Seagate FireCuda 520 SSD รองรับ PCIe Gen4 สปีดเร็วได้ถึงระดับ 5GB/s

ตอนนี้ SSD ตัวแรงใหม่ล่าสุดของทาง Seagate มาถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว กับ FireCuda 520 มาพร้อมทีเด็ดคือความเร็วที่สุดจัดรับเทคโนโลยีใหม่อย่าง PCIe Gen4 x4 ในรูปแบบ NVMe 1.3 ที่ช่วยให้ความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูล SSD เพิ่มขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 45% เลยทีเดียว #seagategaming

สำหรับตระกูล Firecuda ของ Seagate นั้น ถือว่าเป็น SSD ในคลาสระดับท็อปสุดของแบรนด์นี้ (BaraCuda จะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป และ IronWolf สำหรับการใช้งานบน NAS)

Firecuda มีจุดเด่นคือเรื่องของความเร็วทั้งด้านการอ่าน และการเขียน สำหรับกลุ่มผู้ใช้ที่เน้นเรื่องของการเล่นเกม และกลุ่มที่ทำงานสายโปรดักชั่น กราฟฟิก ตัดต่อวิดีโอ โดยการติดตั้งจะเป็น M.2 2280 SSD แบบ Double Side ใช้อินเทอร์เฟสแบบ NVMe 1.3 ที่ใช้เป็นการเสียบกับบอร์ดผ่านช่องสัญญาณ PCI Express ทำให้ปลดล็อคความเร็วจากแบบเดิมที่เคยใช้เป็น SATA กันมานานนมตั้งแต่ยุค Harddisk จานหมุน ให้พุ่งทะยานทำความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลได้เร็วมากขึ้นอีกหลายเท่า

Seagate FireCuda 520 SSD ราคา

แล้ว FireCuda 520 ที่เป็น PCIe Gen4 นั้น มันแรงกว่า PCIe Gen3 ขนาดไหน?

ตามสเปคที่ Seagate ระบุมานั้น บอกว่า FireCuda 520 คือ SSD ที่เร็วที่สุดในท้องตลาดตอนนี้ มีประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลได้สูงสุดถึง 5000MB/s (หรือ 5GB/s) ส่วนความเร็วในเขียนได้สูงสุดที่ 4400MB/s (4.4GB/s)

เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่เป็น PCIe Gen3 แล้ว ถือว่าประสิทธิภาพดีขึ้นมาถึง 45% หรือว่าเกือบ 1.5 เท่ากันเลย (รุ่น PCIe Gen3 ทำความเร็วเขียน-อ่านได้อยู่ที่ประมาณ 3450/3200 MB/s) แล้วถ้าเกิดเอาไปเทียบกับ SSD แบบ SATA อันนี้ยิ่งแรงกว่าถึง 9 เท่าไปเลย

Seagate FireCuda 520 SSD ราคา

เจาะลึกประสิทธิภาพแบบละเอียด

แกะกล่องตัวแพ็กเกจมา ก็จะมีตัว SSD พร้อมกับเอกสารรับประกัน ตัว SSD นั้นจะมีขนาดเล็กๆ ที่เอาไปเสียบกับมาเธอร์บอร์ด AMD X570 ชิปเซ็ต PCIe 4.0 ได้เลย หรือจะใช้กับบอร์ดรุ่นก่อนหน้านี้ที่รองรับ PCIe 3.0 ก็สามารถเสียบใช้งานได้เช่นกัน แต่ทว่าความเร็วในการเขียนอ่านก็จะไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ

ความจุนั้น Seagate ออกมาให้เลือกใช้ด้วยกันทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกันคือ 500GB, 1TB และ 2TB ส่วนเรื่องเทคโนโลยีในการผลิตนั้น เป็น NAND Flash Memory แบบ 3D TLC ที่เป็นรุ่นล่าสุด ได้ประสิทธิภาพทั้งความเร็ว แรง และความทนทาน ซึ่ง perfomance ต่างๆ จะมีดังนี้

  • ความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุด 5000 MB/s
  • ความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงสุด 4,400 MB/s สำหรับรุ่น 500GB จะเขียนเร็วสุดได้ 2500 MB/s
  • ปริมาณการเขียนข้อมูลได้ทั้งหมด (Total Bytes Written)
    • รุ่น 2TB ได้ 3,600 TB
    • รุ่น 1TB ได้ 1,800 TB
    • รุ่น 500GB ได้ 850 TB
  • ค่าเฉลี่ยชั่วโมงการใช้งานก่อนหมดอายุการใช้งาน (Mean Time Between Failures – MTBF) อยู่ที่ 1.8 ล้านชั่วโมง

ประสิทธิภาพนั้น ถือว่าเต็มที่เลยทั้งความเร็วในการเขียน-อ่าน ส่วนเรื่องประสิทธิภาพและความทนทาน ก็เรียกว่าดีมาก รวมถึงยังรับประกันสินค้านานถึง 5 ปี

สำหรับใครที่ใช้งาน SSD ของทาง Seagate แนะนำให้ดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม SeaTools SSD Monitoring (ดาวน์โหลดได้ที่ www.seagate.com) ซึ่งจะช่วยให้เราเช็คสถานภาพ รวมถึงอายุการใช้งานที่เหลือของ SSD ที่เราใช้อยู่ได้

ราคา Seagate FireCuda 520 (เปิดตัว พฤศจิกายน 2562)

  • ความจุ 500GB ราคา 5,290 บาท
  • ความจุ 1TB ราคา 10,490 บาท
  • ความจุ 2TB ราคา 17,190THB

สรุป Seagate FireCuda 520 คุ้มหรือไม่? เลือกความจุเท่าไหร่ดี?

ดูจากประสิทธิภาพทั้งหมดของ FireCuda 520 แล้ว ถือว่าเป็น SSD เทคโนโลยีใหม่ที่เน้นเรื่องความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลระดับสูง ซึ่งก็เหมาะสำหรับใครที่ใช้งานเพื่อเล่นเกมหนักๆ รวมถึงงานที่ต้องเขียนอ่านข้อมูลขนาดใหญ่มากๆ อย่างงานทำกราฟฟิคและตัดต่อวิดีโอ

บางคนอาจจะสงสัยว่า SSD ที่เร็วๆ นี่ มันจำเป็นกับการเล่นเกมด้วยเหรอ? ในความเป็นจริงแล้ว ก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ที่หน่วยเก็บข้อมูลนั้นจะต้องมีความเร็วเพียงพอและสอดคล้องกับประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลทั้ง CPU และ GPU ทุกวันนี้เกมที่กราฟฟิคหนักๆ รายละเอียดมากๆ การทำงานของคอมพิวเตอร์จึงต้องโหลดข้อมูลจาก SSD อยู่แทบตลอดเวลา เมื่อหน่วยความจำเรามีความเร็วในการอ่านที่ดี ก็ช่วยส่งต่อข้อมูลไปประมวลผลได้รวดเร็วไม่กลายเป็นคอขวดของข้อมูล

Seagate FireCuda 520 SSD ราคา

คราวนี้เรื่องของความจุ ถ้าจะเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน จะแนะนำตัวไหนดี สำหรับคนที่เป็นเกมเมอร์ เน้นที่เล่นเกมเป็นหลัก FireCuda 520ตัวเริ่มต้นที่ 500GB ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเล่นเกมกราฟฟิกแรงได้อย่างสบาย

แต่ถ้าสำหรับสายโปรดักชั่นตัดต่อวิดีโอ เราแนะนำว่า เริ่มต้นขั้นต่ำที่ 1TB ไปเลยดีกว่า เพราะมีความจำเป็นในการเขียนอ่านข้อมูลขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตัดต่อวิดีโอที่ต้องเรนเดอร์และเขียนไฟล์ ก็ต้องเน้นสปีด write ให้เร็วไว้ด้วย

ใครที่จะประกอบคอมพิวเตอร์ใหม่ตอนนี้ แล้วเล็งตัว AMD Ryzen 3000 series รุ่นล่าสุดอยู่ ก็แนะนำจัดเป็นบอร์ดที่รองรับชิปเซ็ต X570 ไปเลย เพื่อที่จะได้รองรับตัว PCIe Gen4 มาตรฐานใหม่ล่าสุดไปเลย เพราะว่ามันเร็วกว่าเดิมขึ้นมาเยอะมาก แล้วก็อย่าลืมจัด SSD ตัวใหม่เป็น Seagate FireCuda520 ไปด้วยเลย คราวนี้ก็ใช้งานเร็วปรื้ดๆ เล่นเกมได้ไหลลื่นไม่ต้องรอโหลดนานอีกต่อไป

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน