ไมโครซอฟท์ และ RISE ผุดในโครงการ “Hack the Future: Business Rebound Edition” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ไทยให้ฟื้นฟูธุรกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน
ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย และ RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชวนสตาร์ทอัพไทยมาร่วมสรรสร้างนวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ไทยให้ฟื้นฟูธุรกิจ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกันบนแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure ในโครงการ “Hack the Future: Business Rebound Edition” โดยสตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการมีโอกาสนำผลงานโซลูชั่นที่ชนะเลิศ ทำการตลาดร่วมกับไมโครซอฟท์ ทั้งในประเทศไทยและตลาดอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคอาเซียน และยังอาจได้รับ Azure Credit เพื่อการใช้งานคลาวด์เป็นมูลค่าสูงสุดถึง 120,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 3,800,000 บาท) สำหรับสนับสนุนการพัฒนาโซลูชั่นต่อไป
Hack the Future: Business Rebound Edition สนามประลองความสามารถของสตาร์ทอัพไทย
โครงการ ‘Hack the Future: Business Rebound Edition’ จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชิญชวนสตาร์ทอัพไทยมาระดมความคิด ไอเดีย และความร่วมมือกันในการหาโซลูชั่นเพื่อแก้ปัญหาให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่กำลังเผชิญวิกฤติจากการระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้ 3 โจทย์หลัก ได้แก่
- การจัดสรรทรัพยากรและการจัดการการดำเนินงาน (Resource & Operation Management)
- วิถีการทำงานยุคใหม่โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย (Digitalization/New Way of Work)
- การออกแบบสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า (New Experience for Customer)
โดยทั้ง 3 โจทย์ในโครงการนี้ จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ๆ 3 กลุ่ม ได้แก่
- ภาคการผลิต และกลุ่มธุรกิจที่ใช้งานโซลูชั่น IoT (Internet of Things) ต่าง ๆ
- อุตสาหกรรมค้าปลีก บริการ ร้านอาหาร
- บริการทางการแพทย์ การท่องเที่ยว
สตาร์ทอัพที่สนใจร่วมโครงการสามารถกรอกใบสมัครออนไลน์ในนามสตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในปัจจุบันได้ที่ https://bit.ly/2BTlZFx ภายในวันอังคารที่ 23 มิถุนายน โดยทีมที่เข้าร่วมจะต้องมีสมาชิกในทีม 3-5 คน โดยที่อย่างน้อย 1 คนต้องมีบทบาทและทักษะในฐานะนักพัฒนาซอฟต์แวร์ ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการจะได้รับการติดต่อยืนยันในวันพุธที่ 24 มิถุนายน
สำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้เข้าร่วมโครงการ มีดังต่อไปนี้:
- พฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน – กิจกรรม Mentoring กับผู้เชี่ยวชาญจากไมโครซอฟท์และ RISE
- เสาร์ที่ 27 มิถุนายน – การพิทช์รอบรองชนะเลิศ เพื่อคัดเลือก 3 ทีมที่มีแนวคิดโดดเด่นที่สุดจากแต่ละโจทย์ รวมทั้งสิ้นเป็น 9 ทีม ให้เข้าสู่รอบต่อไป และได้รับ Azure Credit มูลค่า 1,000 เหรียญสหรัฐ ต่อทีม โดยทั้ง 9 ทีมมีโอกาสที่จะได้รับเลือกให้คว้า Azure Credit มูลค่าสูงสุด 120,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับการพัฒนาโซลูชั่นที่นำเสนอในรอบชิงชนะเลิศ
- กรกฎาคม-ตุลาคม – ช่วงพัฒนาโซลูชั่นต้นแบบ และการพิทช์รอบชิงชนะเลิศ เพื่อค้นหาสุดยอดสตาร์ทอัพจากแต่ละโจทย์ รวมทั้งสิ้น 3 ทีม ที่จะได้นำผลงานโซลูชั่นไปทำตลาดร่วมกับไมโครซอฟท์ต่อไป
ผู้สนใจสามารถค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/Apply_HacktheFuture