วันพลัส ประเทศไทย ส่งสมาร์ทโฟนใหม่ส่งท้ายปี ที่เป็นการอัปเกรดประสิทธิภาพรุ่นที่ออกช่วงต้นปีที่ว่าแรงลื่นปื้ดแล้ว ให้ลื่นปื้ดๆๆ ยิ่งกว่าเดิม นี่คือ พรีวิว OnePlus 7T Pro ที่ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้ลองเล่นดูแล้ว รู้สึกได้เลยว่า นี่คือสมาร์ทโฟนที่ใช้งานได้เพลินมือดีจริงๆ
แกะกล่อง Hand On ดูดีไซน์
แฟนวันพลัสตัวจริงจะรู้ว่า สีแดงนั้นคือสีเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ และกล่องของรุ่นนี้ก็มาเป็นทรงยาวสีแดงสดๆ ตัดด้วยตัวหนังสือสีดำ ที่ดูดุดันดีเหลือเกิน
ในตัวแพ็กเกจจะมีรายละเอียดเล็กน้อยตั้งแต่เอกสารคู่มือที่จะมาพร้อมจดหมายต้อนรับ, สติกเกอร์โลโก้ OnePlus รวมถึงตัวเข็มจิ้มถาดซิมเองก็อยู่บนกระดาษสีแดงที่เรียบดูดีมีสไตล์ พร้อมทั้งมีเคสใสแบบ TPU แถมมาให้ (ที่หน้าจอมีแปะฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย
ตัวสายชาร์จนี่บาดใจมากกับสายสีแดง แจ็คสีขาว และตัวอแดปเตอร์ชาร์จที่เป็นแบบ Warp Charge 30T ที่ชาร์จได้ไวขึ้นยิ่งกว่าเดิม
เอาล่ะ มาดูเรื่องดีไซน์ตัวเครื่องกันบ้าง หน้าตาของ OnePlus7T Pro นั้น ดูผ่านๆ แล้วต้องบอกว่าแทบจะเหมือนกับ OnePlus 7 Pro ที่ออกมาก่อนหน้านี้มากๆ จะมีแตกต่างนิดเดียวคือตรงบริเวณด้านหลัง ตัว Laser Autofocus ถูกย้ายมาไว้ที่ด้านข้างชุดโมดูลกล้อง และตัวสีเครื่องที่มากับสีใหม่อย่าง Haze Blue สีน้ำเงินไล่เฟดสีดำแบบด้านที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหมอกยามเช้า ส่วนขอบเครื่องเป็นโลหะเคลือบสีน้ำเงินเมทัลลิก สวยเรียบแบบพรีเมี่ยมมากๆ โดยกระจกทั้งหน้าหลังเป็น 3D Corning Gorilla Glass
หน้าจอเป็นแบบ Fluid Display ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 3120 x 1440 พิกเซล QHD+ (516ppi) รองรับ HDR 10+ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับค่า refresh rate 90Hz ที่ทำให้การเปิดดูและการเคลื่อนไหวต่างๆ มีความไหลลื่นนุ่มนวลกว่าหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่เป็นแบบ 60Hz อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงตัวจอนั้นเป็นพาเนลแบบ AMOLED ที่มีค่าความสว่างสูงถึง 1000 nits ที่สามารถเปิดใช้งานกลางแจ้งสู้แดดได้สบายๆ และยังรองรับ Display P3 ที่ให้ค่าสีที่ตรงจริง 100% เรียกได้ว่าเป็นหน้าจอของสมาร์ทโฟนที่ดีระดับต้้นๆ ของตลาดตอนนี้เลย
ตัวจอนั้นใหญ่เต็มไม่มีเว้นเว้าติ่ง เพราะออกแบบซ่อนเซนเซอร์ไว้ที่ใต้จอ ทั้งเซนเซอร์แสง รวมไปถึงเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่สแกนได้แม่นยำและรวดเร็วเพียงแค่ 0.21 วินาที ตัวไมโครโฟนสนทนาถูกหลบไว้ที่ขอบเครื่องด้านบน และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล แบบ Pop-Up หลบไว้อยู่ในเครื่อง ที่จะยื่นออกมาเมื่อเรียกใช้งาน ระบบกลไกแข็งแรงหายห่วงเลื่อนขึ้นลงได้หลายแสนครั้ง และมีระบบเก็บกล้องอัตโนมัติให้ทันที
ด้านข้างเครื่องจะเป็นปุ่มกดปรับระดับเสียงอยู่ทางซ้ายของเครื่อง ส่วนทางขวาจะมีปุ่มที่เป็นจุดเด่นของ OnePlus ก็คือ ปุ่มปรับสถานะของเครื่อง เป็นโหมดเงียบ, สั่น และเปิดเป็นเสียงเรียกเข้า สะดวกดีไม่ต้องไปปรับที่หน้าเมนู และก็มีปุ่ม Power อยู่ข้างๆ
ด้านล่างจะเป็นช่องถาดซิมที่รองรับแบบ Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และพอร์ต USB-C และลำโพงเสียง
กลับมาดูที่ด้านหลังเครื่องอีกรอบ ตัวโมดูลกล้องจะนูนออกมาจากเครื่องเล็กน้อย กล้องเป็นแบบ Triple Camera 3 ตัว ความละเอียด 48+16+8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ตำแหน่งการวางเรียงตำแหน่งวางกึ่งกลางเครื่องสวยงามต่อเนื่องกับโลโก้ของ OnePlus สีเงินที่อยู่ตรงกลางด้านหลังเครื่อง
ดีไซน์อย่างที่บอกคือ แทบไม่ได้ต่างอะไรจาก OnePlus 7 Pro เลย ส่วนตัวถือว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะก็ค่อนข้างชอบกับดีไซน์นี่ที่ลงตัวอยู่แล้ว และชอบตัวสี Haze Blue ที่เป็นแบบด้าน จับแล้วไม่ขึ้นลายนิ้วมืออีกด้วย
ประสิทธิภาพ
มาที่เรื่องสเปคนั้น เด่นชัดสุดกับ OnePlus 7T Pro คือการอัปเกรดขึ้นมาใช้ชิปเซตรุ่นใหม่ล่าสุดของ Qualcomm นั่นคือ Snapdragon 855+ ที่เร็วแรงกว่า 855 เดิมถึง 15% ตัว RAM ที่ให้มาอยู่ที่ 8GB LPDDR4X และหน่วยความจำภายในให้มาถึง 256GB แบบ UFS 3.0
ทั้งหมดนี้เป็นสเปคที่จัดมาให้การทำงานต่างๆ มีความไหลลื่นแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานของแอปต่างๆ ที่โหลดได้เร็ว การเซฟข้อมูลอ่านและเขียนที่เร็ว ผนวกกับความแรงของ CPU ที่ปรับแต่งให้แรงจิ๊ดยิ่งขึ้น ค่าทดสอบ Antutu ได้คะแนนมาแบบท่วมท้น แตะ 4 แสน เทียบใน ranking แล้วถือว่าอยู่กันเกือบสุดของหัวตารางกันเลย
OnePlus 7T Pro สเปคดีๆ สำหรับคอเกม
ด้วยความแรงของสเปคเครื่องระดับนี้ ถือว่าเหมาะสำหรับสายโมบายเกมมิ่งมากๆ เพราะยังมีตัวโหมดเกม Funatic Mode ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพของเครื่องให้เล่นเกมได้อย่างเสถียร รวมถึงตัดการแจ้งเตือนที่จะมารบกวนระหว่างการเล่นให้ด้วย
เครื่องแรงลื่นๆ จอสีสวยคมชัดแล้ว ยังมีเรื่องของลำโพงอีก เพราะจัดมาให้เป็นแบบคู่ Stereo พร้อมระบบ Dolby Atmos ที่เสียงดังกระหึ่มและมีมิติดีมากๆ พร้อมทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนระบบการสั่นของเครื่อง มาใช้เป็นแบบ Haptic Vibration ที่มีมิติของการสั่นที่ลุ่มลึกกว่าแบบมอเตอร์ทั่วๆ ไป ในหลายเกมที่รองรับการสั่นสัมผัสได้ว่ามีความนุ่มนวลกว่าเดิม
ประสบการณ์การใช้งาน
ตัวระบบปฏิบัติการแกะออกมาจากกล่องจะเป็น OxygenOS 10 บนพื้นฐานของ Android 10 เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ติดตั้ง Android 10 มาพร้อมเรียบร้อย (ก่อน Pixel 4 ของ Google ที่เปิดตัวทีหลังอีกด้วย) จุดเด่นที่คนใช้วันพลัสชอบตัว OxygenOS ก็คือความเรียบง่าย สะอาดตา ลื่นไหล ไม่ยุ่งยาก และมีความเสถียรมากๆ
ต่อมาเรื่องของการใช้งานแบตเตอรี่ และพลังงาน OnePlus7T Pro เพิ่มปริมาณแบตเตอรี่จากรุ่นก่อนขึ้นมาเป็น 4,085 mAh ที่ใหญ่พอสำหรับการใช้งานทั่วไปตลอดทั้งวัน แต่ถ้าเล่นเกมหนักๆ นี่ ก็ต่อเนื่องได้เกือบๆ 3-4 ชั่วโมงเลย
กล้องถ่ายภาพ และ วิดีโอ
เรื่องกล้องของ OnePlus 7T Pro ก็มีการอัปเกรดความสามารถใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาหลายอย่าง ให้การถ่ายภาพและวิดีโอบนสมาร์ทโฟนทำได้ดีขึ้นอีกระดับ เริ่มกับกล้องหน้าที่เป็นแบบ Pop-Up ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 ที่ทำให้การถ่ายเซลฟี่เก็บความสว่างในสภาพแสงน้อยได้ค่อนข้างดี มีให้เลือกทั้งโหมดถ่ายภาพปกติ, Portrait ที่ละลายฉากหลังให้ และมีเลือกปรับ Beauty ให้หน้าเนียนได้ 3 ระดับ และมี HDR ช่วยถ่ายเซลฟี่เวลาย้อนแสง ส่วนวิดีโอสามารถถ่ายได้ความละเอียดที่ 1080p
ส่วนกล้องหลังเป็นแบบ 3 เลนส์ Triple Camera ประกอบด้วย
- เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 รูรับแสง f/1.6 พร้อมระบบกันสั่นแบบ OIS
- เลนส์มุมกว้าง Ultra Wide 117 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2
- เลนส์ซูม TelePhoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 สามารถซูมแบบ Optical 3x ได้คมชัด และซูมได้ไกลสุดที่ 10x
ด้วยกล้อง 3 เลนส์นี้ ทำให้ OnePlus 7T Pro สามารถใช้งานถ่ายภาพได้น่าประทับใจมาก เพราะสามารถเก็บภาพได้ครบทุกมุมมองในสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว และยังมีการพัฒนาด้านซอฟท์แวร์กล้องพร้อมเพิ่มโหมดใหม่ๆ ให้อีกหลายอย่างด้วย เช่น
- ตัวซอฟท์แวร์กล้อง ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นด้วย UltraShot Engine
- ในโหมด Portrait สามารถเลือกได้ที่เลนส์ระยะปกติ 1x และมุมกว้าง ช่วยให้เก็บมุมมองภาพถ่ายบุคคลที่กว้างมากขึ้น
- ตัวเลนส์มุมกว้าง ระบบมีให้เลือกช่วยแก้ไขความบิดของเลนส์ ให้มีความตรงไม่เสียสัดส่วน
- เพิ่มโหมดถ่ายภาพ Macro วัตถุระยะใกล้ ที่ถ่ายได้ในระยะที่ใกล้ได้ถึง 2.5 เซนติเมตร
- การถ่ายภาพในโหมดกลางคืน Nightscape ใช้เวลาเก็บภาพและประมวลที่รวดเร็วขึ้น เลือกปรับถ่ายได้ทั้งมุมปกติและมุมกว้าง รวมถึงเพิ่มโหมด Tripod สำหรับถ่ายภาพตั้งกับขาตั้งกล้องที่ต้องการถ่ายเวลาที่มืดมากๆ
- ถ่ายวิดีโอเพิ่มโหมดลดการสั่นใหวที่ดีมากขึ้น ทำให้สามารถถ่ายวิดีโอในฉากเดินมีความไหลลื่นนุ่มนวล ไม่ขโยกเขยกสั่นไปมา
อีกสิ่งที่ชอบคือตัว UI ควบคุมกล้องตอนซูม ที่เป็นทั้งแบบแตะเลือกระยะ และแตะเพื่อเลื่อนซูมเข้าออกจากระยะ 0.6x ไปถึง 10x ที่ลากเป็นเหมือนปุ่ม dial วงกลมได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด เอาไว้เวลาถ่ายวิดีโอซูมเข้าออกได้อย่างนุ่มนวล
ลองเล่นแล้วรู้สึกอย่างไร?
ในปีนี้ ตัว OnePlus 7 Pro ที่ออกมาก่อน ผมได้ทดสอบและทดลองใช้ ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นที่ประทับใจและชอบมากๆ เพราะจัดสเปคต่างๆ มาเพื่อสร้างประสบการใช้งานที่ไหลลื่นสุดๆ ทั้งหน้าจอ 90Hz พร้อม CPU, หน่วยความจำ, RAM ทำให้การใช้งานทุกอย่างไม่รู้สึกว่าสะดุด เล่นเกมก็เรียกว่า แรงสุดจริงๆ
จากเดิมที่ประทับใจอยู่แล้ว พอมาเป็น OnePlus 7T Pro ก็อัปเกรดสเปคให้ดีขึ้นไปดีกขั้น และปรับรายละเอียดปลีกย่อยอีกเล็กน้อย ถือว่าเป็นการอัปเดตสเป็คของสมาร์ทโฟนให้ทันสมัยสุดในการวางตลาดช่วงปลายปี 2019 ได้ดี สมศักดิ์ศรีฉายา Super Flagship จริงๆ
มาพูดเรื่อง ราคา OnePlus 7T Pro กันบ้าง รอบนี้ถือว่า วันพลัส (ประเทศไทย) ยังคุมราคาให้เท่าๆ กับรุ่นเดิม โดยเปิดมาที่ 26,990 บาท ที่ตอนนี้เปิดให้สั่งซื้อออนไลน์ได้แล้วที่ ที่ AIS online, JD Central และ Lazada รวมถึงถ้าใครอยากจะลองสัมผัสของจริงก็ไปได้ที่หน้าร้านของ AIS Shop ได้ 33 สาขาที่ร่วมรายการ
พิเศษโปรโมชั่นกับทาง AIS รับส่วนลดค่าเครื่อง เหลือเพียง 21,990 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมสมัครแพ็กเกจตามที่กำหนด
และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://oneplus7tseries.onlineoneplus.com/
สรุปข้อมูล สเปค OnePlus 7T Pro
- ขนาดเครื่อง 162.6 x 75.9 x 8.8 mm
- น้ำหนัก 206 กรัม
- หน้าจอ Fluid Display 6.67 นิ้ว 3120 x 1440 พิกเซล QHD+ (516ppi) รองรับ HDR 10+ refresh rate 90Hz
- 3D Corning Gorilla Glass
- สีเครื่อง Haze Blue
- ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 10 ครอบทับ Android 10
- ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 855+ (Octa-core, 7 nm, up to 2.96 GHz)
- GPU Adreno 640
- RAM 8GB LPDDR4X
- หน่วยความจำภายในเครื่อง 256 GB UFS 3.0 2-LANE
- เซนเซอร์: In-display Fingerprint Sensor, Accelerometer, Electronic, Compass, Gyroscope, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor, Sensor Core, Laser Sensor
- พอร์ต USB 3.1 GEN1, Type-C
- แบตเตอรี่ 4,085 mAh รองรับ Warp Charge 30T Fast Charging (5V/6A)
- ระบบสั่นแบบ Haptic Vibration
- ลำโพงเสียงแบบสเตอริโอคู่ Dolby Atmos
- รองรับ 2 ซิม 4G
- Wi-Fi 2x2MIMO, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, 2.4G/5G