รีวิว Vivo Y15 2020 น้องเล็กรุ่นส่งท้ายปี ที่มีดีเกินตัว ตั้งแต่ดีไซน์สวย กล้องหลัง 3 ตัว ใส่แบตเตอรี่มาให้ถึง 5000 mAh ในราคาน่ารักๆ แค่ 4999 บาท
สมาร์ทโฟนในตระกูลซีรี่ย์ Y ของ Vivoนั้น ถือว่าเป็นกลุ่มระดับเริ่มต้น Entry Level ที่เน้นราคาไม่สูงมาก และตอนนี้เตรียมก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2020 แล้ว Vivoก็พร้อมส่ง Y15 2020 มาลงตลาดแล้ว ถือว่ามาได้จังหวะกำลังดีที่หลายคนกำลังมองหาสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ราคาไม่แพง และถือว่ารุ่นนี้มีดีหลายอย่างที่คุ้มกับราคาดีไม่น้อย
Vivo Y15 2020 ในกล่องมีอะไรมาให้บ้าง?
ตัวแพ็กเกจหน้าตามาตรฐานของVivo ที่เป็นกล่องสีขาว ที่มีระบุชื่อรุ่นใหญ่ๆ อยู่กลางกล่อง มีบอกสเปค RAM 4GB และความจุ 64GB แกะกล่องมาจะมีตัวเครื่อง Y15 2020 ที่ทีมงานได้มาทดสอบจะเป็นสีแดง Burgundy Red และอุปกรณ์อื่นๆ ที่มาให้ในกล่อง ก็จะมี สายชาร์จความยาว 1 ม. หัวเป็น microSD, อแดปเตอร์ชาร์จไฟ, คู่มือการใช้งาน, เข็มจิ้มถาดซิม และเคสใสมาให้ครบชุด มีขาดก็แค่ตัวหูฟัง ซึ่งเป็นปกติของสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มักจะไม่มีให้มาด้วย
มาลองสัมผัสส่องดูตัวเครื่องกัน Vivo Y15 2020 ดีไซน์ของสีนั้นจะเป็นลักษณะการไล่เฉดสีที่มีมิติแตกต่างตามมุมสะท้อนของแสง สำหรับสีแดง Burgundy Red จะเป็นการไล่เฉดสีแดงกับสีดำ ให้อารมณ์ดูขรึมๆ ที่แฝงความร้อนแรง โดยที่สีนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงธรรมชาติยามตกระทบบนพื้นผิวของทะเลสาบ ที่ให้มิติและเส้นสายเงาที่มีชีวิตชีวา ส่วนอีกสีที่เข้ามาขายในบ้านเราจะเป็นสีดำ Phantom Black
ฝาหลังนั้นเป็นดีไซน์แบบเรียบ ที่ขอบเครื่องโค้งมนเล็กน้อย ตัวเลนส์กล้องหลังนั้นจะมีขอบและนูนจากตัวเครื่องเพียงเล็กน้อย วางเรียงที่มุมบนเครื่องมีเล่นขอบเป็นสีทองเสริมความหรูหรา และตรงกลางจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ส่วนดีไซน์ของเฟรมเครื่องก็จะเป็นแบบโค้งเข้ากับอุ้งมือ จับได้ถนัดมือ
ตัวหน้าจอเป็นดีไซน์แบบ Halo Fullview Display เว้นติ่งด้านบนตรงกลางไว้สำหรับกล้องหน้า แล้วหลบเซนเซอร์แสง และลำโพงสนทนาไว้ที่ขอบเครื่อง ขนาดจอใหญ่ 6.35 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720×1544พิกเซล) อัตราส่วน 19.3:9 คิดเป็นพื้นที่เต็มด้านหน้าถึง 89% โดยที่มีติดฟิล์มกันรองมาให้เรียบร้อยตั้งแต่แกะกล่อง
ด้านข้างตัวเครื่อง จะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่ม Power อยู่ท่างด้านขวาของเครื่อง ส่วนทางซ้ายจะเป็นช่องของถาดซิม ที่เป็นแบบ Triple Tray ใส่ซิมได้ 2 เบอร์ ขนาด Nano SIM และช่องเพิ่มความจุเครื่องด้วย microSD ได้อีก 1 ช่อง ส่วนที่ด้านล่างของเครื่องจะมีช่องพอร์ตเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร, รูไมโครโฟนสนทนา, ช่องเสียบชาร์จ+ข้อมูล แบบ Micro USB และช่องลำโพงเสียง
โดยรวมแล้วขนาดเครื่องไม่ได้ใหญ่มากเท่าไร กับมิติตัวเครื่อง 159.43 × 76.77 มิลลิเมตร หนา 8.92 มิลลิเมตร และหนัก 190.5 กรัม ยังพอที่จะถือมือเดียวได้ถนัดอยู่
สเปคและประสิทธิภาพการใช้งาน
ชิปเซตที่ใช้เป็น Mediatek MT6762 Helio P22 แบบ Octa-core 2.0 GHz หน่วยประมวลผลกราฟฟิคใช้เป็น PowerVR GE8320 จัด RAM ใส่มาให้ 4GB และหน่วยความจำในเครื่อง 64GB ใส่ microSD เพิ่มได้อีก 256GB
ระบบรักษาความปลอดภัย จะมีทั้งแบบที่เป็นสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง และมีระบบปลดล็อคด้วยการสแกนใบหน้ามาให้ใช้ด้วย ซึ่งเอาไว้ใช้ในการปลดล้อคเครื่อง หรือการปลดรหัสล็อคในแอปพลิเคชั่นในเครื่องได้ด้วย
จากสเปคพื้นฐานของเครื่องแล้ว ถือว่าเป็นสเปคระดับไม่ได้สูงมาก แต่ก็ยังใช้งานทั่วไปได้ไม่สะดุด กับระบบปฎิบัติการ FunTouch OS เวอร์ชั่น 9 บน Android 9.0 การใช้งานออนไลน์ เล่นอินเทอร์เน็ต โซเชียล ไม่มีปัญหาอะไรใช้ได้หมด ความบันเทิงดู YouTube, Netflix ได้ที่ HD ตามความละเอียดของจอภาพ ส่วนเล่นเพลงสตรีมมิ่งต่างๆ Spotify, JOOX ก็ได้เช่นกัน
ถ้าเรื่องของการเล่นเกมแล้ว ใน FunTouch OS 9 ของ Vivo มี Ultra-Game Mode ที่จะมาช่วยจัดการในการปรับ Performance ของเครื่องให้เล่นเกมได้ดีขึ้น ทั้งปรับ CPU และ RAM ให้เหมาะกับการเล่นเกม เพื่อช่วยลดปัญหาเฟรมเรตร่วงระหว่างที่เล่น รวมถึงการปรับการแจ้งเตือน, สายเรียกเข้า และการอ่านตอบแชทระหว่างที่เล่นเกมได้ด้วย พร้อมทั้งมีฟีเจอร์ Game Countdown ที่จะเตือนเวลาก่อนที่จะเริ่มเกม เพื่อให้เราออกจากเกมไปทำอย่างอื่นระหว่างที่รอเริ่มแมทช์เกมได้
การเล่นเกม ทดสอบกับ ROV นั้นรองรับ Hi Framerate แต่ว่าด้วยสเปคระดับเริ่มต้นของเครื่อง ก็จะวิ่งได้อยู่ราวๆ 40-55fps แล้วก็เปิดความละเอียดของภาพได้ในระดับปกติ ก็ถือว่ายังเล่นได้อยู่ ส่วนเกมอื่นๆ อย่าง Asphalt 9 ตัวเกมปรับให้เล่นไหลลื่นได้ แต่ก็ปิดเอฟเฟคภาพไปเยอะเหมือนกัน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า สเปคเครื่องระดับนี้ก็ปรับจูนให้เล่นเกมได้ประมาณนี้ล่ะ
ระบบการใช้งานเครือขาย เป็น Full Netcom 4.0 รองรับ สัญญาณ 4G/3G ทั้ง 2 ซิม ใช้ VoLTE และ โทรผ่าน Wi-Fi ได้ ส่วนเชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi ก็ได้ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz
แบตเตอรี่เป็นอีกจุดเด่นของ Vivo Y15 2020 เพราะใส่มาให้ใหญ่จุใจ 5000 mAh ที่เยอะเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปแบบ 2 วันไม่ต้องชาร์จก็ยังได้อยู่ หรือถ้าใครที่เล่นทั้งเกม เล่นโซเชียล ดูหนังฟังเพลง 1 วันเต็มๆ ก็อยู่ได้สบายแน่นอน แต่แอบเสียดายที่รุ่นนี้ไม่ได้ใส่ระบบ Dual-Engine Fast Charging มาให้เลยอาจจะต้องใช้เวลาชาร์จเต็มค่อนข้างนานนิดนึง
ทดสอบลองใช้กล้องทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ลองใช้งานกับกล้องดูบ้าง ตัวกล้องหน้าเซลฟี่นั้น ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 มี AI มาช่วยเรื่องของการประมวลผลภาพ ปรับ Face Beauty ให้ในระดับที่เหมาะสมตามเพศ ผิวพรรณ อายุ ซึ่งเราก็ปรับเอาได้ว่าจะใช้เป็น AI หรือปรับเอาเอง ที่มีเลือกได้ถึง 6 ระดับ
การถ่ายเซลฟี่สำหรับถ่ายตอนกลางวัน สภาพแสงทั่วไป ทำงานออกมาได้ดี ทั้งเรื่องสกินโทนสีผิวที่ AI ช่วยปรับให้มีความเรียบเนียนแต่ไม่เว่อร์จนดูไม่เป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งมี AI Portrait ช่วยถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ และมีฟิลเตอร์ให้ปรับสีของภาพได้หลายแบบ (แต่ไม่มีแบบเอฟเฟคแสงจำลองให้นะ) และในการถ่ายเวลาเจอสภาพย้อนแสงก็มี HDR ให้ด้วย
กล้องหลังเป็นแบบ Triple Camera ที่ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (f/2.2) กล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้อง Depth Sensor สำหรับถ่ายภาพ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
ในโหมดการถ่ายภาพ จะมีให้เลือกเป็น Bokeh Mode สำหรับถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ ที่ปรับค่ารูรับแสงจำลองได้แบบอิสระ ที่ถ่ายแล้วมาปรับความเบลอทีหลังเองได้ ความคมชัดในการวัดระยะแบบกับฉากหลัง ถ้าในสภาพแสงปกติก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่ถ้าแสงน้อยหรือแบบมีรายละเอียดมากๆ ก็มีแอบเบลอขอบผิดพลาดอยู่บ้าง
โหมดถ่าย Portrait ของกล้องหลังจะเลือกปรับระดับของ Beauty ได้เอง (ไม่มี AI) เลือกได้ 6 ระดับ โดยเราจะเลือก ใช้เป็นปรับระดับเอง (มี 6 ระดับ) แต่ก็จะมี HDR ช่วยเวลาที่ถ่ายในสภาพแสงย้อนจากด้านหลัง ให้หน้าของแบบไม่มืด และฉากหลังไม่สว่างจนขาวโพลน
เลนส์มุมกว้าง Ultra Wide-Angle เลือกถ่ายได้ทั้งโหมดถ่ายภาพปกติ โหมด Beauty ช่วยให้เก็บภาพที่มุมมองกว้างกว่าเดิม รวมถึงยังใช้ถ่ายวิดีโอเป็นมุมกว้างได้ด้วยเช่นกัน
โหมดถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง จะรองรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080p โดยจะไม่มีโหมดบิวตี้ให้เลือก
โดยรวมแล้วการใช้งานกล้องของ Y15 2020 ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีพอใช้ได้ สำหรับสภาพแสงกลางแจ้ง เวลากลางวัน หรือถ่ายแสงในร่มที่มีแสงเพียงพอ ถือว่าถ่ายออกมาได้ค่อนข้างดี โหมดบิวตี้ทำสกินโทนได้สวยเป็นธรรมชาติ แต่การปรับค่าทำแบบโดยรวมไม่สามารถเลือกเป็นส่วนๆ ได้ และความละเอียดของภาพก็ไม่ได้สูงมาก แต่ก็เพียงพอสำหรับการถ่ายเพื่อโพสต์แชร์ในโซเชียล
ส่วนการถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือแสงน้อยนั้น ด้วยความที่เป็นรุ่นระดับเริ่มต้น จึงไม่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืนมาให้ แต่ว่าถ่ายพวกไฟต่างๆ ได้สีสันที่สวยอยู่ แต่อาจจะเก็บรายละเอียดในงานมืดได้ไม่มากนัก และยังมี noise เกิดขึ้นพอสมควรด้วยความที่รูรับแสงค่อนข้างแคบ
สรุป Vivo Y15 2020 เหมาะสำหรับใคร? น่าซื้อมั้ย?
Vivo Y15 2020 ราคา 4,999 บาท เรียกว่าอยู่ในระดับคุ้มดีกับราคานี้ ตามสไตล์ของ Vivo ที่ได้เรื่องดีไซน์ตัวเครื่องเล่นเฉดสีที่สวยงาม หน้าจอใหญ่แบบ Halo FullView Display ส่วนกล้องก็มี 3 เลนส์ ใส่ Ultra Wide-angle มาให้สำหรับถ่ายวิวกว้างๆ หรือถ่ายแบบสวยๆ ในที่แคบๆ ได้มุมยืดที่แปลกตา
การเล่นเกมอยู่ในระดับที่พอใช้ได้ ตัว FunTouch OS 9 ก็ใช้งานง่าย หน้าตาเรียบๆ ดูดี มีฟีเจอร์สำหรับใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกหลายตัวใส่มาให้ครบ และที่ถูกใจสุดก็คือแบตเตอรี่ 5000 mAh ใหญ่เหลือเฟือสำหรับใช้งานเต็มวันข้ามวันได้สบายๆ ไม่ต้องเสียบชาร์จเติมแบตระหว่างวัน
สมาร์ทโฟน ราคาไม่เกิน 5 พันบาท งบประมาณสำหรับระดับเริ่มต้นที่ได้สเปคได้คุ้มค่า หน้าตาสวยดูดี ฟีเจอร์ครบ และแบตเตอรี่ใช้งานได้แบบเต็มวัน Vivo Y15 2020 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าคว้ามาใช้ช่วงปีใหม่นี้เลยล่ะ