จับ 5 ประเด็นที่น่าสนใจ จากงาน GET AWARDS ที่ควรรู้ และเผยยอดธุรกิจหนึ่งปี ดาวน์โหลดแล้วกว่า 2 ล้านครั้ง คนขับเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า
เพื่อฉลองครบรอบ 1 ปี GET (เก็ท) ออนดีมานด์ไลฟสไตล์แอพพลิเคชั่นและแอพพลิเคชั่นส่งอาหารชั้นนำของกรุงเทพฯ ที่มียอดดาวน์โหลดแล้วกว่า 2.2 ล้านครั้ง จัดงาน GET AWARDS (เก็ท อวอร์ดส์) ขึ้นเป็นครั้งแรก งานสำคัญแห่งปีที่รวมพลคนในวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ไว้อย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนจากภาครัฐ ร้านอาหาร แบรนด์ชั้นนำ โซเชียลอินฟูลเอนเซอร์ และกูรูในวงการ เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐาน และชื่นชมธุรกิจและร้านอาหารต่างๆ ที่มีผลงานโดดเด่นและได้ส่งมอบอาหารมื้ออร่อยและบริการที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าตลอดปีที่ผ่านมา
โดยในงานได้มีการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจในวงการฟู้ดเดลิเวอรี่ไว้มากมายจากทั้ง Gojek และ GET โดยนายภิญญา นิตยาเกษตรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GET และนายแอนดรูว์ ลี ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจต่างประเทศ Gojek (โกเจ็ก) และเราได้สรุปประเด็นสำคัญมาแบ่งปันไว้ ดังนี้
ธุรกิจอาหารของ Gojek มีออเดอร์ถึง 50 ล้านออเดอร์/เดือน
ซึ่งนับรวม 3 ประเทศ ไมว่าจะเป็น Gojek ในอินโดนีเซีย Go-Viet ในเวียดนาม และ GET ในประเทศไทย ซึ่งนั่นแสดงถึงความสำคัญของธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ Gojek เป็นที่รู้จักในฐานะแอพพลิเคชั่นสำหรับการเรียกรถและส่งของแต่เพียงอย่างเดียว และ Gojek เองมั่นใจว่าธุรกิจนี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมากในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะในประเทศไทย
ผู้บริโภคไทยมีอายุมากกว่าประเทศอื่นๆ
ผู้บริโภคสำหรับตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ในไทยคือกลุ่ม Gen X (31%) และ Gen Y (51%) ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียและเวียดนามจะเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า นั่นคือ Gen Y (59%, 53%) และ Gen Z (29%, 34%) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม Late Jobbers หรือคนทำงานของไทยที่มีอายุมาก ในกลุ่ม 41 ปีขึ้นไป มีการใช้เทคโนโลยีที่มากกว่า และเปิดรับกับไลฟสไตล์การสั่งอาหารออนไลน์กันมากกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้
คนไทยยอมจ่ายเงินมากที่สุดในการสั่งแต่ละครั้ง
โดยเฉลี่ย คนไทยจ่ายเงินต่อ 1 การสั่งซื้อสำหรับบริการฟู้ดเดลิเวอรี่อยู่ที่ $5.5 หรือราว 175 บาท ซึ่งสูงกว่าอินโดนีเซียและเวียดนาม ที่จ่ายอยู่ที่ราว $3.3 หรือ 105 บาท ทำให้ตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่ของไทยเป็นลาดที่น่าสนใจเพราะผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ค่อนข้างสูง และยอมจ่ายเงินกับอาหารมากกว่า นอกจากนั้นตลาดไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
คนไทยนิยมชานมไข่มุก
ในช่วง 10 เดือนของปี 2562 ตั้งแต่ GET เปิดตัวมา GET ขายชานมไข่มุกไปถึง 1.1 ล้านแก้ว หรือเฉลี่ยกว่า 3,600 แก้วต่อวัน และผู้บริหาร GET เผยว่าความนิยมของชานมไข่มุกในปีนี้ยังไม่ลดลง แม้จะมีเครื่องดื่มทางเลือกอื่นๆ เข้ามาที่ได้รับความนิยม แต่ชานมไข่มุกก็ยังคงครองใจเป็นอันดับหนึ่งของคนกรุงเทพฯ เหมือนเดิม
โมเดลรันเนอร์ เดินส่งอาหารมาแรง
GET เผยว่าได้ทดลองให้บริการ GET RUNNER ใน 3 เขตตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากคนที่ไม่มีจักรยานยนต์ที่สนใจจะหารายได้ด้วยงานส่งหาอาหาร หลายคนยังเป็นนักเรียน นักศึกษา ที่ต้องการหารายได้พิเศษในเวลาว่าง บางคนอยู่ระหว่างการหางานและมาทำอาชีพนี้คั่นเวลา ถือเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพได้ทางหนึ่งที่มีรายได้ที่ดี มีสวัสดิการ และได้สุขภาพที่ดีด้วย และมีมลพิษต่ำ รันเนอร์บางคนก็นำจักรยานมาเอง หรือเช่าจักรยานของกทม. นอกจากนั้น จากการทดสอบยังพบว่าโมเดลที่จัดระยะส่งในช่วงสั้นๆ นี้ ยังทำให้ผู้ใช้บริการที่ชอบสั่งอาหารในระยะใกล้ๆ ได้รับอาหารที่เร็วขึ้นถึงเกือบ 10 นาที อีกด้วย
และเพื่อฉลองครบรอบ 1 ปี GET ได้จัดแคมเปญพิเศษ “เกิดอยากกิน” ที่มอบดีลดีๆ พร้อมส่วนลดอาหารสูงสุดถึง 50% และยังมีคูปองส่วนพิเศษมากมาย ตั้งแต่วันนี้ – 15 มีนาคม 2563 และนอกจากนั้น ยังมอบโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อผู้ใช้ใหม่ รับส่วนลด 50% จำนวน 2 ครั้ง (ลดสูงสุด 50 บาท) สำหรับบริการ GET FOOD ลดทั้งค่าส่งและค่าอาหารทันที ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2563
ลูกค้าสามารถสั่งอาหารจากร้านโปรดและร้านยอดนิยมผ่าน GET ได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น GET จาก App Store และ Play Store และลงทะเบียนเพื่อใช้งานพร้อมเพลินกับร้านอาหารคาวหวานทั่วกรุงเทพฯ อีกนับหมื่นร้านที่พร้อมส่งถึงบ้านคุณ