องค์การอนามัยโลก (World Health Organization หรือ WHO) เปลี่ยนไทม์ไลน์ของโคโรน่าไวรัสโดยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า WHO ได้ยินเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าครั้งแรกจากข่าวออนไลน์ ไม่ใช่รายงานจากทางการจีน
ในการแก้ไขข้อมูลที่ถูกตีพิมพ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนนั้นอ งค์การอนามัยโลกได้กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2019 สำนักงานขององค์การอนามัยโลกประจำประเทศจีนได้รับคำแถลงสื่อจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งเมืองอู่ฮั่นจากเว็บไซต์ของพวกเขาในกรณีของโรงปอดบวมในเมืองอู่ฮั่น ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และในวันเดียวกันนั้น open-source intelligence platform ขององค์การอนามัยโลกนั้นเลือกรายงานข่าวที่เป็นภาษาจีนจากสื่อ Finance Sina ซึ่งเป็นเคสเดียวกับกรณีโรคปอดบวมที่ไม่ทราบสาเหตุที่เมืองอู่ฮั่น จากนั้นองค์การอนามัยโลกได้ขอข้อมูลเพิ่มเติ่มเกี่ยวกับรายงานดังกล่างจากจีนในวันต่อมา (วันที่ 1 มกราคม 2020) แต่ได้รับการตอบหลังใน 2 วันหลังจากนั้น คือ วันที่ 3 มกราคม 2020
ในลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้าซึ่งถูกตีพิมพ์ไปเมื่อเดือนเมษายนนั้น สำนักข่าว AFP ระบุว่าองค์การอนามัยโลกพบข้อมูลเกี่ยวกับเคสที่เกิดขึ้นจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งเมืองอู่ฮั่น โดยไม่มีการระบุสถานที่หรือวิธีการแจ้งเตือน
ดังนั้นการแก้ไขลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของเรื่องการระบาดของ COVID-19 นั้นแสดงให้เห็นว่า สำนักงานขององค์การอนามัยโลกประจำประเทศจีน (WHO’s China office) เป็นหน่วยงานที่แจ้งเตือนการระบาดเป็นหน่วยงานแรก ไม่ใช่ทางการจีน (Chinese authorities) ที่แจ้งเตือน
Preliminary investigations conducted by the Chinese authorities have found no clear evidence of human-to-human transmission of the novel #coronavirus (2019-nCoV) identified in #Wuhan, #China??. pic.twitter.com/Fnl5P877VG
— World Health Organization (WHO) (@WHO) January 14, 2020
จากข้อมูลของสำนักข่าว AFP นั้น Michael Ryan ผู้อำนวยการบริหารโครงการเหตุฉุกเฉินกล่าวกับผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างๆ ในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่านานาประเทศมีเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงในการตรวจสอบเหตุการณ์และแจ้งให้ทางองค์การอนามัยโลกทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ และทางการจีนควรติดต่อกลับทางองค์การอนามัยโลกให้ไว้ที่สุดเพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องรายงานดังกล่าว
ซึ่งเรื่องการระบาดของ COVID-19 นั้นทางการจีนเองก็ถูกกล่าวหาว่าปกปิดข้อมูลเรื่องไวรัสโคโรน่าในช่วงแรกด้วยการปกปิดข่าวและข้อมูลสำคัญแก่ประชาชาวจีน รวมถึงกับองค์การอนามัยโลกด้วย
เมื่อเดือนที่ผ่านมา สำนักข่าว AP รายงานว่าทางการจีนชะลอการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการแพร่ระบาดต่อสาธารณชนและองค์การอนามัยโลกเป็นเวลาหลายวัน และต้องรอคอยนานกว่าหนึ่งสัปดาห์เพื่อปล่อยข้อมูลจีโนมของไวรัส ซึ่งการที่ชะลอและล่าช้าของข้อมูลสำคัญๆ เป็นสาเหตุให้ทุกอย่างล่าช้าต่อกัน เช่น การพัฒนาวัคซีน การพัฒนายารักษา และทดสอบการวินิจฉัย
นอกจากนี้ สำนักข่าว AP ได้รายงานไปเมื่อเดือนเมษายนว่าผู้นำระดับสูงของจีนรู้เรื่องว่าไวรัสโคโรน่าจะเป็นโรคระบาดร้ายแรงตั้งแต่เริ่มเดือนมกราคมมาได้ 6 วันแล้ว แต่กลับบอกกับทั้งโลกว่าไวรัสนี้มีความเสี่ยงต่ำต่อมนุษย์และไม่สามารถติดต่อระหว่างคนด้วยกันได้ ในขณะเดียวกันนั้น องค์การอนามัยโลกก็ต้องพึ่งพาข้อมูลจากประเทศต่างๆ รวมถึงการพึ่งพาชุดข้อมูลต่างๆ จากประเทศจีนด้วย ในท้ายที่สุดก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นข้อมูลที่ผิด ส่วนทางการจีนเองก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าได้ปกปิดข้อมูลสำคัญมานานแล้ว โดยแจ้งว่าจะเผยแพร่ข้อมูลและลำดับของจีโนมโดยเร็วที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ทางองค์การอนามัยโลกจึงถูกกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยเหลือประเทศจีนในการปกปิดการระบาดของ COVID-19 ในช่วงแรกไปด้วย
องค์การอนามัยโลกประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบในประเทศจีนเพื่อหาคำตอบว่าไวรัสโคโรน่าเริ่มต้นมาได้อย่างไร แต่ยังไม่มีการแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงแผนงานว่าจะเข้าไปทำอะไรบ้าง
ที่มา : Business Insider
รูปจาก : Twitter WHO