Stereo มาให้ ทำให้เวลาดูหนังฟังเพลงเล่นเกม ได้เสียงมีมิติมากขึ้น แถมยังมี Dolby Atmos ระบบเสียงกระหึ่มบึ้มๆ ดูหนังฟังเพลงแบบฟินไปเลย
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh ขนาดใหญ่ใช้เต็มวันแบบไม่ต้องห่วงกังวลอะไร ใช้ยังไงก็เหลือ แถมมีระบบ Reverse Charging เสียบสาย USB ใช้จ่ายไฟออกไปชาร์จอุปกรณ์หรือสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นก็ได้
ที่ออปโป้บอกกับเราว่าA9 2020 คืออาวุธหนักที่จะส่งลงมาลุยตลาดสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นบาท หลังจากได้ลองจับลองเล่นแล้ว ก็ยอมรับว่า นี่เป็นของแรงที่อัดมาเกินราคาตัวนึงเลยทีเดียว ลืมภาพของ OPPO A Series ที่เป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กไปได้เลย เพราะว่าน้องคนนี้มาพร้อมเขี้ยวเล็บที่เจ็บจี๊ดน่าดูชม
เรื่องราคา วันวางจำหน่าย และการเปิดตัว (ใช่แล้วครับ งานนี้ OPPO จัดงานเปิดตัวให้รุ่นนี้ด้วย) อดใจอีกนิด บอกเลยว่าไม่นานเกินรอครับ