รีวิว Dyson Pure Cool Me พัดลมขนาดเล็ก ดีไซน์สวย พร้อมประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ ไส้กรองแบบ HEPA จัดการฝุ่น PM2.5 ได้ถึง 99.95%
ปัญหาเรื่องของมลพิษในอากาศ ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่มาอย่างหนักหน่วงในกรุงเทพฯ และหลายๆ เมือง ที่อยู่ในค่าเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงตลอดเวลา และยิ่งในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมนี่ เรียกว่าหายนะเลยก็ได้ เพราะค่าดัชนี AQI นั้นพุ่งทะยานในระดับที่อันตรายติดอันดับเมืองที่อากาศแย่ลำดับต้นๆ ของโลกกันเลย
สำหรับตัวที่ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้มาทดสอบตัวนี้ คือ Dyson Pure Cool Me ที่มาในรูปแบบที่แตกต่างจากพัดลมฟอกอากาศตัวก่อนๆ ของไดสันที่เคยออกมา ก่อนหน้านี้ เราอาจจะคุ้นเคยกับตัว ไดสัน Pure Cool ที่จะเป็นพัดลมตัวใหญ่ ตั้งพื้น (หรือตั้งโต๊ะ) แล้วตัวกระจายลมจะเป็นแบบไร้ใบพัด
แต่กับ Pure Cool Me นั้นดีไซน์แตกต่างไป ด้วยขนาดที่เล็กกว่า ขนาดที่ว่าอุ้มไปวางที่ไหนก็ได้ในบ้าน ด้วยน้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม ขนาดตัวเครื่อง 24.50 x 40.10 x 24.50 เซนติเมตร ซึ่งมันเล็กระดับที่ว่าเอาตั้งบนโต๊ะทำงานเพื่อเป่าระหว่างนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ก็ยังได้อยู่
ตัวเครื่องจะมาดูกัน หลักๆ นั้นแยกเป็น 3 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนระบบฟิลเตอร์ฟอกอากาศ , ส่วนมอเตอร์พัดลม และส่วนกระจายลม มาดูที่ส่วนแรกกันก่อนคือตัวฐานที่เป็นทรงกลม โครงสร้างทำด้วยโลหะ รอบๆ ตัวจะเป็นเจาะรูพรุนเพื่อให้อากาศถูกดูดเข้าไปด้านใน ซึ่งภายในนั้นจะมีฟิลเตอร์ฟอกอากาศอยู่ที่ขอบรอบด้าน ตัวของฟิลเตอร์นี้ จะประกอบด้วย
- ชั้นฟิลเตอร์แบบ 360 GLASS HEPA FILTER ที่ทำมาจากเส้นใยโบโบลซิลิเกต และถ่านกัมมันต์ ทำหน้าที่ดักจับก๊าซและอนุภาคขนาดเล็กระดับ PM2.5 ในอากาศได้มากถึง 99.95%
- อีกชั้นจะเป็น ACTIVATED CARBON FILTER เพื่อช่วยดูดซับและดักจับแก๊ส กลิ่น และไอระเหยต่างๆ ช่วยขจัดกลิ่นภายในบ้านให้มีความสะอาดและสดชื่น
ด้านในของฐานนั้น ก็จะเป็นชุดของมอเตอร์พัดลมแบบดิจิตอล ที่ใช้เทคโนโลยีของ Dyson พัฒนารูปแบบของระบบกลศาสตร์ที่ชื่อว่า Core Flow คือตัวมอเตอร์นั้นจะติดตั้งอยู่ในแกนด้านในสุดของฐาน พัดดูดอากาศเข้ามาผ่านชั้นฟิลเตอร์กรองออกาศด้วยใบพัดความเร็วสูง
จากนั้นลมที่ผ่านการฟอกอากาศแล้วก็จะถูกพัดขึ้นไปด้านบน ที่ออกแบบเป็นรูปแบบโดมเอียงเฉียงเพื่อให้ลมที่ถูกดูดเข้ามารวมตัวกันและควบคุมให้ผ่านออกมาทางช่องด้านบนที่เลือกปรับทิศทางได้ว่าจะให้สายลมพุ่งไปด้านหน้าของตัวเครื่อง หรือพัดเฉียงขึ้นด้านบน พร้อมทั้งยังเลือกสั่งงานให้ตัวโดมด้านบนนี้พัดส่ายได้เป็นระยะ 70 องศา
ที่ตัวฐานของเครื่อง จะมีหน้าจอแสดงผลการทำงานแบบ LED สำหรับบอกสถานะการทำงาน รวมถึงโหมดต่างๆ ที่ทำงานอยู่ โดยที่การควบคุมการทำงานทั้งหมดจะสั่งงานผ่านรีโมทคอนโทรล ที่ออกมาได้เก๋ไก๋ดีมาก เป็นวัสดุโลหะเหมือนตัวฐาน ที่เวลาเก็บนั้นจะติดแปะกับแถบแม่เหล็กที่ด้านบนเหนือหน้า จะใช้ก็หยิบออกมาแล้วจิ้มสั่งงานได้เลย
โหมดคำสั่งต่างๆ ที่กดสั่งผ่านรีโมทของDyson Pure Cool Me
- สั่งเปิด-ปิดการทำงาน
- ปรับระดับความแรงของลม เลือได้ตั้งแต่ระดับ 1-10
- กดดูข้อมูลอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ว่าพร้อมใช้งาน และใกล้จะต้องเปลี่ยนฟิลเตอร์ใหม่แล้วหรือยัง
- ปรับส่ายไปมาหรือล็อคตำแหน่งทิศทางลม
- ตั้งเวลาปิดการทำงาน เลือกได้ตั้งแต่ 30 นาที่, 1, 2, 4 และ 8 ขั่วโมง
ทดสอบลองใช้งาน Dyson Pure Cool Me
การใช้งานพัดลมฟอกอากาศนั้น ตามชื่อรุ่นของมันที่เป็นรุ่น Me นั้นก็คือ มันออกมาแบบมาเพื่อใช้งานแบบส่วนบุคคล คือด้วยขนาดที่เล็กนั้น ระยะหวังผลในการฟอกอากาศก็มีจำกัดไปด้วย
ด้วยแรงลมของมันนั้น ระดับ1-4 จะได้อยู่ราวๆ 1-2 เมตรกำลังดี ถ้าอยากให้แรงและไกลขึ้นก็เร่งสปีดได้ถึง 10 ซึ่งมันก็พอได้ที่ระยะ 2-4 เมตร ได้เลยทีเดียว
แล้วเล็กๆ แบบนี้ แถมแรงลมก็พัดไม่ได้ไกลมาก จะเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ผมว่ามันสะดวกและดีมาก กับการที่เราต้องการแค่ให้ลมที่พัดมาผ่านการฟอกอากาศที่สะอาดขึ้น แทนที่เราจะต้องใช้เครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ เปิดเพื่อกรองฝุ่นทั้งห้อง ที่บ้างครั้งห้องใหญ่มากๆ จะฟอกทั้งห้องก็ดูจะลำบาก
พัดลมตัวนี้ ใช้แล้วตอบโจทย์ดีมาก สำหรับใช้ในบ้าน อย่างเช่นตั้งไว้หน้าโซฟารับแขก เอาไว้เปิดเวลาดูทีวี, เอาไว้ใช้สำหรับห้องเด็กเล็ก แค่เปิดลมเบาพัดให้อากาศบริเวณด้านหน้าพัดลมมีฝุ่นละอองลดลง และที่ผมชอบมากก็คือ เอาไว้เวลานอน เปิดแอร์แล้วใช้ตัวนี้ช่วยกระจายลมพัดโชยในห้องให้เย็นสบายและอากาศดียิ่งขึ้น
เรื่องของความดังของมอเตอร์ไฟฟ้า จากที่ลองใช้ ระดับ 1-3 นั้น เรียกว่าเบามากๆ แถบไม่ได้ยินเสียง พอปรับมาที่ 4-6 ก็จะเริ่มได้ยินมากขึ้น และปรับเพิ่มจนสุดอันนี้บอกว่าเสียงค่อนข้างดังเลยล่ะ อันนี้ก็เลือกได้แล้วแต่สภาพอากาศหรือความต้องการของเรา
การที่มันมีขนาดเล็ก ก็ถือว่าเป็นจุดดีที่เราอยากจะยกอุ้มไปวางใช้ในที่ต่างๆ ในบ้านได้อย่างสะดวก แต่แอบตินิดนึงตรงที่ตัวอแดปเตอร์ไฟนั้น ขนาดดูอาจจะใหญ่ไปนิดนึง
มาส่วนที่รู้สึกขัดใจในการใช้งานอยู่บ้าง ก็คือการควบคุมที่ใช้ผ่านรีโมทคอนโทรลได้เพียงอย่างเดียว ถ้าไม่มีรีโมทคุณสามารถกดเปิดปิดจากปุ่มที่อยู่ด้านหลังได้ แต่ปรับอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นถ้าทำหายก็คือจบกัน ไปสั่งซื้อรีโมทใหม่ถึงจะใช้งานได้ ดังนั้นเวลาใช้อย่าวางมั่วซั่ว เอามาแปะติดกับเครื่องไว้จะดีที่สุด
และด้วยที่มันควบคุมผ่านรีโมทได้อย่างเดียว มันก็ไม่มีฟีเจอร์อย่างเช่นเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น เพื่อควบคุมหรือสั่งงานจากสมาร์ทโฟน จุดนี้ถ้ามีด้วยจะดีมาก เพราะเราอยากจะสั่งจากที่ไหนก็ได้ และจะได้มีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ละเอียดกว่านี้ อย่างเช่นตั้งเวลาเปิดเครื่องได้ เป็นสิ่งที่แอบเสียดาย ถ้าไดสันใส่มาให้ด้วยนี่จะสมบูรณ์แบบมากๆ
สรุป
ด้วยขนาดและการออกแบบใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทั้งพัดลม และเครื่องฟอกอากาศในตัวเดียวกัน โดยที่ไม่ได้เน้นเรื่องพลังลมแรงที่ต้องพัดได้ทั้งห้อง ตัวพัดลมนั้นใช้ในโหมดที่พัดไม่แรงมาก เพียงพอสำหรับระยะใกล้ๆ สำหรับคนเดียว อย่างเช่นโต๊ะทำงาน หรือแม้แต่ห้องของเด็กเล็ก ถือว่าตัวนี้เหมาะมากๆ เพราะขนาดที่ไม่ใหญ่มาก พัดลมทำงานเสียงไม่ดัง เป็นตัวช่วยด้านการกรองอากาศให้บริสุทธิ์ได้ดีเลยทีเดียว
สำหรับ ราคา Dyson Pure Cool Me นั้นเปิดตัว อยู่ที่ 13,900 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ช็อปของ Dyson และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ได้ทั่วประเทศ