Poimo สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ไอเดียเก๋ เป่าลม พกพาง่าย ใส่เป้สะพายหลังได้สบายๆ

หน่วยงานวิจัย Mercari R4D และทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยโตเกียว จับมือร่วมกันพัฒนาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป่าลมที่พับเก็บได้ในเป้สะพายหลังที่มีชื่อว่า Poimo

ชื่อ Poimo เป็นการเอาคำว่า Portable (พกพาสะดวก) กับ inflatable mobility (ทำให้พอง+เคลื่อนที่ได้อย่างคล่องตัว) ซึ่งตัวรถทำจากเทอร์โมพลาสติก โพลียูรีเทน (thermoplastic polyurethane หรือที่ทุกคนรู้จักกันในชื่อ TPU) และส่วนประกอบต่างๆ ที่ถอดออกได้ เช่น แฮนด์ ล้อ แบตเตอรี่ และมอเตอร์

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป่าลมPoimo ได้รับแรงบันดาลใจจากตัวละครหุ่นยนต์ Baymax จากภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง Big Hero 6 โดยสามารถใช้ปั๊มลมขนาดเล็กสูบลมเข้าไปที่ตัวรถได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีก็เต็ม ออกแบบมาเพื่อให้เดินทางสั้นๆ ภายในเมือง และเมื่อเอาลมออกมันก็มีน้ำหนักที่เบามากที่สามารถนำใส่กระเป๋า พกพาสะดวกและเป่าลมใช้งานได้ทุกที่ที่ต้องการ

Poimo inflatable electric-scooter

Ryosuke Yamamura นักวิจัยจาก Mercari R4D เป็นผู้พัฒนาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าพกพา โดยร่วมมือกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยโตเกียว และ Hisato Ogata ดีไซเนอร์จาก Takram โดย Poimoเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์แบบนุ่มนิ่ม และมีความคล่องตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิจัยเรียกมันว่า soft mobility ที่ได้รับการออกมาให้มีความนุ่ม เบา และพองได้จากการสูบลมเข้าไป มีความแตกต่างจากจักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และสเก็ตบอร์ดไฟฟ้าในแง่ของการสะดวกในการพกพา (ที่กล่าวมานั้นเป็นของแข็ง มีน้ำหนักที่หนัก และมีขนาดที่ใหญ่) ความปลอดภัย และราคา

Poimo inflatable electric-scooter

การเดินทางด้วยรถยนต์ในญี่ปุ่นนั้น 60% เป็นการเดินทางในระยะสั้นๆ การพัฒนาPoimo ขึ้นมา ถือว่าตอบโจทย์การเดินทางในระยะสั้นมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์ (กรณีเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียว)

ส่วนประกอบของ Poimo มีดังนี้

  • ล้อหน้า 2 ล้อ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว
  • ล้อหลัง 2 ล้อ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 นิ้ว
  • มอเตอร์
  • ตัวควบคุมไร้สาย
  • แบตเตอรี่ 70 x 110 มิลลิเมตร

ส่วนประกอบทั้งหมดที่กล่าวมานี้ มีน้ำหนักรวมประมาณ 5.5 กิโลกรัม

การออกแบบโดยให้ตัวรถเป็น TPU ที่มีความอ่อนนุ่ม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดอุบัติเหตุไปชนเข้ากับคนที่เดินถนนได้

อย่างไรก็ตาม สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Poimoยังคงเป็นแค่ตัวต้นแบบเท่านั้น  ทีมนักวิจัยของ Mercari R4D บอกว่าตัวสินค้า final product นั้นจะมีน้ำหนักเบากว่านี้ และพกพาง่ายกว่านี้

ที่มา : dezeen

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)