รัฐบาลเยอรมนียอมควักเงิน 27 ล้านบาท ต่ออายุการอัพเดตให้กับคอมที่ยังใช้ Windows 7 อยู่

รัฐบาลเยอรมนีเจอบิลเรียกเก็บเงิน 887,000 ดอลล่าร์ (ประมาณ 27.08 ล้านบาท) ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการยืดอายุการสนับสนุนความปลอดภัยระบบให้กับคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลยังคงใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 7 ต่อ

 Microsoft ประกาศไว้ล่วงหน้าว่า จะหยุดการสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows 7 โดยจะไม่มีการปล่อยการอัพเดตใดๆ รวมไปถึงการอัพเดตเรื่องความปลอดภัยของระบบด้วยหลังจากนี้ และจะสิ้นสุดอายุการใช้งานในวันที่ 14 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา

แต่ว่ารัฐบาลเยอรมนียังมีคอมพิวเตอร์ 33,000 เครื่องที่ยังคงใช้งาน Windows 7 อยู่ และไม่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ทันเวลา ทำให้รัฐบาลเยอรมนีต้องจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนั้น เพื่อขยายการสนับสนุนความปลอดภัยระบบบน Windows 7 จาก Microsoft

หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมนีรายงานว่า ก่อนวันสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 7 ทางรัฐบาลเยอรมนีกำลังทยอยอัปเกรดคอมพิวเตอร์จาก Windows 7 ให้เป็น Windows 10 แต่ไม่สามารถทำการอัปเกรดได้หมดทุกเครื่อง โดยมีคอมพิวเตอร์ที่ประจำการในกรุงเบอร์ลินที่ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 อยู่ประมาณ 20,000 เครื่อง

ด้วยดีลนี้ จะเป็นการซัพพอร์ต Windows 7 Enterprise และ Windows 7 Pro ให้อยู่ภายใต้การ Extended Security Updates (ESU) โดยจะได้รับการอัพเดตเรื่องความปลอดภัยระบบอยู่ แต่ต้องมีค่าใช้จ่าย

German government paid for extend Windows 7 security

สำหรับ Windows 7 Enterprise จะคิดค่าบริการเครื่องละ 25 ดอลล่าร์ หรือประมาณ 770 บาทในปี 2020 แล้วจะขึ้นราคาเป็น 2 เท่าที่ 50 ดอลล่าร์ต่อเครื่องในปี 2021 จากนั้นจะขึ้นราคาอีกครั้งเป็น 100 ดอลล่าร์ต่อเครื่อง ในปี 2022

ส่วน Windows 7 Pro จะคิดค่าบริการเครื่องละ 50 ดอลล่าร์ต่อเครื่อง ก่อนจะขยับเป็น 100 ดอลล่าต่อเครื่องในปี 2021 และขึ้นเป็น 200 ดอลล่าร์ต่อเครื่องในปี 2022 (ยิ่งนานวันไป ค่าใช้จ่ายในการดูแลจะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ)

ที่มา : The Verge

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)