เรื่องแบตเตอรี่สำหรับมือถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เราขอแนะนำเรื่องต้องรู้ กับ วิธีชาร์จแบตมือถือ ที่แม้ว่าเครื่องจะไม่รองรับ Fast Charge ก็ยังชาร์จได้เร็วขึ้น รวมถึงด้านของความปลอดภัย ที่ชาร์จไฟแล้วได้เต็มประสิทธิภาพและไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
โทรศัพท์มือถือ และสมาร์ทโฟน ทุกวันนี้เปรียบเสมือนปัจจัยที่ 5 สำหรับผู้คนยุคนี้ ไม่ว่าจะช่วงอายุเท่าไร ทุกคนล้วนขาดไม่ได้ใช่มั้ย? และในช่วงที่เราต้อง Social Distancing ปลีกวิเวกเก็บตัวออกจากสังคม สมาร์ทโฟนยิ่งเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็คงวางห่างมือไม่ได้แน่ๆ เรามาดูวิธีการชาร์จมือถือให้เต็มได้ไวขึ้น แม้ว่ามือถือของเรานั้นจะไม่รองรับระบบ Fast Charge ก็ตาม
1.ไม่เล่นมือถือในขณะที่เราชาร์จมือถืออยู่
เพราะการใช้มือถือขณะที่เราชาร์จอยู่นั้น จะใช้ไฟเป็นจำนวนมากและเครื่องจะร้อน และเมื่อความร้อนสูงเกินไป ตัวระบบความปลอดภัยในเครื่อง จะควบคุมความเร็วในการชาร์จให้ลดลงทันที ส่งผลให้การชาร์จใช้เวลานานมากขึ้น รวมถึงการทำให้แบตเตอรี่มีอุณหภูมิที่สูงบ่อยๆ ก็มีผลต่ออายุการใช้งานที่จะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าที่ควรจะเป็น และถ้าในรุ่นที่เก่าๆ มาก อาจจะทำให้เครื่องฮีทจนปิดตัวเองไปเลย
2.ปิดเครื่องแล้วชาร์จ
ถ้าต้องการได้แบตเตอรี่ชาร์จให้เต็มเร็วขึ้น ขั้นตอนเบสิคอย่างแรกก็คือ ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ ในระบบของเครื่องไม่ว่าจะเป็น Bluetooth, GPS, WiFi และ NFC หรือแม้แต่ 3G, 4G, 5G เพราะว่าการเชื่อมต่อเหล่านี้ แม้ว่าเราไม่ได้ทำอะไร มันก็จะมีการใช้งานพลังงานบางส่วนอยู่
แต่ที่ได้ผลดีสุดก็คือ ปิดเครื่องไปเลย เพราะมันไม่มีการทำงานเบื้องหลังใดๆ มาดึงไฟระหว่างที่ชาร์จ ซึ่งการปิดเครื่องเสียบชาร์จมือถือ สามารถเติมไฟได้เร็วขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลยทีเดียว
3.เปิดใช้งานโหมดเครื่องบิน
ถ้าไม่สะดวกปิดเครื่องไปเลย ก็เลือกเป็น Airplane Mode ก็พอได้อยู่ แต่อย่าลืมว่าการเปิดโหมดนี้จะทำให้เรารับสายใครไม่ได้ หรือโทรหาใครก็ไม่ได้เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรวิธีนี้ ก็เป็นวิธีที่ชาร์จได้เร็วรองมาจากการปิดมือถือแล้วชาร์จเลยนะ
4.ใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่
บางคนบอกว่าให้ปิดเครื่องเลย ก็กลัวว่าจะติดต่อกับใครไม่ได้ แนะนำให้เปิดใช้โหมดประหยัดแบตเตอรี่ ที่จะมีอยู่ในทุกเครื่อง ทั้ง iPhone และสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ ระบนี้ก็จะช่วยให้ลดการทำงานของแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ก็ช่วยให้การชาร์จไฟได้เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
5.ใช้สายชาร์จและอแดปเตอร์ ที่เหมาะสำหรับสมาร์ทโฟนของเรา และได้มาตรฐาน
การเลือกสายชาร์จ ควรเลือกสายที่มีมาตรฐาน และสามารถใช้งานร่วมกับอะแดปเตอร์ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงเช็คดูสเปคระบบชาร์จในสมาร์ทโฟนของเรา ว่ารองรับระบบชาร์จไฟที่ระดับไฟเท่าไร ซึ่งตามปกติแล้ว ตัวอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่องตอนที่ซื้อ ทั้งสายชาร์จและอแดปเตอร์ จะผลิตมาสอดคล้องกับเทคโนโลยีชาร์จไฟของเครื่องได้ดีที่สุด
หลายคนใช้สมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็วมาให้อยู่แล้ว แต่เอาสายชาร์จคุณภาพต่ำ หรืออแดปเตอร์จ่ายไฟที่แรงดันต่ำ ก็ทำให้การชาร์จไฟทำได้ช้าลง
6.ตรวจสอบอุปกรณ์ชาร์จว่ามีการเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง?
อุปกรณ์ต่างๆ ล้วนมีอายุการใช้งาน บางทีการชาร์จแบตเตอรี่ที่ช้านั้น อาจจะเป็นเพราะตัวสายหรืออแดปเตอร์ที่ใช้นั้นหมดอายุการใช้งาน เริ่มมีการเสื่อมประสิทธิภาพแล้ว แนะนำให้เปลี่ยนใหม่ เพื่อให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งการใช้อุปกรณ์ชาร์จที่เสื่อมสภาพ ยังเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยจากกระแสไฟฟ้าและการลัดวงจรอีกด้วย
7.อัปเดต firmware ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
สมาร์ทโฟนทั้ง Android และ iPhone จะมีการปล่อยอัปเดตเฟิร์มแวร์ระบบ ที่นอกจากเรื่องความปลอดภัยของระบบ หรือเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ แล้ว บางครั้งก็ออกมาเพื่อปรับประสิทธิภาพของระบบให้ทำงานดีขึ้น ส่งผลในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ดีกว่าเดิมอีกด้วย
8.แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ อย่าทนใช้ เปลี่ยนใหม่ซะ!
อย่างที่บอก ว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างล้วนมีอายุการใช้งาน สาเหตุของการชาร์จแบตเตอรี่ได้ช้า หรือชาร์จเสร็จแล้วใช้ได้ไม่นานก็หมดไวกว่าปกติ ก็เป็นเพราะแบตเตอรี่ของคุณนั้นเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนที่อายุเกินกว่า 1 ปีขึ้นไป ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่โดยทั่วไปจะลดลงไป 5-15% แล้วแต่พฤติกรรมของผู้ใช้
สำหรับ iPhone เราสามารถเข้าไปเช็ค Battery Health ได้ใน Setting และอีกจุดที่สังเกตได้ว่าแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพหรือยัง นั่นก็คือ “แบตบวม” ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องอันตรายมากๆ เพราะอาจจะเกิดเหตุร้ายแรงถึงขั้นระเบิดหรือลุกไหม้ได้
แนะนำว่าเมื่อแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพแล้ว ควรทำการส่งศูนย์บริการเพื่อทำการเปลี่ยนใหม่ และควรเลือกใช้บริการจากศูนย์ที่เป็นทางการ และอะไหล่แบตเตอรี่แท้ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีที่สุด
เป็นยังกันบ้างสำหรับ วิธีชาร์จแบตมือถือ ให้เต็มไว แต่ถ้าอยากให้มือถือของเราใช้ได้ระยะเวลานาน ก็ไม่ควรใช้งานจนแบตหมดเกลี้ยงสนิท 0% แล้วค่อยมาชาร์จ และถ้าหากสมาร์ทโฟนที่เราใช้งาน เริ่มรู้สึกว่าทำงานผิดปกติ แนะนำว่าให้รีบส่งไปที่ศูนย์บริการ เพราะถ้าหากแบตเตอรี่เกิดเสื่อมภาพแล้ว แค่เปลี่ยนใหม่ ก็จะทำให้เครื่องกลับมาทำงานได้ดีขึ้น รวมถึงยังชาร์จไฟเพื่อใช้งานได้ดีเหมือนใหม่เลย
