ก้าวสู่เจเนอเรชั่นใหม่ พบกับ พรีวิว OPPO Reno4 สมาร์ทโฟนซีรีย์นี้ ยังคงมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ครั้งนี้เด่นด้วยกล้องที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ถ่ายภาพได้สารพัดหลากหลาย พร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบสวยลงตัว แถมมีน้ำหนักเบาและเครื่องที่บางลง เป็นความลงตัวที่น่าสนใจมากๆ
OPPO Reno4 ได้มาถึงมือของทีมงานล้ำหน้าฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พรีวิว นี้เราจะมา Unbox แกะกล่อง ดูดีไซน์ตัวเครื่อง สรุปสเปคเบื้องต้น และแนะนำถึงฟีเจอร์ที่น่าสนใจของรุ่นนี้ โดยที่รุ่นนี้ออปโป้มีสโลแกนว่า “Clearly the Best You” หรือ “ถ่ายรูปสวยชัดในสไตล์ที่เป็นคุณ” ชัดเจนว่าเรื่องของกล้องรุ่นนี้จัดเต็มมาให้แน่นอน
จากที่เราได้ทดสอบลองสัมผัสก็รู้สึกได้ว่า ออปโป้ตั้งใจพัฒนา OPPO Reno4 โดยจัดแจงในส่วนฟีเจอร์ของกล้องให้ดีกว่ารุ่นก่อนในทุกด้าน ทั้งการถ่ายภาพทั่วไป, ถ่ายภาพบุคคล, ถ่ายภาพกลางคืน, การถ่ายวิดีโอ ฯลฯ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ ที่ต้องการกล้องที่พร้อมถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อไปสร้างเป็นคอนเทนต์ ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโซเชียลได้สร้างสรรค์และไม่เหมือนใคร
ก่อนจะไปดูถึงรายละเอียด เรามาเริ่ม พรีวิว OPPO Reno4 ด้วยการแกะกล่องดูกันก่อนเลยว่ามีอะไรให้มาบ้าง?
Unbox : แกะกล่อง พรีวิว OPPO Reno4
ตัวแพ็กเกจกล่องของ OPPO Reno4 จะแปลกจากรุ่นก่อนๆ เล็กน้อย ด้วยลักษณะที่ตัวด้านนอกสุดจะเป็นปลอกแจ็คเกตสวมเอาไว้ โดยหน้ากล่องจะเป็นชื่อรุ่น OPPO Reno4 ระบุสเปคความจุมาให้เรียบร้อยคือ RAM 8GB + ROM 128GB
แกะดูในกล่อง ตัวเครื่องห่อซีลพลาสติกที่มีเขียนบอกสเปคเด่นของรุ่นนี้มาด้วย สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ในกล่อง ก็จะมีเคสใสแบบ TPU ใส สำหรับสวมเครื่องเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทก, เข็มจิ้มถาดซิม, คู่มือการใช้งานเบื้องต้นและเอกสารการรับประกัน
ในกล่องนั้นมีหูฟังสมอลทอล์กแบบแจ็คเสียบ 3.5 มิลลิเมตร, สาย USB หัวพอร์ต USB-A to USB-C และอแดปเตอร์ชาร์จรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0
Design การออกแบบ
ตัวเครื่องของ OPPO Reno4 ที่เราหยิบขึ้นมาครั้งแรก ก็รู้สึกได้ทันทีเลยว่า มันมีความเบาและบางกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป ด้วยขนาดของตัวเครื่องหน้าจอ 6.4 นิ้ว แต่ว่าความหนาของเครื่องนั้นอยู่เพียงแค่ 7.7 มิลลิเมตร และน้ำหนักที่ 165 กรัมเท่านั้น ถ้าเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มีออกมาก่อนหน้านี้ ส่วนใหญ่ถ้าหน้าจอขนาดนี้ เครื่องจะหนา 8-9 มิลลิเมตร และน้ำหนักนั้นจะอยู่ 180-200 กรัม
นึ่คือความประทับใจแรกตั้งแต่สัมผัสแรกเลย เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้เจอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่บางและเบาขนาดนี้มานานมากแล้ว ทำให้ความคล่องตัวในการใช้งานดีขึ้นมาก ถือนานๆ ก็ไม่รู้สึกเมื่อยมือ
มาดูที่ดีไซน์ด้านหลังเครื่อง OPPO Reno4 จะมี 2 สีด้วยกัน สำหรับเครื่องที่ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้มา พรีวิว จะเป็นสีดำ Space Black สีดำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความลึกลับของอวกาศที่มืดมิด เป็นสีดำที่มีบางอย่างซ่อนอยู่ โดยที่ช่วงล่างของเครื่องเวลาที่โดนแสงสว่าง จะแสดงลวดลายที่เป็นลักษณะของตัว O และ P จากชื่อแบรนด์ OPPO สัญลักษณ์นี้มีชื่อเรียกว่า “OPPO Monogram” เป็นลูกเล่นที่แปลกและสวยงามไม่เหมือนใคร
และจะมีอีกสีคือ Galactic Blue สีนี้ใช้เทคนิคพิเศษใหม่ล่าสุด เรียกว่า Reno Glow ด้วยการเคลือบสีแบบด้าน พร้อมประกายบนฝาหลัง สื่อสะท้อนให้ความรู้สึกสดใสและโดดเด่นมากขึ้น เป็นเทคนิคใหม่ที่ถูกนำมาใช้ใน OPPO Reno4
กล้องหลัง จัดเรียงอยู่ในโมดูลทางซ้ายบนของเครื่อง เรียงเป็น 3+1 เลนส์ พร้อมไฟแฟลช LED โดยจะประกอบด้วย
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล Sony IMX586 เซนเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสง F/1.7
- กล้องมุมกว้าง Ultra Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/4 นิ้ว รูรับแสง F/2.2
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/5 นิ้ว รูรับแสง F/2.4
หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ให้สีสันสวยคมชัด ขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 ที่มีขนาดใหญ่เต็มพื้นที่จอด้านหน้าด้วยสัดส่วนถึง 90.7% โดยจะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนหน้าจอ Hidden Fingerprint Unlock 3.0 อยู่ที่ส่วนล่างของจอ ใช้สแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล้อคเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
ที่มุมด้านซ้ายบน มีเว้นช่องแบบ Dual Punch-Hole จะเห็นเป็นช่องเหมือนกับ 2 กล้อง แต่จริงๆ แล้วจะมีแค่ 1 กล้องเป็นกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/2.7 นิ้ว รูรับแสง F/2.4 ส่วนที่อยู่คู่กันนั้นจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ถูกนำมาใช้ใน Reno4 เป็นครั้งแรก เรียกว่า AI-enhanced Smart Sensor ที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้น เช่น
- Smart Spying Prevention ช่วยตรวจสอบและแจ้งเตือน หากมีผู้อื่นแอบมองหน้าจอสมาร์ทโฟนของเราขณะที่กำลังใช้งาน โดยจะมีข้อความแจ้งเตือนมาบอกให้เราทราบ
- Smart AirControl ใช้ท่าทางในการควบคุมสมาร์ทโฟนโดยที่ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ
- Smart Rotation ตรวจจับใบหน้าของผู้ใช้ แล้วล็อคการหมุนหน้าจอให้ตรงกับแนวของใบหน้า ไม่ให้จอหมุนเปลี่ยนเองเวลาที่นอนดูหน้าจอ
- Smart Always-on ป้องกันไม่ให้หน้าจอดับลงระหว่างที่เรายังใช้งานหน้าจอ
ด้านข้างของเครื่องจะเรียงปุ่มตามสไตล์สมาร์ทโฟนของ OPPO โดยทางขวาจะมีปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่อง+หน้าจอ และเรียกใช้คำสั่งลัด โดยที่ปุ่มจะมีแถบสีเขียวคาดอยู่ด้วย ส่วนทางซ้ายจะเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง พร้อมช่องของถาดซิม เป็นถาดแบบ Triple Tray ใส่ได้ 2 ซิมแบบ NanoSIM
ด้านล่างตัวเครื่อง ดีใจด้วยรุ่นนี้ยังมีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรมาให้ โดยจะมีช่องไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตชาร์จ+เชื่อมต่อแบบ USB-C และช่องลำโพงเสียง
โดยรวมเรื่องของดีไซน์แล้ว ส่วนตัวค่อนข้างชอบกับการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างใน OPPO Reno4 อาจจะไม่ได้แปลกแหวกแนว แต่ทุกอย่างก็ออกมาลงตัว ด้านหน้าจอแบบเรียบที่เว้นช่อง Dual Punch-Hole ไว้ 2 ช่องที่ดูแล้วไม่ได้ใหญ่จนเกะกะสายตา ขนาดเครื่องที่ใหญ่พอดีมือ ด้านหลังการทำสีลูกเล่นที่สวยงามสมชื่อ OPPO และแน่นอน ความบางและเบาของมัน คือสิ่งที่ต้องยกนิ้วให้เลย
ข้อมูล สเปค OPPO Reno4
- ขนาดตัวเครื่อง 160.3 x 73.9 มิลลิเมตร หนา 7.7 มิลลิเมตร
- หนัก 165 กรัม
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว แบบ Dual Punch-Hole Display ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9
- ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 720G
- RAM 8GB
- หน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
- ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ Hidden Fingerprint Unlock 3.0
- แบตเตอรี่ 4015 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 30W VOOC 4.0
- กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/2.7 นิ้ว รูรับแสง F/2.4
- กล้องหลังแบบ 4 เลนส์
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล Sony IMX586 เซนเซอร์ 1/2 นิ้ว รูรับแสง F/1.7
- กล้องมุมกว้าง Ultra Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/4 นิ้ว รูรับแสง F/2.2
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/5 นิ้ว รูรับแสง F/2.4
- กล้องโมโน 2 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ 1/5 นิ้ว รูรับแสง F/2.4
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10
- มีให้เลือก 2 สี Space Black / Galactic Blue
ฟีเจอร์กล้องที่น่าสนใจใน OPPO Reno4
พรีวิว เราอาจจะยังไม่ได้ลงลึกถึงการทำงานและประสิทธิภาพด้านต่างๆ ของเครื่อง แต่ก็มีหลายฟีเจอร์ที่อยากจะเอามาเล่าแนะนำกัน ซึ่งเดี๋ยวรายละเอียด รอชมจากรีวิวของพี่หลามกันได้ครับ และนี่คือของดีของเด็ดในเรื่องของกล้องที่มีมาใน OPPO Reno4 ที่เราได้ลองเล่นมาบ้างแล้ว
- AI Color Portrait ลูกเล่นการถ่ายภาพที่จะไฮไลท์ตัวบุคคลให้แตกต่างจากฉากหลัง โดยตัวคนและฉากหน้าจะสีสันสวยงามสดใส แต่ฉากหลังจะปรับเป็นสีขาวดำแบบโมโนโทน ทำให้ได้ภาพที่สวยงามแปลกตา ฟีเจอร์นี้ถ่ายภาพและถ่ายวิดีโอได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- monochrome Video ลูกเล่นเรื่องสีในการถ่ายวิดีโอ ที่ปรับเลือกแสดงเฉพาะบางสีของวัตถุในภาพ คือสีแดง สีน้ำเงิน หรือสีเขียว ทำให้เวลาถ่ายแล้วต้องการเน้นสีบางอย่างในภาพให้โดดเด่นได้ เช่นสีท้องฟ้า, น้ำทะเล, ต้นไม้ หรือเสื้อผ้าที่ใส่
- Night Flare Portrait การถ่ายภาพบุคคลเวลากลางคืน ที่นอกจากจะละลายพื้นหลังให้เบลอแล้ว ยังมีการปรับ Low Light HDR ให้สีสันสวยคมชัด พร้อมทั้งยังช่วงปั่นโบเก้ไฟด้านหลังให้ขึ้นเป็นดวงๆ เหมือนกับใช้เลนส์ของกล้อง DSLR ถ่ายได้เลย
- Ultra Night Selfie Mode ของดีเลื่องชื่อของ OPPO ที่ทำดีขึ้นทุกรุ่น ด้วยกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล โหมดนี้ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ในแสงไฟนีออน หรือสภาพแสงที่หลากหลาย ให้ได้ความสว่างและคมชัดดียิ่งขึ้น
- Ultra Dark Mode ถ่ายภาพด้วยกล้องหลังในสภาพแสงน้อยมากๆ หรือที่มืด ให้ภาพสว่างและมีความคมชัดได้
- 960fps AI Slow-motion ถ่ายวิดีโอภาพเคลื่อนไหวช้า เพื่อเก็บภาพการเคลื่อนไหวที่ไวกว่าตาเห็นได้ เพื่อได้วิดีโอสุดเจ๋งในจังหวะที่เหลือเชื่อ โดยกล้องหลังนอกจากจะถ่ายได้สูงสุด 960fps แล้ว ยังถ่าย 480fps@1080P, 240fps@720P และ 120fps@1080P ส่วนกล้องหน้าก็ถ่ายวิดีโอสโลโมชั่นได้ด้วย ที่ 240fps@720P และ 120fps@1080P
- Ultra Steady Video 3.0 ระบบกันสั่นวิดีโอขั้นเทพกว่าเดิม โดยกล้องหน้าจะมีกันสั่นมาให้ โดยทำงานร่วมกับการเปิดฟิลเตอร์, เปิด VDO Bokeh และ AI Beauty ก็ได้ด้วย ส่วนระบบกันสั่น Ultra Steady Video ก็ให้เลือกแบบ Pro ที่เก็บด้วยเลนส์มุมกว้างที่ให้ได้ภาพที่มีมุมมองกว้างมากขึ้นและลดการสั่นไหวได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
OPPO Reno4 เตรียมตัวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ โดยที่ได้ประกาศราคาออกมาเรียบร้อยแล้ว ราคา 11,990 บาท เรียกได้ว่าเขย่าตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มหมื่นต้นๆ ได้เลย
พร้อมทั้งยังเปิดให้สั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม ถึง 5 สิงหาคมนี้ และพิเศษขึ้นไปอีก เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ทั้ง AIS Truemove H และ Dtac สามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno4 ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,990 บาท พร้อมรับของสมนาคุณเป็น OPPO E-VIP card ประกันหน้าจอแตกนาน 1 ปี และ OPPO Reno Backpack สุดเท่ มูลค่ารวม 7,490 บาท ของมีจำนวนจำกัดเฉพาะผู้ที่จองเท่านั้น