SCB ผนึกกำลัง Ripple สานต่อยุทธศาสตร์ SCB Global Payment เปิดตัว “บริการโอนเงินต่างประเทศผ่าน SCB EASY” หลังออกจากแซนด์บอกซ์ สะดวก ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง
ธนาคารไทยพาณิชย์ ดันยุทธศาสตร์ SCB Global Payment ครบเครื่องเรื่องธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศในกลุ่มลูกค้าบุคคล สานต่อซีรีส์ใช้จ่ายต่างประเทศแบบเต็มสูบ ผ่าน Global Payment Platform ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัยเป็นหัวหอกสำคัญ ล่าสุด ผนึกกำลังกับ Ripple พันธมิตรระดับโลก ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการชำระเงินและการโอนเงินชั้นนำระดับโลก ต่อยอดความก้าวหน้าของเทคโนโลยี Ripple Blockchain
เพิ่มศักยภาพและขยายขอบเขตการให้บริการโอนเงินข้ามประเทศให้ครอบคลุมความต้องการใน 12 ประเทศหลักทั่วทุกภูมิภาค ด้วยบริการใหม่ “โอนเงินต่างประเทศผ่าน SCB EASY” สะดวกกว่า โดยไม่ต้องไปสาขา ทำได้ทุกที่ 24 ชั่วโมง รวดเร็วกว่า กับการโอนเงินแบบเรียลไทม์ ถึงปลายทางในไม่กี่วินาที หรือไม่เกิน 3 วัน ขึ้นอยู่กับระบบปลายทาง คุ้มค่ากว่า ไม่มีค่าธรรมเนียมธนาคารต่างประเทศปลายทางรับเงินเต็มจำนวน ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี ซึ่งบริการดังกล่าวได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ให้ออกจากการทดสอบแซนด์บ็อกซ์แล้ว จับ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มทำธุรกิจระหว่างประเทศ กลุ่มผู้ปกครองที่ส่งเงินให้บุตรหลานที่ศึกษาต่อต่างประเทศ และกลุ่ม Family Support มุ่งสร้างประสบการณ์และขยายขอบเขตการเข้าถึงบริการทางการเงินแบบไร้รอยต่อ (Seamless Global Payment Experience) คาดลูกค้าจะหันมาใช้บริการโอนเงินต่างประเทศผ่านบริการใหม่นี้เพิ่มขึ้นถึง 80,000 รายการ หรือคิดเป็นยอดธุรกรรมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2020
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทสตาร์ทอัพระดับโลกหลายบริษัท ในการให้บริการรับเงินโอนเข้าจากต่างประเทศสู่ทุกธนาคารในประเทศไทยกว่า 24 แห่ง โดยธนาคารทำหน้าที่เป็น ศูนย์กลางการกระจายเงินเข้าสู่บัญชีผู้รับผ่านบริการพร้อมเพย์แบบเรียลไทม์ ใช้ Ripple Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นนำที่สถาบันการเงินหลายๆ แห่งทั่วโลกเลือกใช้ ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศสามารถโอนเงินกลับมายังประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว ด้วยค่าบริการที่คุ้มค่า ปลอดภัย และมีความแม่นยำสูง โดยธนาคารหวังว่าบริการการรับโอนเงินข้ามประเทศในครั้งนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์การรับเงินโอนของผู้ใช้บริการให้ดียิ่งขึ้น