ตอกย้ำฉายา Xiaomi ที่ผลิตตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ด้วยสินค้าใหม่ล่าสุดอย่างตู้เย็น มีมาหลากหลายไซส์ หลากหลายจำนวนประตูให้เลือก
เริ่มด้วยตัวใหญ่สุดรุ่น Mi 4-Door Side-by-Side ขนาดความจุ 486 ลิตร ต่อด้วยรุ่น Mi 2-Door Side-by-Side ขนาดความจุ 483 ลิตร, รุ่น Mi 3-Door ขนาด 210 ลิตร และ Mi 2-Door ขนาด 160 ลิตร
ทุกรุ่นทุกขนาดมาพร้อมดีไซน์สไตล์ Minimalist เรียบหรู สีตู้แบบวัสดุไทเทเนียม มาพร้อมฟีเจอร์ด้านการแช่อาหารให้สดใหม่ โดยที่ไม่เป็นน้ำแข็ง
มีระบบ Three-Dimensional Air Circulation ปรับทิศทางองศาการปล่อยความเย็นในตู้ รักษาอุณภูมิให้คงที่ และไม่เป่าใส่อาหารโดยตรง เพื่อให้อาหารคงความสดใหม่ยาวนานมากยิ่งขึ้น
ด้านในยังติดตั้งเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิไว้ถึง 4 ตัว เพื่อปรับความเย็นภายในแบบอัตโนมัติ และมีโหมด Smart ที่สามารถปรับอุณหภูมิโดยวัดอิงจากอุณหภูมิภายนอกรอบๆ ตัวตู้ได้ด้วย
ตัวเครื่อทำงานได้เงียบเชียบ มีระดับเสียงการทำงานแค่ 39 เดซิเบลเท่านั้น และรุ่น 3 ประตู กับ 2 ประตู ยังประหยัดพลังงานสุดๆ กินไฟต่ำแค่ที่ 1.05 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 0.99 กิโลวัตต์ชั่วโมง ต่อการทำงาน 24 ชั่วโมง
ในรุ่นท็อป 4 ประตู มีระบบ XaioAi และการเชื่อมต่อกับแอป Mi Home สามารถควบคุมผ่านเสียงกับลำโพง Mi AI หรือสมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ ช่วยให้การปรับอุณหภูมิง่ายดายมากยิ่งขึ้น
หรือจะเปิดดูอุณหภูมิแบบทันที Real-Time จากที่ไหนก็ได้ เมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อไม่ได้อยู่ที่บ้าน
ราคาจำหน่ายของรุ่น 4 ประตู อยู่ที่ 3,299 หยวน ประมาณ 14,200 บาท, รุ่น 2 ประตู 483 ลิตร อยู่ที่ 2,499 หยวน ประมาณ 10,700 บาท, รุ่น 3 ประตู อยู่ที่ 1,699 หยวน ประมาณ 7,300 บาท และรุ่น 2 ประตู 160 ลิตร ที่ 1,099 หยวน ประมาณ 4,800 บาท
ถือเป็นเทรนด์ IoT ที่ Xiaomi สร้างมาอย่างต่อเนื่อง กับอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ ภายในบ้าน ที่สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด และมีระบบ AI และการเชื่อมต่อผ่านแอปสมาร์ทโฟน
ตัวเลขถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา มีอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกับแพล็ตฟอร์มของ Xiaomi แล้วมากถึง 196 ล้านตัว (ไม่รวมสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก) เติบโตขึ้นแบบ YoY ถึง 69.5 เปอร์เซ็นต์
และเมื่อนับผู้ใช้ที่มีอุปกรณ์มากกว่า 5 ตัว (ไม่นับสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก) ก็มีจำนวนที่มากถึง 3 ล้านคนแล้ว โตขึ้น YoY ถึง 78.7 เปอร์เซ็นต์
ไตรมาส 2 ของปี 2019 ที่ผ่านมา รายได้จาก IoT และสินค้า Lifestyle ของ Xiaomi โตขึ้น 44 เปอร์เซ็นต์ เป็นยอดตัวเลขทั้งหมด 1.49 หมื่นล้านหยวน หรือประมาณ 6.37 หมื่นล้านบาท
ที่มา: Mi Blog
