ปัจจุบันทิศทางสมาร์ทโฟนของ Huawei เดินหน้าพัฒนา HMS ของตัวเอง หลังจากที่โดนสหรัฐแบนฯ มาร่วม 10 เดือน แต่ทางหัวเว่ยก็ยังหวังว่า จะได้กลับไปร่วมธุรกิจกับ Google อีกครั้ง
จากบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งที่ทาง Wired ได้พูดคุยกับคุณ ริชาร์ด หยู CEO ของ Huawei ถึงเรื่องราวด้านแผนการดำเนินงานต่อจากนี้ ทั้งเรื่องของ Huawei Mobile Service ที่ตอนนี้เริ่มมีการพัฒนาหลายๆ อย่างเพื่อมาทดแทน Google Mobile Service
ในวันนี้หลังจากที่หัวเว่ยเปิดตัว P40 Series เราจะเห็นการพัฒนาหลายๆ อย่างขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น Celia ผู้ช่วยอัจฉริยะแบบ Voice Assistant, ระบบแผนที่ๆ ใช้ของ TomTom และการพัฒนาเติบโตของ Huawei App Gallery ซึ่งตอนนี้ถือเป็น Mobile App Store ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองลงมาจาก Google Play Store และ App Store ของ Apple
คำถามแรกที่ Wired ถามคุณริชาร์ด หยู คือ การที่หัวเว่ยเดินหน้าทำ App Store ของตัวเอง แปลว่าตอนนี้ หัวเว่ยจะไม่กลับไปร่วมงานกับ Google อีกแล้วใช่หรือไม่?
คุณริชาร์ด หยู ตอบว่า “ในอดีตที่ผ่านมา หัวเว่ยนำรายได้และผลกำไร ให้กับบริษัทในสหรัฐเป็นจำนวนมาก รวมถึง กูเกิล ซึ่งเราเป็นพันธมิตรที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งตอนนี้ หัวเว่ย เรายังหวังว่า จะสามารถร่วมมือกับ กูเกิล ได้อีกครั้ง เราหวังว่า หลังจากที่ เกิล ได้ยื่นคำร้องขอใบอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐ เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจกับหัวเว่ย จะได้รับการพิจารณาและอนุญาต
ทางหัวเว่ยนั้น ยังต้องการที่จะใช้บริการของGoogle Mobile Service รวมถึง Play Store เพื่อเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้ใช้งาน โดยที่ Huawei Mobile Services นั้นจะเสนอเป็นทางเลือกอีกทางเพื่อให้เรายังคงเติบโตต่อไปได้บนแพลตฟอร์มของ Android”
นอกจากนี้ ยังมีการถามเกี่ยวกับวิกฤตการแพร่ระบาดของ coronavirus หรือ COVID-19 นั้นมีผลกระทบกับธุรกิจสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยหรือไม่?
“หัวเว่ยเผชิญทั้ง coronavirus และการสั่งแบนของสหรัฐ 2 อย่างร่วมกัน แต่ COVID-19 เป็นสิ่งที่มีผลกระทบกับทุกคนทั่วโลก และหัวเว่ยคิดว่าเราวางแผนไว้ดีกว่าบริษัทอื่นๆ เราเริ่มทำการผลิต Huawei P40 กันตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงเดือนมีนาคม ซึ่งตอนนี้ห่วงโซ่อุปทานในประเทศจีนของเรากำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
ยกตัวอย่าง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โรงงานส่วนใหญ่ในประเทศจีนได้ปิดตัวลง แต่ที่ Huawei เราได้มีการพูดถึงวิธีการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสกับรัฐบาลท้องถิ่น อย่างเช่น หน้ากากอนามัยสำหรับคนงาน, การปรับปรุงและการรักษาความสะอาดด้านอาหารและสาธารณูปโภค เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงในสมาร์ทโฟนของชาวจีนทุกคนมีแอพที่คอยตรวจเช็คสถานะด้านสุขภาพอย่างละเอียด
ทำให้ในเดือนกุมภาพันธ์ที่โรงงานผลิตส่วนใหญ่ต้องปิดตัวลง แต่โรงงานของ Huawei เกือบทั้งหมดในจีนยังคงเดินหน้าทำงานได้อยู่ ส่วนพนักงานของเราบางส่วนก็ยังคงทำงานในออฟฟิศ โดยบางส่วนจะถูกเปลี่ยนให้ทำแบบ work from home
ข้อมูลจาก : Wired