รีวิว Skullcandy Crusher Wireless ถูกใจสายเบส ปรับระดับตุบตับได้ตามใจชอบ

20 มีนาคม 2020

รีวิว Skullcandy Crusher Wireless หูฟังไร้สายแบบ Over Ear ดีไซน์พรีเมียม เด่นเรื่องของระบบ Sensory Bass ที่ปรับระดับเสียงเบสได้สะใจ ตามแบบที่เราชอบได้

แบรนด์ Skullcandy (อ่านว่า “สกัลแคนดี้” นะ) จุดกำเนิดมาจากรัฐ Utah ประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2003 ด้วยความตั้งใจที่ต้องการให้หูฟังไม่ใช่แค่เอาไว้ฟังเพลง แต่ต้องตอบสนองเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟังค์ชั่นอำนวยความสะดวก หรือดีไซน์ที่ดูเหมาะกับการแต่งตัวและดูเป็นวัยรุ่น รวมถึงประสิทธิภาพด้านเสียงที่ดี โดยปัจจุบัน Skullcandy มีวางจำหน่ายแล้วกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

Package : Unbox Skullcandy Crusher Wireless

มาดูกันตั้งแต่ตัวแพ็กเกจของเจ้า Crusher Wireless กันก่อนเลย ตัวกล่องนั้นดีไซน์ออกมาให้ความรู้สึกที่พรีเมี่ยม เปิดออกมาภายในจะมีตัวหูฟังพับเก็บอยู่ในถุงผ้ากำมะหยี่อย่างดี ซึ่งทำให้เราสะดวกในการพกพาใส่กระเป๋าใบใหญ่ได้ง่ายขึ้น โดยในถุงจะมีช่องสำหรับใส่พวกสายและอุปกรณ์ต่างๆ ให้มาด้วย

โดยอุปกรณ์ต่างๆ ในกล่องนอกจากตัวหูฟังและถุงผ้าแล้ว ยังมีตัวสายชาร์จแบบ Micro USB กับสายเสียบต่อหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรมาให้ และกล่องนี้ยังมีพิเศษ แถมโค้ดสมัครใช้ YouTube Premium ฟรี 3 เดือนให้มาด้วย

สรุปอุปกรณ์ในกล่อง

• 1 x Skullcandy CrusherWireless
• 1 x สายหูฟัง
• 1 x สาย Micro USB สำหรับชาร์จ
• 1 x เคสแบบถุงผ้าสำหรับพกพา

Design : การออกแบบ

เรื่องของการออกแบบดีไซน์ตัวหูฟัง สำหรับ Skullcandy CrusherWireless ตัวที่ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้มาลองทดสอบจะเป็นสีเขียว ที่ให้อารมณ์ขรึมๆ เท่ๆ เหมาะกับการแต่งตัวแนวสตีทแฟชั่น หรือคนที่ชอบเล่นกีฬา จุดเด่นที่สะดุดตาเราก็คือตัวโครงด้านบนนั้น วัสดุที่บุมาจะเป็นผ้ากำมะหยี่ ที่ให้สัมผัสนุ่มๆ โดยรวมแล้วหน้าตาดูหล่อออกแนววินเทจนิดๆ แต่ก็ยังดูวัยรุ่นเท่ๆ ได้อยู่

ตัวโครงหูฟังสามารถยืดหดเพื่อปรับรับกับขนาดศีรษะผู้สวมใส่ ตัวฟองน้ำจะเป็นแบบ Full Size ที่เอาไว้ใส่แบบครอบเต็มหู (Over Ear) ฟองน้ำค่อนข้างนิ่มแต่ไม่ได้ยวบยาบ ใส่แล้วรู้สึกกำลังดีไม่บีบหัวจนเกินไป และเวลาที่ไม่ได้ใช้งานก็จะพับให้เหลือขนาดเล็กๆ ได้ด้วย

ที่ตัวของหูฟังจะมีปุ่มกดสำหรับบังคับคำสั่งต่างๆ มา โดยทำเป็นปุ่มสัญลักษณ์ + และ – เอาไว้สำหรับปรับระดับเสียงและเปลี่ยนเพลง (กด 1 ครั้งเพื่อเพิ่มลดเสียง และ กดค้าง 3 วินาทีเพื่อเปลี่ยนเพลง) อันนี้ชอบเพราะนอกจากมันจะดูเก๋ดีแล้ว ตัวปุ่มมันใหญ่ดีมากๆ ทำให้เวลาที่สวมใส่แล้วจะกดปุ่มไม่ต้องคลำหา

ส่วนทางซ้ายมีปุ่มที่แปลกตา เพราะเราไม่เคยเห็นมีในหูฟังแบรนด์อื่นๆ แต่นี่คือเอกลักษณ์ของ Crusher Wireless นั่นก็คือระบบ Sensory Bass ที่เราสามารถปรับเลื่อนเลือกระดับเสียงเบสในการฟังเพลงได้ ถือว่าแปลกแล้วก็เจ๋งดี เพราะระบบนี้จะจำลองการสั่งของเบสในหูฟัง ให้อารมณ์ตุ่บๆๆ เหมือนซับวูฟเฟอร์ ทำให้รู้สึกสนุกกับการฟังเพลงที่มีเบสหรือจังหวะได้มันส์มากยิ่งขึ้น

จากที่ลองใช้แล้ว มันได้ฟิลเหมือนมีลำโพงปาร์ตี้ดอกใหญ่ๆ มาสั่นผึ่บๆ ที่หูเรา ให้ความรู้สึกสนุกแปลกไปอีกแบบ ซึ่งเชื่อว่าใครที่ชอบฟังเพลงแนวบีทหนักๆ น่าจะชอบอกชอบใจในฟีเจอร์นี้

SOUND : ลองฟังเสียงกัน

มาคุยกันเรื่องของคาแรคเตอร์เสียงกันบ้างดีกว่า สำหรับ Crusher Wireless นั้นได้รับความนิยมและพูดถึงปากต่อปากกันมาในเรื่องของเสียงเบส ที่พัฒนาต่อมาจากรุ่นพี่อย่าง Skullcrusher และ Crusher ที่ก่อนหน้านี้มีรุ่นพิเศษอย่าง Crusher VRA และ Crusher 360 และล่าสุดก็มีเป็น Crusher ANC

แน่นอนเลยว่า เสียงเบส คือความโดดเด่นของหูฟังรุ่นนี้ ยิงมาเป็นลูกใหญ่ๆ สะใจดีมาก แถมด้วยการมีระบบ Sensory Bass ใส่เข้ามาให้เราเลือกปรับได้ตามใจชอบ จะเลือกแบบตุบตับกำลังดี หรือสนั่นลั่นเป็นรถบัมป์ก็เลือกได้

ส่วนเสียงอื่นอย่างเสียงร้อง ก็ถือว่าชัดในระดับกลาง ไม่โดดเด่นเท่าไหร่นัก รวมถึงโทนเสียงสูงเองก็ไม่ได้เข้มมาก แต่ว่าเสียงก็ไม่ทับกวนกัน ฟังชัดเจนโดยรวมคาแรคเตอร์เสียงจะไม่ได้อลังการมาก ออกแนวปาร์ตี้ เร้าด้านจังหวะเป็นหลัก แนะนำเหมาะกับสายวัยรุ่น ที่เป็นทั้ง POP, Rock, HipHop, EDM เน้นจังหวะสนุกๆ มันส์ๆ

ฟีเจอร์และประสิทธิภาพ

ส่วนฟีเจอร์นอกเหนือจากการฟังเพลงแล้ว ตัวหูฟังยังมีไมโครโฟนในตัว สำหรับสนทนาสายโทรศัพท์ได้ โดยกดปุ่มที่ตัวหูฟังเพื่อรับและวางสายได้ ตัวไมค์ทดสอบคุยเสียงดังฟังชัดดี รวมถึงตัวปุ่มกดยังเอาไว้เรียกระบบผู้ช่วยในโทรศัพท์ทั้ง Siri หรือ Google Assistant ได้ด้วย

ตัวแบตเตอรี่ ตามสเปคแล้ว ชาร์จเต็มที่ใช้ได้นาน 40 ชั่วโมง จากที่ทดสอบใช้งานตามปกติ ฟังวันละ 2-3 ชั่วโมง มาเกือบอาทิตย์แล้ว แบตเตอรี่ก็ยังไม่หมด รวมถึงยังมีระบบ Rapid Chage เอาไว้ใช้เร่งด่วนเวลาที่แบตเตอรี่หมด โดยที่ชาร์จเพียงแค่ 10 นาที ก็จะได้กระแสไฟสำหรับใช้งานฟังเพลงต่อไปได้อีก 3 ชั่วโมง

และการใช้งานยังมีช่อง AUX เอาไว้เสียบสายแบบ 3.5 มิลลิเมตร สำหรับการฟังเพลงแบบสาย ซึ่งไม่ต้องใช้พลังงาน และเอาไว้เวลาเล่นเกมที่ต้องการไม่ให้มีความหน่วงของเสียงกับภาพ เพราะในการเล่นเกมเท่าที่ทดสอบ เสียงยังมีการดีเลย์อยู่บ้างถ้าเชื่อมต่อด้วย Bluetooth แต่กับการดู YouTube หรือ Netflix เสียงตรงไม่มีปัญหาอะไร

สรุป: ประทับใจแค่ไหนกับ Skullcandy Crusher Wireless

เป็นหูฟังที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น ชัดเจน ตั้งแต่ดีไซน์ที่สีดูออกจะไปแนววินเทจ แต่โดยรวมออกมาก็ยังมีความเป็นวัยรุ่นอยู่ ใช้ใส่ได้เท่ๆ ตัวหูฟังฟองน้ำนิ่มใส่สบายไม่เจ็บหู ขนาดน้ำหนักถือว่ากำลังดีพกพาสะดวกอยู่ เรื่องเสียงก็เด่นไปเลยกับเสียงเบส ใครชอบตึ่บๆ บอกเลยว่าไม่ผิดหวัง ส่วนเสียงอื่นๆ ก็รองลงมา

แบตเตอรี่ถือว่าอึดใช้งานได้หลายวัน แต่เสียบชาร์จกว่าจะเต็มราวๆ 4 ชั่วโมงค่อนข้างนานนิดนึง ส่วนฟีเจอร์ลูกเล่นมีไม่ค่อยมาก เน้นเอาไว้ฟังสนุกๆ พกพาง่าย ได้เสียงเบสบันเทิง

Skullcandy Crusher Wireless ราคา จำหน่ายอยู่ที่ 7,900 บาท มีให้เลือก 4 สีคือ Black, Moss Olive, Moab Red และ Grey Tan สินค้ารับประกัน 2 ปี โดย เมนทาแกรม ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทย

ตามไปช็อปออนไลน์ Crusher Wireless ได้ที่: http://bit.ly/CrusherMunkong, http://bit.ly/SKDYPWB

ช่องทางอื่นๆ

ช่องทางติดต่อ