พบกับ รีวิว Asus ZenBook 14 (UX434) โน๊ตบุ้คขนาดกำลังสะดวกพกพา มาพร้อมชิปประมวลผล Intel core-i 10th Gen มีทีเด็ดคือ ScreenPad 2.0 หน้าจอบนแทร็คแพด ช่วยเปิดประสบการณ์ทำงานบนโน๊ตบุ๊คที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร
ผมมีโอกาสได้ลองจับเจ้า ZenBook 14 ตัวนี้ครั้งแรก ก็ตอนงาน Computex 2019 ที่ไต้หวัน ช่วงกลางปีที่ผ่านมา นับเป็นโน๊ตบุ้ครุ่นที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย ด้วยจุดเด่นหลายอย่าง ประสิทธิภาพ ดีไซน์การออกแบบ และฟีเจอร์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาแล้วใช้ประโยชน์ได้จริง
Asus ZenBook 14 (UX434) รูปลักษณ์และการออกแบบตัวเครื่อง
ปรัชญาการออกแบบของ ZenBook ก็ตามชื่อเลยครับ ความเรียบง่าย ทำให้ตัวเครื่องหน้าตาจะดูเรียบ หรู แต่สวยงามมีสเน่ห์เป็นเอกลักษณ์ เริ่มกันตั้งแต่การใช้สี รุ่นนี้จะมี 2 สีด้วยกันคือ Icicle Silver และเครื่องที่เราได้มาทดสอบคือ Royal Blue ที่เป็นน้ำเงินโทนเข้ม ดูสุขุม บริเวณฝาเครื่องจะเป็นลวดลายสไตล์แบบโลหะขัดเป็นวง เสริมความพรีเมียม และมีการเล่นตัดสีของโลโก้ Asus และบริเวณแถบด้านในเป็นทองแบบ Rose Gold ยิ่งทำให้ดูสวยหรูดูแพงขึ้นไปอีก
มิติของตัวเครื่องนั้น เอซุสทำการรีดน้ำหนักเครื่องลง เหลือเพียง 1.26 กิโลกรัม พร้อมทำขนาดเครื่องให้เล็กลงกว่ารุ่นก่อน (UX430) ถึง 13% เหลือขนาดเพียง 319 x 19.9 มิลลิเมตร เรียกว่า พอๆ กับกระดาษ A4 และความหนาก็เพียงแค่ 16.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ถือว่าเป็นขนาดที่เล็กและสะดวกพกพามากๆ สาวๆ นี่ใส่ซอง (มีแถมมาให้) แล้วหยิบใส่กระเป๋าสะพายได้สบายๆ เลย
ขนาดที่เล็กลงกว่านี้ ได้มาจากการดีไซน์หน้าจอภายในเครื่องแบบ Nanoedge Display ที่ให้พื้นที่ขอบรอบจอเหลือน้อยนิดเพียงแค่ 2.9 มิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้เครื่องที่เป็นหน้าจอขนาด 14 นิ้ว มีขนาดเครื่องเล็กได้สูสีกับโน๊ตบุ้ค 13 นิ้วแบรนด์อื่นที่มีในตลาด ด้านความคมชัดของหน้าจอ เป็นความละเอียด Full HD แสดงค่าสี sRGB 100% มีมุมมองกว้าง 178 องศา
ฝาพับนั้น ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบของ ZenBook ที่เป็น ErgoLift คือเวลาที่เราเปิดหน้าจอตั้งขึ้นมา บานพับและขอบจอจะช่วยยกให้ตัวเครื่องสูงขึ้นจากพื้นเล็กน้อย ดีไซน์นี้มีประโยชน์กับการใช้งานหลายอย่าง ตั้งแต่ช่วยเรื่องความถนัดในการวางมือพิมพ์บนแป้นพิมพ์ที่ได้องศาที่ดีขึ้น, ช่วยเพิ่มการระบายความร้อนจากภายในออกมาได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม พร้อมทั้งช่วยเรื่องของเสียง ที่ให้ลำโพงด้านล่างสะท้อนกับพื้นโต๊ะขึ้นมา เป็นการออกแบบที่ได้ทั้งความสวยงามและอรรถประโยชน์การใช้งานไปด้วยกัน
ตัวเครื่องที่ออกแบบมาสวย แต่ก็มาพร้อมกับความแข็งแรงด้วย Asus ZenBook 14 (UX434) นั้นผ่านมาตรฐานการทดสอบในระดับ Military Grade MIL-STD-810G สามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือหนาวจัดได้ มีความแข็งแรงต่อการตกกระแทก แรงสั่นสะเทือน ฯลฯ
ระบบเสียงลำโพงคู่ ติดตั้งไว้ด้านล่าง เป็น certified by Harman Kardon กำลัง 1W เสียงดังระดับโอเค ทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์เสียงของ Asus SonicMaster แล้วช่วยให้ประสิทธิภาพของเสียงดีใช้ได้
สำหรับระบบความปลอดภัย เครื่องไม่มีระบบสแกนลายนิ้วมือ แต่ใช้เป็นกล้องแบบ 3D IR ทำงานร่วมกับระบบ Windows Hello
พอร์ตเชื่อมต่อมีให้มาเป็น USB Type-C 3.1 (Gen 2), USB-A 3.1 (Gen 2) และ USB-A 2.0 ให้มาอย่างละ 1 ช่อง มีช่อง HDMI, microSD card reader และ ช่องเสียง audio jack combo ระบบเชื่อมต่อไร้สายใช้เป็น Wi-Fi 6 (802.11 ax (2×2)) และ Bluetooth 5.0 สำหรับการเชื่อมต่อ LAN จะมีอแดปเตอร์แถมมาให้ด้วยในกล่อง
ตัวแป้นคีย์บอร์ด ขนาดมาตรฐาน มีไฟ Backlit แป้นสูง 1.4 มม. ตำแหน่งวางเรียงพิมพ์ได้คล่องมือ และมาที่พระเอกของรุ่นนี้ก็คือแทร็คแพดแบบ ScreenPad 2.0 เวอร์ชั่นใหม่ที่ปรับปรุงหลายอย่างให้ใช้งานได้ดีขึ้น มีประโยชน์เพิ่มขึ้นกว่าเดิมหลายอย่าง มาด้วยขนาด 5.65 นิ้ว ที่นอกจากจะใช้เป็นแทร็คแพดปกติแล้ว มันก็คือหน้าจอเสริมที่ 2 ที่เชื่อมต่อและทำงานคู่กับจอใหญ่ได้ โดยที่ Asus มีซอฟต์แวร์ SceenXpert เวอร์ชั่นใหม่ มาเสริมรูปแบบการทำงานได้ประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนจะดีขึ้นขนาดไหน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังอีกที
Performance ประสิทธิภาพภายใน
รุ่นที่ทางทีมงานได้มาทดสอบ สเปคเป็นชิป Intel 10th Gen Core-i7 10510U มีการ์ดจอแยกมาให้ด้วยเป็น NVIDIA GeForce MX250 (2GB GDDR5 VRAM) หน่วยความจำหลักเป็น SSD 512GB PCIe และ RAM ก็เป็นแบบ OnBoard ใส่มาให้ 8GB LPDDR3 2133MHz
Asus ZenBook 14 (UX434) จะมี Windows 10 ติดตั้งมาให้เรียบร้อยพร้อมใช้งาน ส่วนด้านพลังงาน แบตเตอรี่เป็นแบบ 3 -Cell 50 Wh Polymer Battery ส่วนตัวอแดปเตอร์ จะเป็น 19 V DC, 3.42 A, 65 W
ประสบการณ์หลังทดสอบใช้งาน
ทาง Asus ได้ส่งเครื่องมาให้ทีมงานได้ทดสอบใช้งานอยู่ประมาณ 2 อาทิตย์ ซึ่งผมใช้เป็นเครื่องหลักในการทำงานเลย ที่พื้นฐานการใช้งานคือการทำงานนอกสถานที่เป็นส่วนใหญ่ ขนาดตัวเครื่องและน้ำหนัก ถือว่าดีมาก ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 14 นิ้วแต่ตัวเครื่องเท่าๆ กับเครื่อง 13 นิ้ว แถมน้ำหนักแค่ 1.2 กิโลกรัมนิดๆ ตัวอแดปเตอร์ชาร์จก็เล็ก ทำให้พกใส่กระเป๋าไปทำงานได้สะดวก เป็นขนาดและน้ำหนักที่แนะนำสำหรับสาวๆ เลยล่ะ
การใช้งานหลักๆ ในแต่ละวัน คืองาน Microsoft Office และทำงานผ่าน Browser โดยจะมีใช้งานด้านกราฟฟิกภาพบน Adobe Photoshop แล้วก็มีใช้งานด้านบันเทิง ดู Youtube, ดู Netflix, ฟัง Spotify
เรื่องแบตเตอรี่ สามารถทำงานอยู่ได้เต็มวันแบบสบาย อยู่ที่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง แล้วตัวอแดปเตอร์นั้นขนาดเล็กพร้อมสายที่ยาว พกไปเสียบทำงานตามร้านกแฟก็สะดวกดี อุณหภูมิระหว่างใช้งานถือว่าไม่ร้อนมาก จะมีอุ่นๆ นิดตอนทำงานกราฟฟิก ซึ่งถ้าเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว ตัวนี้จะประหยัดพลังและใช้ได้นานขึ้นถึง 2.5 เท่าเลย
การเล่นเกม จะบอกว่าผมไม่ได้ทดสอบเลย ด้วยที่ว่าเจ้า Asus ZenBook 14 (UX434) มันถูกออกแบบมาเป็นโน๊ตบุ้คสำหรับคนที่ต้องการความคล่องตัวในการทำงานเป็นหลัก แต่ถ้าพิจารณาจากสเปคแล้ว เกมทั่วไปแล้วไม่ได้เลือกกราฟฟิกระดับสูง ก็น่าจะยังใช้เล่นเกมได้อยู่ครับ
ความเร็วในการโหลดทำงาน ถือว่าลื่นไหลดีครับ SSD 512GB ขนาดใหญ่กำลังดี เปิดเครื่องโหลดพร้อมทำงานได้ภายในเวลาไม่ถึง 30 วินาที ตัว RAM 8GB ก็พอสำหรับงานทั่วไปได้สบายๆ ส่วนทำงานกราฟฟิคที่ระดับงานออนไลน์ ความละเอียดไม่เยอะมากก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอทั่วไปก็ยังใช้งานได้อยู่
คราวนี้จะมาเล่าส่วนของเจ้า ScreenPad 2.0 กันบ้าง ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใคร แล้ว Asus ก็เป็นรายแรกที่คิดค้นขึ้นมา ในรุ่นนี้ที่เป็นเวอร์ชั่น 2 ก็มีการพัฒนาให้การทำงานดีขึ้นกว่าเดิม ที่เรียนรู้การใช้งานได้ไม่ยาก จะบอกกว่าการออกแบบใช้งานให้ความรู้สึกได้อารมณ์คล้ายๆ บนสมาร์ทโฟนเลยล่ะ ทั้งหน้าตาอินเทอร์เฟส และการสั่งงาน การใช้งาน เราเลือกได้ว่าจะเปิดใช้งานแบบไหน โดยจะเลือกเปิดเป็น ScreenPad หรือจะปิดจอแล้วใช้เป็นแทร็คแพ้ดตามปกติก็ได้ อันนี้ก็ช่วยประหยัดพลังงานได้อีก
ScreenPad 2.0 นั้น ความละเอียดในการแสดงผลอยู่ที่ 2160×1080 (เลือกปรับเป็น 1000×500 ได้ และปรับรีเฟรชเรตได้ 50/60fps) โดยทาง Asus จะมีโปรแกรม Utillities สำหรับทำงานบน ScreenPad หลายตัว เพื่อทำให้มันมีอรรถประโยชน์ในการใช้งานได้หลากหลาย
1000 x 500 PX 2160×1080 PX
- Quick Key สำหรับบันทึก Shotcut มาเป็นปุ่มสำหรับกดด่วนๆ ได้ ปรับเองได้ตามต้องการ
- Numer Key เปลี่ยนเป็นแป้นพิมพ์ตัวเลข
- Handwriting ใช้สำหรับเขียนด้วยลายมือเพื่อเปี่ยนเป็นตัวอักษร และเอาไว้เซ็นลายเซ็นต์ได้
- Slide/Doc/Sheet Xpert โหมดที่ทำงานเชื่อมต่อเป็นส่วนเสริมให้กับโปรแกรม powerPoint, Word และ Excel
ลูกเล่นการใช้งานบน ScreenPad นั้นดีกว่ารุ่นแรกค่อนข้างเยอะ มีความอิสระและเปิดกว้างในการใช้งานได้ดีกว่าเดิม โดยที่ตอนนี้ Asus ก็เปิด API ให้นักพัฒนาทำโปรแกรมรองรับกับ ScreenPad ใหม่นี้ด้วย
นอกจากการใช้เป็นปุ่มควบคุมเพิ่มเติมแล้ว ฟีเจอร์ที่ผมชอบมากที่สุด ก็คือการใช้งานเป็นหน้าจอที่ 2 คู่กับจอหลัก ถึงแม้ว่าจะดูขนาดเล็ก แต่ก็ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เราสามารถลากหน้าต่างโปรแกรมจากจอหลัก มาแสดงใน ScreenPad ได้ทุกโปรแกรม ซึ่งพอมี 2 จอแล้ว การทำงานหลายๆ อย่างก็มีความสะดวกเพิ่มขึ้น อย่างเช่น
- ทำงานจอใหญ่ แล้วใช้จอเล็กสำหรับเปิดข้อมูลอ้างอิง อย่างเช่นพิมพ์งานแล้วเปิดหน้าเว็บดูข้อมูล ที่บางครั้งก็สะดวกกว่าแบ่งหน้าจอเดียว ซึ่งอันนี้ผมใช้บ่อย เพราะจอเสริมเราเอาไว้แค่ดูข้อมูล
- จอใหญ่ทำงานหลัก ส่วนจอเล็กก็เอาไว้เพื่อความบันเทิง อาทิ เปิด Spotify, YouTube ฯลฯ จอล่างความละเอียดนั้นอยู่ในระดับ Full HD ถือว่าคมชัดใช้ได้ ใครอยากทำงานไปดูอะไรไปด้วยก็ใช้ได้อยู่
- เปิดแอพเดียวกันหลายๆ งาน อย่างเช่นแต่งภาพด้วย Photoshop ก็เปิดงานหลักที่จอใหญ่ แล้วเปิดไฟล์ภาพอื่นๆ ในจอเล็กเพื่อทำไปได้พร้อมกัน หรืองานตัดต่อวิดีโอ ก็ลากเครื่องมือหใช้เป็นอีกจอสำหรับไว้ Preview ได้
เวลาที่ใช้งานทั่วๆป การสลับใช้งานตัว ScreenPad เป็นจอกับแทร็คแพดก็ถือว่าสะดวกดี แต่ถ้าเริ่มทำงานจริงๆ จังๆ หรือใช้เพื่อเป็นจอเสริม ผมว่าหาเม้าส์มาต่อแล้วทำงานจะสะดวกและคล่องตัวกว่า โดยรวมแล้ว ScreenPad 2.0 ถือว่าพัฒนามาให้เกิดประโยชน์ขึ้น โดยเฉพาะการใช้เป็นจอที่ 2 ได้ ก็เหมือนได้พื้นที่ทำงานเพิ่ม ถึงจะขนาดเล็กไปนิดแต่ก็ยังดัดแปลงมาใช้เพื่อทำงานได้หลายอย่างอยู่
Asus ZenBook 14 (UX434) เหมาะสำหรับใคร?
คนที่อยากได้โน๊ตบุ้คสำหรับการพกพาใช้งานได้สะดวก ด้วยน้ำหนักที่ถือว่าค่อนข้างเบา กิโลนิดๆ ได้หน้าจอขนาด 14 นิ้วในขนาดเครื่อง 13 นิ้ว ใช้ชิป Intel Core-i 10th Gen ตัวล่าสุดที่ประหยัดพลังงาน มีการ์ดจอแยกช่วยเรื่องการทำกราฟฟิคได้ ได้ SSD มาความเร็วในการโหลดข้อมูลอยู่ในระดับที่เร็วดีใช้ได้ ส่วน RAM 8GB ก็ถือว่าพืนฐานทำงานทุกอย่างได้ไม่มีปัญหาอะไร
ถือว่าใช้สำหรับทำงานต่างๆ ได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับกลางเกือบสูง ทำงานกราฟฟิค งานแต่งภาพ เอาอยู่ได้สบาย แต่ถ้าระดับ 3D หนักอาจจะรับมือไม่ไหว จึงเหมาะสำหรับใครที่อยากได้ไว้สำหรับทำงานพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัวเป็นหลัก เพราะมันทั้งบาง เบา ใส่กระเป่าหิ้วไปไหนต่อไหนได้สบาย รวมทั้งแบตเตอรี่ก็ค่อนข้างอึดเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจสำหรับ Asus ZenBook 14 (UX434) อีกอย่างก็คือ มี Windows 10 ติดตั้งมาให้เรียบร้อย เปิดมาก็ Log in ใช้งานได้ทันที และยังมีเรื่องของการรับประกัน Perfect Warranty ของ Asus ที่จะรับประกันครอบคลุมถึงอุบัติเหตุในปีแรก ส่วนเรื่องการเคลมก็สามารส่งผ่านทาง 7-eleven ใกล้บ้านได้เลย
ราคา ตัว Asus ZenBook 14 (UX434) จะมีให้เลือก 3 รุ่น
- ZenBook 14 (UX434FAC) Intel Core i5-10210U / RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 26,990บาท
- ZenBook 14 (UX434FLC) Intel Core i5-10210U / NVIDIA GeForce MX250/ RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 29,990 บาท
- ZenBook 14 (UX434FLC) Intel Core i7-10510U / NVIDIA GeForce MX250/ RAM 8GB / SSD 512GB ราคา 35,990 บาท
เครื่องที่ทางทีมงานได้ทดสอบ เป็นตัว Core i7 ซึ่งราคาโดดจากรุ่นที่เป็น Core-i5 ไปพอสมควร ถ้าแนะนำแล้ว ใครไม่ได้กะจะเน้นกราฟฟิค แค่อยากได้โน๊ตบุ๊คบางๆ พกพาสะดวก เลือกเป็นตัว Core-i5 ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว
Asus ZenBook 14 (UX434) ถือเป็นรุ่นที่พัฒนาต่อยอดจากรุ่นก่อนมาหลายอย่าง ชนิดที่ว่าใหม่หมดจดก็ว่าได้ ปรับขนาดเล็กลง สเปคดีขึ้น เพิ่มตัว ScreenPad 2.0 ที่มีประโยชน์ในการใช้งานที่หลากหลาย แตกต่างจากโน๊ตบุ้คอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาดอย่างสิ้นเชิง ส่วนราคาเมื่อเทียบกับสเปคที่ได้ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่ทีเดียว
ขอบคุณทาง Asus ประเทศไทย สำหรับเครื่องในการทดสอบครับ