ไม่ต้องพกพากล้องใหญ่ให้หนัก รุ่นพิเศษ Redmi Note 9S Limited Edition ที่มาพร้อมกับเลเซอร์โลโก้ด้านหลังสำหรับรุ่นความจุ 8GB+128GB
Redmi Note 9S Limited Edition ถูกจัดจำหน่ายในช่วงเทศกาล Mi Fan Festival 2020 ที่ผ่านมา และทั่วโลกมีเพียง 2,020 เครื่องเท่านั้น เพื่อให้เหล่าสาวกเสียวหมี่ได้ลองใช้กันแบบคลูๆ กับสุดยอดกล้องถึง 4 ตัว แล้วกล้องแต่ละตัวทำหน้าที่อะไรบ้าง ถ่ายภาพออกมาเป็นอย่างไร มาดูกัน เราจะไล่เรียงตามประสิทธิภาพของแต่ละกล้องกันเลย
กล้องตัวที่ 1 เป็นกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ถึง ½ นิ้ว ทำให้ถ่ายภาพในที่ที่มีแสงจ้าและภาพที่มีรายละเอียดเยอะออกมาได้สวยและยังคงรายละเอียด เพราะซุปเปอร์พิกเซลแบบ 4-in-1 รูรับแสงขนาด f/1.79 ออโต้โฟกัส autofocus เลนส์ 6P และมุมมองภาพกว่า 79 องศา ทำให้เราเก็บภาพได้ทุกรายละเอียดดังที่ต้องการ
กล้องตัวที่ 2 เลนส์อัลตร้าไวด์ที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมรูรับแสงขนาด f/2.2 และมุมมองภาพ 119 องศา ทำให้สามารถเก็บภาพที่มีขนาดใหญ่และกว้างได้อย่างง่ายดาย
กล้องตัวที่ 3 เลนส์มาโครตัวนี้มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เก็บภาพระยะใกล้ และให้ภาพคมชัดมากด้วยระยะออโต้โฟกัส 2 ซม – 10 ซม ถือว่าทำได้ใกล้มากสำหรับมือถือในระดับราคาแบบนี้ สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนชอบถ่ายรูปได้มาก
กล้องตัวที่ 4 เลนส์ depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยให้เราถ่ายรูปได้สวยสมใจในทุกช่วงเวลา กับภาพถ่ายกลางคืน (Night Mode) ถ่ายอาคาร ท้องฟ้า
สรุปการใช้งาน
เราใช้เวลาตลอดทั้งวันในการตระเวนถ่ายภาพรอบๆ กรุงเทพมหานครกับสถานที่ที่เป็นจุดสนใจ โดยไม่ได้ชาร์จแบตเตอรี่เลย ขอบอกว่ากล้อง Redmi Note 9S สามารถเอาอยู่ แบตเตอรี่ใช้ได้นานขนาดถ่ายลบและถ่ายใหม่ ก็ไม่ต้องวุ่นวายหาที่ชาร์จแบตเตอรี่แต่อย่างใด ขอบอกว่าเพียงพกพาสมาร์ทโฟนตัวนี้เครื่องเดียวอยู่ได้ทั้งวัน
(หมายเหตุ *ภาพนี้ได้ถ่ายขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2563)