แกะกล่องลองสัมผัส พรีวิว สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ realme 6 Pro ถือเป็นอีกรุ่นที่เรียลมีจัดสเปคมาแบบสุดเหวี่ยง ตอบโจทย์การใช้งานได้ดี ในราคาที่ไม่สูงมาก
เรียลมี ยังคงเดินหน้าทำตลาดสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ล่าสุดสามารถขึ้นมาเป็น แบรนด์สมาร์ทโฟนที่มียอดขายเป็นอันดับ 7 ของโลกได้แล้ว และสำหรับรุ่นล่าสุดนี้ realme 6 Pro ก็ยังคงความน่าสนใจในหลายๆ อย่างที่ดูแล้วโดดเด่นเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในรุ่นราคาเดียวกัน ทั้งสเปคที่อัปเดตเทคโนโลยีใหม่, กล้องหลังความละเอียดถึง 64 ล้านพิกเซล, กล้องหน้าแบบคู่, ระบบชาร์จเร็ว VOOC 4.0 และระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด realme UI บน Android 10
Unbox แกะกล่อง
แพ็กเกจกล่องเรียลมีรุ่นใหม่นี่ มากับสีเหลืองแบบ เรียลมี๊… เรียลมี ด้านในเปิดมาจะพบกับตัวเครื่อง realme 6 Pro ตัวที่ทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้มาทดสอบเป็นสีน้ำเงิน Lightning Blue
อุปกรณ์ภายในกล่องมีให้ครบ ทั้งตัวเคสใสกันรอยแบบ TPU, เข็มจิ้มถาดซิม, สายชารจ์แบบ USB-A to USB-C และ อแดปเตอร์ชาร์จรุ่นใหม่ ที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จ VOOC 4.0 ที่ปล่อยกำลังไฟให้ถึง 30W โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยและควบคุมอุณหภูมิถึง 5 ชั้น
Hand-on ลองสัมผัส realme 6 Pro
ตัวเครื่องแกะมา เด่นมากกับลายด้านหลังเครื่อง ที่ยังคงใส่ใจกับรายละเอียดและเทคนิคการทำชั้นเลเยอร์สีสันที่สวยงาม ในรุ่นนี้มาในคอนเซปต์ Lightning Design สายฟ้าฟาด และนี่เป็นครั้งแรกกับการใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบไล่สี UV-curing ปรับแต่งมากกว่า 100 ครั้ง ทำให้ได้ฝาหลังสีน้ำเงินที่แสดงลวดลายสื่อถึงสายฟ้าที่ผ่านก้อนเมฆได้อย่างสวยงาม
ด้านหลังตัวเครื่อง ชุดโมดูลเลนส์กล้องจะวางเรียง 4 ตัวแบบ Quad Camera ที่มุมบนของตัวเครื่อง พร้อมไฟแฟลช LED แบบ DuoTone โดยกล้องแต่ละตัวจะประกอบด้วย
- กล้องหลัก จะเป็น 64MP เซ็นเซอร์ Samsung GW1 รูรับแสง f/1.8
- เลนส์มุมกว้าง Ultra-wide angle มุมกว้าง 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.3
- เลนส์เทเลโฟโต้ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.5 ซูมแบบ
- เลนส์มาโคร ถ่ายระยะใกล้สูงสุด 4 เซนติเมตร รูรับแสง f/2.4
มาดูที่ด้านหน้ากันบ้าง หน้าจอมาในขนาด 6.6 นิ้ว ดีไซน์แบบ เจาะรู Punch Hole ที่มุมซ้ายบน ทำให้หน้าจอมีขนาดเต็มพื้นที่ด้านหน้าถึง 90.6% และปิดทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 เพื่อป้องกันเรื่องของรอยขีดข่วน (แล้วก็มีฟิล์มกันรอยแปะทับห้อีกที) ความละเอียดของหน้าจอเป็น FHD+ (2400×1080) และที่เรียลมีภูมิใจนำเสนอก็คือ ตัวจอนั้นเป็นแบบ Ultra Smooth Display มีค่ารีเฟรชเรตสูงถึง 90Hz แตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วไปที่จะอยู่ที่ 60Hz ทำให้เวลาใช้งานให้ความรู้สึกไหลลื่นมากขึ้นกว่าเดิม
กล้องหน้าแบบ Dual In-Display ตัวกล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 เซ็นเซอร์เป็น Sony IMX471 ทำงานคู่กับกล้องมุมกว้าง ultra wide-angle เก็บระยะ 105 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2
ด้านข้างตัวเครื่อง ทางขวาออกแบบให้ปุ่ม Power มีลักษณะที่บุ๋มหลบเข้าไปจากขอบเครื่อง แล้วรวมเอาตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ที่ปุ่ม Power เลย ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียง และช่องถาดซิม
ถาดซิมจะเป็นแบบ Triple Tray สามารถใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และเพิ่มการ์ด microSD ได้ด้วย รองรับความจุได้ถึง 256GB
ด้านบนเครื่องมีช่องไมค์ตัดเสียงรบกวน พร้อมั้งช่องลำโพงเสียงสนทนาหลบอยู่ที่บริเวณขอบเครื่อง ส่วนด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร รองรับระบบเสียงแบบ Hi-res, ช่องไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเสียบแบบ USB-C และช่องลำโพง รองรับระบบเสียงแบบ Dolby Atmos
Performance ประสิทธิภาพภายใน
มาดูเรื่องสเปคภายใน ตัวชิปเซตใช้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด Qualcomm® Snapdragon™ 720G ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่วางจำหน่ายในไทยที่ใช้ชิปรุ่นนี้ ตัวชิปใช้สถาปัตยกรรมระดับ 8nm ช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และยังมีระบบ AI รุ่นที่ 5 ของ Qualcomm ช่วยให้การทำงานไหลลื่นมากยิ่งขึ้น
RAM ในรุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทยจะเป็นขนาด 8GB แบบ LPDDR4x dual-channel ส่วนหน่วยความจำภายในเครื่องจะมาเป็น 128GB UFS 2.1
แบตเตอรี่นั้น ความจุ 4300 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 4.0 30W ที่สามารถชาร์จ 30 นาที ได้แบตเตอรี่จาก 0% เพิ่มขึ้นมาเป็น 70% และสามารถชาร์จไฟได้เต็ม 100% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง
สรุปประสบการณ์ทดสอบลองใช้ พรีวิว realme 6 Pro
เราได้มีโอกาสลองใช้งาน realme 6 Pro เป็นเวลาสั้นๆ ประมาณ 2-3 วัน นี่คือความรู้สึกจากการได้ทดสอบใช้งาน เริ่มด้วยการออกแบบ โดยรวมแล้ว ความรู้สึกถือว่าตัวเครื่องค่อนข้างมีความหนาพอสมควร น้ำหนักเครื่องที่ 202 กรัม ก็ถือว่าไม่หนักไม่เบาจนเกินไป รูปทรงการออกแบบทำออกมาได้ดี จับได้ถนัดมือ ปุ่มกดต่างๆ อยู่ในตำแหน่งที่ลงตัว โดยเฉพาะปุ่ม Home ที่รวมร่างกับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ก็ทำให้เวลาเปิดหน้าจอตอนล็อคเครื่อง สามารถปลดล็อคได้ทันที ซึ่งตำแหน่งมันจะอยู่พอดีกับนิ้วโป้งข้างขวา ส่วนคนที่ถนัดซ้ายก็ไม่ใช้ปัญหาเพราะมันก็อยู่ตรงนิ้วชี้ของเราพอดี
ตัวกล้องด้านหลัง โมดูลดูนูนยื่นออกมาจากตัวเครื่องพอสมควร อันนี้ต้องระวังกันนิดนึงเวลาที่วางเครื่องเพราะอาจจะเป็นรอยได้ ส่วนลายสายฟ้านั้น ส่วนตัวชอบนะ ดูแปลกตา แล้วเวลาที่บิดเปลี่ยนมุมมองก็ให้ความรู้สึกเหมือนสายฟ้ามันเลื่อมๆ เป็นคลื่นไปมา
จอ 90Hz ถือว่าเป็นรุ่นแรกในกลุ่มราคานี้ ที่ให้จอรีเฟรชเรตถึง 90Hz สัมผัสได้คือเวลาการใช้งานแล้วมีการเลื่อนเปลี่ยนหน้าจอ หรือเข้าเว็บหรือ Facebook แล้วไถฟีดดูข้อมูล รู้สึกได้เลยว่ามันเลื่นไหลกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นทั่วๆ ไป ส่วนกับการเล่นเกมพวกเกมยิงจะรู้สึกได้ว่ามันลื่นขึ้นด้วยเช่นกัน
แบตเตอรี่ 4200 mAh ใช้งานเต็มวันได้แบบสบายหายห่วง ไม่ต้องกลัวสิ้นใจแบตหมดกลางทางระหว่างวัน หรือถ้าหากใช้งานหนักๆ แบบไม่วางมือถือ เล่นเกม เล่นเน็ตถ่ายรูป ก็อาจจะหมดเร็วหน่อย แต่การมีระบบ VOOC 4.0 มาช่วยก็สามารถเสียบจุ๊บทิ้งไว้ไม่กี่สิบนาที ก็สามารถได้แบตเตอรี่มาเติมได้แบบไม่ต้องรอนาน
สำหรับกล้องถ่ายภาพ ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ถือว่าทำได้ดีน่าประทับใจในสเปคระดับนี้ มีโหมดให้ใช้ได้ครบ ถ่ายภาพเก็บระยะชัดตื้นละลายหลังตัวเซนเซอร์เองทำได้ค่อนข้างโอเค ส่วนโหมด Portrait ก็เลือกปรับละลายหลังเองได้, การถ่ายวิดีโอเพิ่มระบบกันสั่นเข้ามาที่ทำได้นิ่งมากๆ สำหรับรีวิวส่วนของกล้องรอชมในคลิปรีวิวตัวเต็มอีกทีนะ
ส่วน realme UI เท่าที่ได้ลองสัมผัส กับประสบการณ์บน Android 10 โดยรวมแล้วหน้าตาปรับเปลี่ยนไปบ้าง มีรายละเอียดเรื่องการดีไซน์, สีสัน และอนิเมชั่นต่างๆ มีฟีเจอร์อย่างการปรับเปลี่ยนแต่งไอคอนได้เอง นอกจากนี้ก็มีฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Dark Mode สำหรับคนชอบสีเข้มๆ สบายตา, มี Focus Mode ที่ช่วยผ่อนคลาย และการแคปภาพหน้าจอแบบเลือกตำแหน่งได้ด้วยการแตะ 3 นิ้ว
ขอจบการ Preview ให้ชมกันก่อน ซึ่ง realme 6 Proจะเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ 11 มีนาคมนี้ พร้อมกับ realme 6 และของเล่นใหม่ realme Band สายรัดข้อมืออัจฉริยะ ซึ่งในงานเปิดตัวจะเผยข้อมูลทั้งหมดทั้ง ราคา โปรโมชั่น และการวางจำหน่ายในไทย โปรดรอติดตามกันนะครับ 😀
สำหรับรีวิวตัวเต็มโดยพี่หลาม จะตามมาในเร็วๆ นี้