เอบีม คอนซัลติ้ง” เปิดตัว White Paper เพื่อเร่งให้ภาคธุรกิจตระหนักถึงความจำเป็นของ ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันในประเทศไทย หลัง โควิด-19
องค์กรธุรกิจต้องเข้าสู่ยุคดิจิทัลและตระหนักถึงความเร่งด่วนในการปรับตัว เพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจ บริษัทต่าง ๆ จำเป็นต้องเข้าใจถึงผลกระทบของความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดย Startup Thailand ประเมินว่ากว่าร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะมาจากระบบดิจิทัลภายในปี 2565 อย่างไรก็ตาม ดัชนีความพร้อมด้านดิจิทัลที่จัดทำโดยเอบีม (ABeam’s Digital Transformation (DX) Maturity Model) ชี้ชัดว่าบริษัทไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีความพร้อมมากนัก แม้ทุ่มเงินลงทุนในระบบดิจิทัลเพิ่มกันแล้วก็ตาม
โดยรวมแล้ว บริษัทต่าง ๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาความเป็นผู้นำในแง่ระบบดิจิทัล ความตระหนักรู้และวัฒนธรรมดิจิทัล ตลอดจนยุทธศาสตร์ดิจิทัลเท่านั้น ในขณะที่มีความก้าวหน้าด้านกระบวนการดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันและการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ กับดักคือการจัดทำโครงการก้าวสู่โลกดิจิทัลแบบขาดการเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ด้านห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ เงินลงทุนด้านดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันถึงร้อยละ 70 จึงสูญเปล่าไปกับโครงการที่ล้มเหลวตามที่สำนักข่าว CNBC ได้รายงานไว้ เนื่องจากไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบเชิงลบเป็นวงกว้าง
องค์กรธุรกิจจึงจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญด้านการลงทุน โดยเอบีมแนะนำให้องค์กรเลือกกำหนดยุทธศาสตร์ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันให้ชัดเจน ก่อนจัดสรรงานด้านดิจิทัลให้ครอบคลุมทั้งองค์กรตาม 5 หลักการสำคัญเพื่อความสำเร็จ คือ มุ่งเน้นเป้าหมายระยะยาว ความคล่องตัวและลองทำเพื่อหาโซลูชันที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้ามากกว่าเทคโนโลยี การให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วม และการเตรียมความพร้อม
ทั้งนี้ Startup Thailand คาดการณ์ว่ากว่าร้อยละ 60 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ระบบดิจิทัลภายในปี 2565 โดยการเติบโตของทุกภาคอุตสาหกรรมจะถูกขับเคลื่อนด้วยการดำเนินงานและความสัมพันธ์ที่มีการพัฒนายกระดับทั้งสิ้น นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าไวรัสโควิด-19 จะบีบให้บริษัทต้องพิจารณาเรื่องงบค่าใช้จ่ายใหม่ แต่ทุกบริษัทต่างเล็งเห็นว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ดีมีความสำคัญมากเพียงใดในการดำเนินธุรกิจและขายสินค้า/บริการในปัจจุบัน โดยเอบีมได้แนะนำ 3 หลักการในการปรับตัวสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันอย่างประสบความสำเร็จ ด้วยแนวทางเชิงกลยุทธ์จากบริษัทต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้และนำไปใช้ได้ผลดีมาแล้ว ดังนี้
- วิสัยทัศน์: กำหนดวัตถุประสงค์ของการปรับองค์กรสู่ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันให้ชัดเจนเพราะเป็นเรื่องสำคัญ วัตถุประสงค์ควรเป็นการสร้างคุณค่าให้ผู้ใช้ และมุ่งเน้นไปที่วัตถุประสงค์ รวมทั้งดำเนินการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวตามกรอบเวลาที่เป็นไปได้จริง
- วางแผน: การออกแบบการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจ ให้เหมาะสมกับประสบการณ์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (Customer Journey)
- ลงมือทำ: มีแนวคิดการทำงานที่คล่องแคล่วรวดเร็ว (An Agile Mindset) เพื่อการเก็บข้อมูลและทดลองอย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นรวมถึงสถาปัตยกรรมที่มีการขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดนิ่ง