แม้ว่าระบบ iOS 13 ของ Apple จะมีข้อผิดพลาดหรือบั๊กอยู่บ้างในช่วงแรกๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้อัปเดตกันน้อยลงเลย เพราะหลังจากเปิดตัวมาได้ 26 วัน ก็มีผู้ใช้ iPhone อัปเดตไปแล้วกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หรือครึ่งนึงของผู้ใช้ทั้งหมด
แต่ถ้าหากว่าเทียบกับ iOS 12 ตัวก่อน ก็ถือว่าเวอร์ชั่นนี้ทำได้ช้ากว่าเล็กน้อย เพราะของ iOS 12 นั้น ใช้เวลาเพียงแค่ 23 วันเท่านั้น ในการไต่ระดับมาถึงที่ 50 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ใช้งานทั้งหมด
แต่ก็ต้องไม่ลืมตัวแปรในเรื่องของจำนวนเครื่อง iPhone ด้วย เพราะว่าในช่วงเวลาที่เปิดตัว iOS 12 นั้น ยังไม่ได้มีจำนวน iPhone ทั่วโลกมากเท่าตอนนี้ ซึ่งเทียบในช่วง 4 ปีล่าสุด จำนวนผู้ใช้ iPhone ก็เพิ่มมากถึง 55 เปอร์เซ็นต์
สัดส่วนเวอร์ชั่น iOS ในปัจจุบัน iOS 13 ที่ 50 เปอร์เซ็นต์, iOS 12 ที่ 41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 9 เปอร์เซ็นต์นั้น จะเป็น iOS เวอร์ชั่นที่เก่ากว่านี้ โดยเป็นตัวเลขที่ Apple เช็กจากตัวเครื่องที่มีการเข้าใช้งานผ่าน App Store
ถ้าหากนับเฉพาะเครื่องที่มีอายุไม่เกิน 4 ปี สัดส่วนจะอยู่ที่ iOS 13 ได้ 55 เปอร์เซ็นต์, iOS 12 ที่ 38 เปอร์เซ็นต์ และ iOS เวอร์ชั่นเก่ากว่าที่ 7 เปอร์เซ็นต์
ส่วน iPadOS มีสัดส่วนที่ 33 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนเครื่องทั้งหมด และที่ 41 เปอร์เซ็นต์เฉพาะเครื่อง iPad ตัวใหม่ๆ
แม้ว่าตัวเลขความเร็วเหล่านี้จะลดน้อยลงกว่าปีที่แล้ว แต่ก็ยังนับว่าเร็วกว่าระบบของ Google Android ซึ่งตัวแปรหลักก็คือเรื่องของฮาร์ดแวร์ตัวเครื่อง ที่ Apple นั้น ไม่ได้มีความหลากหลายมากเท่ากับของ Android ซึ่งช่วยให้อัปเกรดได้ง่ายกว่ามาก
แล้วแถมระยะหลังๆ มานี้ Google ก็ดูเหมือนจะเลิกรายงานจำนวนและสัดส่วนการใช้งานของระบบ Android แต่ละเวอร์ชั่นไปแล้วด้วย ทำให้ตอนนี้ไม่รู้ว่าตัวเลขของระบบ Android 10 นั้นไปถึงไหนแล้ว
ครั้งล่าสุดที่มีข้อมูลคือช่วงเดือนพฤษภาคม Android 9 Pie มีสัดส่วนอยู่ที่ 10.4 เปอร์เซ็นต์ของเครื่องระบบ Android ทั่วโลก ส่วนเวอร์ชั่นที่เก่ากว่านั้นก็จะมีตัวเลขอยู่ระหว่าง 15-30 เปอร์เซ็นต์
โดยเฉพาะกับเวอร์ชั่นที่เก่ามากแล้วอย่าง 5.0 Lollipop ยังมีผู้ใช้งานอยู่ถึง 14.5 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ส่วนเวอร์ชั่นที่มีการใช้งานมากที่สุดคือ Android 8.0 Oreo อยู่ที่ 27 เปอร์เซ็นต์
ที่มา: The Verge