Jane Slater นักข่าวกีฬาอเมริกันฟุตบอล NFL จากเท็กซัส ได้โพสต์ผ่าน Twitter บอกว่า เธอได้บอกเลิกกับแฟนหนุ่มของเธอ หลังจากจับได้ว่า เขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่น จากระบบการแจ้งเตือนของ Fitbit
เป็นเรื่องที่น่าแปลก เพราะแน่นอนว่า ฟิตบิท นั้น ไม่มีโหมดที่เอาไว้จับกิจกรรมเรื่องอย่างว่าแล้วส่งข้อความไปแจ้งบอกแฟน เพราะมันเป็นสายรัดข้อมือ ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหว นับก้าวเดิน วัดอัตราการเต้นของหัวใจ การนอน และการเล่นกีฬาออกกำลังกายต่างๆ
แล้วอะไรที่ทำให้เธอคิดแบบนั้นล่ะ?
Jane เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ก่อนหน้านี้ตอนเทศกาลคริสต์มาสปีที่แล้ว แฟนของเธอซื้อ Fitbit ให้เป็นของขวัญ และเธอก็ชอบมัน ทั้งสองใช้ระบบ Motivate ที่เชื่อมต่อบัญชีเป็นเพื่อนกัน เพื่อค่อยแจ้งให้ทราบว่าเพื่อนตอนนี้มีกิจกรรมออกกำลังกายอะไร เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกัน
เรื่องมันมาเกิดตรงที่ ตอนดึกเวลาตี 4 ระบบของ Fitbit มีการแจ้งเตือนมาบอกเธอว่า ตอนนี้แฟนของเธอกำลังมีกิจกรรมออกกำลังกายระดับหนักหน่วง ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้นอนอยู่ด้วยกัน
จากข้อมูลที่ Fitbit แจ้งมา ทำให้เธอสามารถใช้ GAT PAT เชื่อมโยงได้ว่า แฟนของเธอนั้นจะต้องนอกใจและกำลังมีอะไรกันกับผู้หญิงอยู่อย่างแน่นอน เพราะในเวลาตี 4 แบบนั้น มันไม่ใช่เวลาที่แฟนของเธอจะลุกขึ้นมาฟิตออกกำลังกายเล่นกีฬาอย่างแน่นอน
หลายคนเข้ามาโต้ตอบกับเธอในทวิตเตอร์ว่า เธอคิดมากไปหรือเปล่า มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ Jane จึงเล่าวีรกรรมที่แฟนของเธอเคยเมาเละแล้วหิ้วสาวที่ไหนก็ไม่รู้มานอนด้วย และเหตุการณ์วันนั้นทั้ง 2 คนมีนัดจะไปโบสถ์ด้วยกันตอนเช้า จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผู้ชายจะบ้าลุกขึ้นมาออกกำลังกายตอนตี 4 นอกจากเรื่องบนเตียง
ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าโชว์
ข่าวนี้อาจจะดูเหนือจินตนาการไปพอสมควร กับการเอาข้อมูลที่อุปกรณ์สวมใส่มาใช้เป็นข้ออ้างในการทะเลาะแล้วเลิกกับแฟน เพราะสุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่า ผู้ชายมีโอกาสจะได้อธิบายหรือแก้ตัวหรือไม่ และการที่ Fitbit จับความเคลื่อนไหวได้จริงๆ หรือเป็นความผิดพลาดด้านเทคนิคหรือเปล่า
อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า ถ้าหากคุณแอบมีกิ๊ก อย่าใส่ Fitbit ตอนนอนเชียว
ข้อมูลจาก 7News