ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน Facebook เคยพยายามซื้อแอปลิปซิงก์ Musical.ly จากจีน ที่สุดท้ายได้กลายมาเป็นแอป TikTok ของ ByteDance ทุกวันนี้
ความพยายามเข้าซื้อกิจการของ Facebook เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2016 เพื่อจุดประสงค์ในการเจาะเข้าตลาดของจีน แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถปิดดีลมาได้ จน ByteDance สามารถซื้อตัดหน้าไปแทนในปี 2017
ทว่าแหล่งข่าวของ Bloomberg รายงานสาเหตุต่างออกไป บอกว่า Facebook ถอยออกมาเอง ด้วยเหตุผลว่ากลุ่มอายุฐานผู้ใช้งานส่วนใหญ่ของแอปเป็นเด็กวัยรุ่น และยังคงต้องให้สิทธิถือครองเป็นของจีน
Mark Zuckerberg วิจารณ์ถึงแอปตัวนี้ว่าปกปิดข้อมูลกับผู้ใช้งาน กับเนื้อหาที่อาจสร้างความขุ่นเขืองใจให้กับรัฐบาลจีน แต่ทาง TikTok ก็ปฏิเสธในเรื่องนี้ ว่าไม่ได้มีการกรองเนื้อหาอะไรแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน สมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ ก็กำลังเฝ้าดู ByteDance และ TikTok อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัทยังปฏิเสธที่จะส่งผู้บริหารไปให้ความเห็นต่อสภาคองเกรส
เมื่อเร็วๆ นี้ ในระหว่างการพูดที่มหาวิทยาลัย Georgetown University เดือนตุลาคมที่ผ่านมา Mark Zuckerberg บอกว่า “ในขณะที่บริการอย่าง WhatsApp ของเรา ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มผู้ประท้วงและนักกิจกรรม ด้วยเหตุผลจากระบบการเข้ารหัสข้อมูลที่เข้มงวด และระบบการปกป้องความเป็นส่วนตัว แต่บน TikTok ของจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ประท้วงกลับถูกเซ็นเซอร์ แม้แต่ในอเมริกานี้ด้วย นั่นคืออินเตอร์เน็ตที่เราต้องการเหรอ”
Instagram unveils its remarkably decent TikTok clone boostrapped from Stories & Explore. But can it teach its users to remix? https://t.co/rPuCBHoNb6
— Josh Constine (@JoshConstine) November 12, 2019
แหล่งข่าวบอกว่าสาเหตุที่ Mark ออกมาโจมตี TikTok ครั้งนี้ ก็เพราะว่าเป็นแอปตัวเดียวที่ Facebook ไม่สามารถเอาชนะได้ เลยเปลี่ยนมาเล่นในประเด็นเรื่องทางการเมืองและทางกฎหมายนี้แทน
ตัวแทนของ Facebook บอกว่า เราต้องการเปิดบริการของเราในประเทศจีน เพราะเราเชื่อในหลักการเชื่อมต่อทั้งโลกเข้าด้วยกัน แต่เราก็ไม่สามารถสรุปข้อตกลงร่วมกันได้ ส่วนทางด้านของ TikTok ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ที่มา: Business Insider