การประชุมในหัวข้อ เครือข่าย IP อัจฉริยะชั้นนำ เร่งพลิกโฉมสู่การเชื่อมต่ออัจฉริยะ ยังได้เล่าถึงเรื่องราวความสำเร็จนานัปการในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ
เทคโนโลยี 5G เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังขยายตัว บริษัทต่างๆ ต่างก็เผชิญความท้าทาย เช่น การต้องทำงานประสานกันระหว่างสายการผลิตนับล้านๆ แห่งกับสำนักงานปลายทาง การย้ายบริการทั้งหมดของบริษัทขึ้นสู่คลาวด์ และอัตราการใช้ AI ที่สูงถึง 97 เปอร์เซ็นต์ เครือข่าย IP เป็นส่วนสำคัญขององค์กร เครือข่าย IP เองก็เผชิญกับปัญหามากมายหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นแบนด์วิดท์ไม่เพียงพอ การใช้บริการที่ย่ำแย่การดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) การแก้ปัญหาของเครือข่ายมีประสิทธิภาพต่ำ IP อัจฉริยะคือกุญแจสำคัญที่จะเอาชนะปัญหาข้างต้นได้ หัวเว่ยจึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของเครือข่ายทั่วไป ดังต่อไปนี้
1. ศักยภาพการรองรับขั้นสูง (super capacity): เครือข่าย IP จะเปลี่ยนเป็นเครือข่าย IP อัจฉริยะที่รองรับการใช้งานในอนาคตและขยายแบนด์วิดท์ได้ เปลี่ยนผ่านจาก 100GE เป็น 400GE และจาก Wi-Fi 5 เป็น Wi-Fi 6 นอกจากนี้ เครือข่ายในอนาคตจะต้องมีการใช้แบนด์วิดท์แบบแยกส่วนบนเครือข่ายที่แยกจากกัน (slice-based bandwidth isolation) ซึ่งมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดแบนด์วิดท์ได้
2. ประสบการณ์เทคโนโลยีอัจฉริยะ (intelligent experience) – เครือข่าย IP อัจฉริยะโดดเด่นด้วยความอัจฉริยะในการแยกแยะคัดกรองประเภทของบริการ (service types) วัตถุประสงค์ของบริการ (service intent inference) รวมถึงการปรับเปลี่ยนทรัพยากรเครือข่ายตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์แบบเรียลไทม์ ซึ่งคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้จะทำให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อเครือข่ายได้ตลอดเวลา
3. การขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ (autonomous driving) – เครือข่าย IP อัจฉริยะสามารถติดตั้งอัตโนมัติและปรับเปลี่ยนบริการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ AI แก้ไขข้อผิดพลาดแบบอัตโนมัติได้ ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) เป็นไปในเชิงรุกและเครือข่ายมีสภาพพร้อมใช้งานสูง
โซลูชันเครือข่าย IP อัจฉริยะของหัวเว่ยนี้ป็นนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จในการผสมผสานลักษณะพิเศษที่ล้ำสมัยสามประการเข้าด้วยกัน และยังรองรับการนำไปใช้งานในวงกว้าง ในสถานการณ์ที่หลากหลาย เช่น เครือข่ายในแคมปัส (Campus Network), เครือข่ายศูนย์ข้อมูล (Data Center Network) และ เครือข่ายที่ครอบคลุมพื้นที่บริเวณกว้าง (Wide Area Network – WAN)
โดยโซลูชันที่มีจุดเด่นมากมายเช่นนี้เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการสร้างเครือข่ายแคมปัสคุณภาพสูง โซลูชันนี้ได้นำผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 6 ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสากรรมที่พัฒนาโดยหัวเว่ยมาใช้งาน และโดดเด่นด้วย 16T16R เสาอากาศอัจฉริยะแบบพิเศษที่สามารถมอบความเร็วสำหรับการใช้งานของผู้ใช้รายบุคคล (single-user performance) ได้ถึง 1.6 Gbps มากกว่าค่าเฉลี่ยของภาคอุตสาหกรรมถึง 20%
โซลูชันดังกล่าวยังได้นำระบบ O&M อัจฉริยะ ซึ่งปฏิบัติการโดย AI มาใช้งาน ช่วยลดค่าเวลาเฉลี่ยของการซ่อม (Mean Time to Repair – MTTR) จาก 4 ชั่วโมงให้เหลือเพียง 10 นาที ความต่างที่ว่านี้ช่วยพัฒนาประสบการณ์ใช้งานของผู้ใช้ให้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก สำหรับการใช้งานที่ครอบคลุมหลากหลายสถานการณ์ เช่น แคมปัสขนาดใหญ่ของหัวเว่ยที่รองรับการใช้งานของพนักงานกว่า 194,000 คน และโกดังสินค้าแบบดิจิทัลของ SONGMICS ผู้จำหน่ายของใช้จำเป็นภายในบ้านที่ใหญ่ที่สุดบนเว็บไซต์ Amazon ในประเทศเยอรมนี
โซลูชันนี้ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในโดเมนเครือข่ายศูนย์ข้อมูล โดยได้ใช้อัลกอริทึมระดับนวัตกรรมอย่าง iLossless ของหัวเว่ย ทำให้การเกิดข้อมูลสูญหายบนเครือข่ายอีเทอร์เน็ตมีค่าเป็นศูนย์ จึงเสริมประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูลได้ถึง 27% และเสริมประสิทธิภาพการจัดเก็บคลังข้อมูลถึง 30% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยโดยรวมของอุตสาหกรรม โซลูชันดังกล่าวยังดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ด้วยระบบ AI อัจฉริยะ สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดทั่วๆ ไปได้ภายในเวลาเพียง 9 นาที
โดยใช้เวลาค้นหาข้อผิดพลาดเพียง 1 นาที ระบุตำแหน่งข้อผิดพลาดใน 3 นาที และแก้ไขข้อผิดพลาดด้วยเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ด้วยสมรรถนะอันทรงพลังเช่นนี้ จึงดึงดูดผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISPs) และลูกค้าผู้ให้บริการทางการเงิน มากกว่า 40 รายใช้งานโซลูชันดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารไชน่า ธนาคารเมอร์ช้านท์ส ธนาคารไชน่าซิตี้แบงก์ และบริษัท People’s Insurance Co. (Group) of China Ltd. (PICC) เป็นต้น
นอกจากเครือข่ายแคมปัสและโดเมนเครือข่ายศูนย์ข้อมูลแล้ว โซลูชันนี้ยังเหมาะกับเครือข่ายแบบ WAN เป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเทคโนโลยีการแบ่งแยกเครือข่าย (slicing) ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่ใช้พื้นฐานจากเทคโนโลยี FlexE จึงช่วยรับรองแบนด์วิดท์ได้ 100% มอบการแบ่งแยกสัดส่วนเครือข่ายได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึง 5 เท่า
โซลูชันที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์อันหลากหลายนี้ยังใช้เทคโนโลยี IPv6+ ในการเลือกเส้นทางบนเครือข่ายที่ดีที่สุดโดยอิงจากจุดประสงค์ของบริการนั้นๆ จึงการันตีค่าความหน่วง (latency) มีความเสถียร และการส่งข้อมูลได้อย่างเยี่ยมยอดให้แก่การบริการที่สำคัญต่างๆ ในหลากหลายรูปแบบ เช่น บริการสมาร์ทกริดของ ไชน่า โมบายล์ ธนาคารการเกษตรแห่งประเทศจีน และบริการสำหรับท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งต้าซิงของ China Unicom สาขากรุงปักกิ่ง
ด้วยประสบการณ์ด้านเครือข่าย IP ที่มีมากกว่า 20 ปี หัวเว่ยยังคงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันเครือข่าย IP อัจฉริยะให้มีศักยภาพในการแข่งขันที่สูงยิ่งขึ้น พร้อมมอบบริการที่ราบรื่นและต่อเนื่องให้กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและลูกค้าในแวดวงต่างๆ รวมไปถึงภาคการบริการด้านการเงิน ภาครัฐ ภาคคมนาคม และภาคพลังงาน ในกว่า 100 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ
ทั่วโลก โดยในอนาคต ฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านการสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ยจะร่วมมือกับลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น เพื่อพัฒนาการออกแบบที่มีนวัตกรรมและความร่วมมือในการให้บริการเชิงลึก เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถมุ่งสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันได้สำเร็จ และมีความพร้อมในการเข้าสู่ยุคแห่ง “5G + Cloud + AI” มากขึ้น ทั้งยังเป็นผู้นำในการสร้างเครือข่าย IP อัจฉริยะได้อย่างต่อเนื่อง