รีวิว Apple Magic Keyboard ที่เปิดตัวพร้อมกับ iPad Pro ใหม่ เพื่อใช้งานร่วมกัน ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย เมื่อเอามาประกอบกันแล้วจะให้ประสบการณ์ใช้งานแบบโน้ตบุ๊คมากยิ่งขึ้น
แน่นอนว่าเจ้า Apple Magic Keyboard ตัวนี้ไม่ธรรมดาและไม่เหมือนใคร เพราะเปิดตัวมาพร้อมกับ iPad Pro ใหม่ มาด้วยกัน 2 ขนาดสำหรับ iPad Pro 11 นิ้ว ราคา 9,900 บาท และ iPad Pro 12.9 นิ้ว ราคา 11,690 บาท ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูง แต่รับรองว่าไม่เหมือน Case Keyboard ทั่วไปแน่นอน เพราะเจ้า Magic Keyboard ตัวนี้มันทำให้ iPad Pro ยกตัวขึ้นเหมือนลอยได้ แต่เดี๋ยวก่อนนะแล้วมันจะแข็งแรงหรือไม่ เรามาดูกันเลยว่าการใช้งานจะเป็นอย่างไร
จากรูปตัวอย่างจะเห็นว่า เวลาที่เราจะใช้งานก็ให้กางขึ้นมากเหมือนปกติทั่วไป แต่เจ้า Magic Keyboard เค้าจะกางได้แค่ 80 องศา มันถูกล๊อคไว้เลยไม่สามารถกางได้มากกว่านี้ และจากนั้นก็ดันจากจากด้านบน เราถึงจะใช้งานได้ หายคนสงสัยว่าทำไมเจ้า Magic Keyboard ตัวนี้ถึงแข็งแรง เพราะตรงบานพับนั้น แข็งแรง ทนทาน
แต่การที่เจ้า Magic Keyboard กางได้เท่านี้ จึงทำให้เราถือใช้งานไม่ได้ เพราะมุม องศา ไม่ได้ค่อนข้างจะลำบาก ด้วยเหตุนี้มันจึงเหมาะสำหรับใช้งานได้แค่วางบนโต๊ะเท่านั้น ถ้าเราต้องการจะถือก็ให้ดึงออกมาใช้เป็นแท็บเล็ตได้เลย เหตุผลที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าทาง Apple นั้นคำนึงถึงความแข็งแรง
รวมไปถึงเรื่องของน้ำหนัก Apple Magic Keyboard ตัวนี้ น้ำหนักของมันอยู่ที่ 702 กรัม เมื่อเทียบกับตัว iPad Pro 12.9 นิ้ว ที่มีน้ำหนัก 643 กรัม เรียกได้ว่าตัวคีย์บอร์ดหนักกว่าเครื่อง iPad Pro ซะอีก
และเมื่อเอามาประกอบร่างกัน ในรุ่น iPad Pro 12.9 นิ้วนั้น ปรากฏว่าน้ำหนักของมัน มากกว่า MacBook Air 13 นิ้ว และหนักเกือบๆ เท่ากับ MacBook Pro เลยทีเดียว ดังนั้นใครคิดว่าจะเปลี่ยนมาใช้แบบนี้แล้วจะสะดวกพกพาคล่องตัวกว่าใช้โน้ตบุ๊ค อาจจะต้องคิดกันใหม่ เพราะน้ำหนักนั้นไม่ได้ต่างกันเลย
สาเหตุที่มันต้องหนักกว่า ก็เพราะว่าจะได้มีความมั่นคงแข็งแรง เป็นฐานรองรับ iPad Pro ให้ลอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยถ่วงดุลย์เอาไว้ด้วย เพราะถ้าส่วนฐานเบากว่าส่วนเครื่องที่ลอยอยู่ด้านบน มันตั้งไว้ไม่อยู่แน่นอน หรือเวลาที่ใช้งาน Touch Screen หน้าจอด้วย ถ้า Keyboard เบา เวลาที่เราแตะ Touch Screen มันอาจจะล้มไปก็ได้ ถือว่าการออกแบบ Magic Keyboard ตัวนี้ เน้นเรื่องการใช้งานที่เน้นความแข็งแรงมั่นคงเป็นหลัก
อีกจุดที่ Apple Magic Keyboard มีเพิ่มเติมเข้ามาคือ Port USB-C บริเวณที่ข้อพับ เราสามารถใช้เสียบเพื่อชาร์จไฟให้กับ iPad Pro ได้ด้วย โดยไฟจะวิ่งเข้าไปชาร์จเครื่องผ่าน Smart Connector ที่ประกบติดกับเคส แต่ว่าพอร์ตช่องนี้จะใช้ได้เฉพาะชาร์จไฟนะ ไม่สามารถเอามาเสียบตัวอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ ถ้าจะต่อการ์ดรีดเดอร์หรือใช้งานอุปกรณ์ จะต้องต่อจากพอร์ตที่ตัว iPad Pro เหมือนเดิม
มาดูตัว Keyboard กันบ้าง จะเห็นว่า Case Keyboard ทั่วๆ ไป ปุ่มจะเล็ก และปุ่มค่อนข้างตื้นทำให้พิมพ์ไม่ค่อยสะดวกไม่ถนัดมือ แต่ แป้นพิมพ์ของ Apple Magic Keyboard นี้คือเป็นระบบกลไกลแบบเดียวกับใน MacBook Air และ MacBook Pro ทุกประการ เวลากดก็จะมีเสียงเหมือนกันให้ความรู้สึกเดียวกัน ใครที่ใช้ iPad Pro แล้วต้องทำงานเกี่ยวกับงานพิมพ์สามารถใช้งานได้อย่างสบาย โดยมีไฟ Backlit สำหรับใช้เวลากลางคืนได้ด้วย
เรื่องของขนาด ถ้าเป็นรุ่น 12.9 นิ้ว รู้สึกได้เหมือนกับการใช้งานบน MacBook Air ทั้งตำแหน่งปุ่มต่างๆ ทำให้เวลาพิมพ์ได้ความรู้สึกดีมากๆ แต่ในรุ่น 11 นิ้ว ก็จะรู้สึกแคบลงมานิดหน่อย แต่ก็ยังใช้งานได้ดี แต่สิ่งที่รู้สึกแอบขัดใจเล็กน้อยก็คือ ไม่มีปุ่ม ESC ทำให้ฟิลการใช้งานต่างๆ ไปนิดหน่อย
และสิ่งที่ทำให้การใช้งานรู้สึกเหมือนกับโน้ตบุ๊คมากยิ่งขึ้น ก็คือมีมี Trackpad ให้ด้วย เป็น Trackpad ขนาดเล็กแต่ก็เพียงพอกับการใช้งาน อยากจะใช้งาน Gestures ก็สามารถทำได้ ทั้ง 2 นิ้ว 3 นิ้วได้ตามสะดวก 4 นิ้วก็เป็นการเปิด Task ขึ้นมา ซึ่งรองรับการใช้งานกับ iPadOS 13 ได้เต็มรูปแบบ
เรื่องของ ราคา จะมีแยกกันทั้งในรุ่นสำหรับ iPad Pro 11 นิ้ว และ iPad Pro 12.9 นิ้ว ซึ่งต้องบอกว่า Magic Keyboard รุ่นนี้ใช้กับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้านี้ ได้ด้วย ดังนั้นใครที่มีรุ่นปี 2019 หรือรุ่นที่เป็นโฉมใหม่ใช้พอร์ต USB-C ก็ซื้อไปใช้งานได้เลย ไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ แต่อย่าลืมอัพเกรดเป็น iPadOS 13 ก่อนด้วยนะ โดยสามารถหาซื้อได้ที่ https://www.apple.com/th/ และตัวแทนจำหน่ายเป็นทางการของแอปเปิล
- Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ราคา 9,990 บาท (ราคาสำหรับนักศึกษา 9,300 บาท)
- Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว ราคา 11,690 บาท (ราคาสำหรับนักศึกษา 11,000 บาท)
สำหรับ รีวิว ทั้งหมดนี้คงทราบกันแล้วทำไม Apple Magic Keyboard ถึงมีราคาสูงกว่า Case Keyboard ทั่วๆ ไป แต่ถ้าจะให้ ซื้อ iPad Pro 2020 มาใช้แทน Notebook เลยดีมั้ย อันนี้คงจะตอบยาก เพราะรูปแบบการใช้งานของแต่ละคนนั้น การใช้งานบางอย่างที่ทำใน Notebook ได้ แต่ทำใน iPad Pro ไม่ได้ บางอย่างใช้แทนกันไม่ได้ ดูความต้องการของตัวเราเองว่าเราต้องการใช้งานอะไรกันแน่
ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เราก็ได้ทดสอบลองใช้ iPad Pro กับ Magic Keyboard มาสักพักแล้ว ก็พอจะสรุปความรู้สึกประสบการณ์ส่วนตัวให้คร่าวๆ ประมาณนี้นะครับ โดยรุ่นที่เราใช้จะเป็นขนาด 12.9 นิ้ว
- การใช้งานออนไลน์ เว็บบราวเซอร์ ให้ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับการใช้งานบนโน้ตบุ๊คมาก ทั้งเรื่องคอมมานด์ Shortcut ที่กดได้รวดเร็ว มี TouchPad ทำให้ใช้งานได้รวดเร็ว
- งานด้านเอกสาร ใช้งานกับ Microsoft Office 365 ได้อย่างไม่มีปัญหา รวมถึง Pages, Numbers และ Keynote ก็ทำงานซิงค์ไฟล์กับ iCloud ได้ทันที
- TouchPad ที่เพิ่มขึ้นมา ทำให้ได้ประสบการณ์ทำงานกับ iPad ได้เหมือนใช้คอมมากยิ่งขึ้น ทั้งการเลื่อนเคอร์เซอร์ กด Drag, หรือ Gesture ที่เป็นแบบเดียวกับใน macOS ทำให้คุ้นชินมาก
- งานด้านกราฟฟิก อันนี้ส่วนตัวเป็นสาย Adobe ที่ยอมรับว่า แอพเวอร์ชั่น iPad ยังไม่ครบเครื่องเท่ากับใน Mac ยังรู้สึกว่ายังทดแทนกันไม่ได้ คือทำเบื้องต้นนิดๆ หน่อยๆ พอได้ แต่การปรับแต่งระดับสูงนี่ ยังไงบน Mac ทำได้ถนัดกว่า
- เรื่องของ Fonts แนะนำต้องลงแอพ Anyfont ก็จะสามารถติดตั้งเพิ่มได้
- สิ่งที่ได้ความรู้สึกดีกว่าใช้โน๊ตบุ้คก็คือ ความเร็ว ที่กางออกมาก็ใช้ได้ทันที แบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานกว่า เสียบสาย USB ชาร์จกับอะไรก็ได้
ความเห็นส่วนตัว ว่า จะใช้ iPad Pro แทนโน้ตบุ๊คเลยได้หรือไม่ สำหรับทีมงานฯ เรายังรู้สึกว่า ถ้าการทำงานระดับมืออาชีพเลยยังไม่สามารถครอบคลุมหรือทดแทนได้ทั้งหมด แต่ถ้าหากใช้งานทั่วไปเพื่อความคล่องตัวรวดเร็ว งานเว็บ, เอกสารทั่วไป ถือว่าเป็นเครื่องสำหรับเสริมพกพา และใช้ได้ในหลายๆ โอกาส ควบคู่ไปกับคอมพิวเตอร์เครื่องหลักได้อยู่