ตลาด PC ทั่วโลก ไตรมาส 2/2020 ฟื้นตัว เติบโตขึ้น 9% ขายได้รวมกว่า 72.9 ล้านเครื่อง

11 กรกฎาคม 2020

ข้อมูลจาก canalys เผยว่าตลาด PC ทั่วโลกเริ่มปรับตัวและกลับมาดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยมีความต้องการในการซื้อเพิ่มขึ้นมากหลังจากพ้นช่วง 3 เดือนแรกของปี โดยมียอดการส่งออกขายของเครื่องเดสก์ท็อป โน๊ตบุ๊ค และเวิร์คสเตชั่น รวม 72.9 ล้านเครื่อง มีอัตราเติบโต 9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งสามารถชดเชยยอดที่ลดลงในไตรมาสที่ 1 ได้ด้วย หากนับยอด การส่งออกขายครึ่งปีแรกของปี 2020 นั้นโตขึ้น 1% หากเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2019

ยอดที่เติบโตขึ้นนั้น มีโน๊ตบุ๊คเป็นอุปกรณ์หลักในการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ นักเรียน และผู้ใช้งานทั่วไปซึ่งต้องปรับตัวการทำงานใหม่ การเรียนออนไลน์ การถูกล็อคดาวน์ และการใช้ชีวิตแบบใหม่ในช่วงการระบาดของ COVID-19 โดยยอดการส่งออกขายของโน๊ตบุ๊ค และเวิร์คสเตชั่นที่เคลื่อนที่ได้นั้นโตขึ้น 24% จากปีที่แล้ว ส่วนยอดของเดสก์ท็อปและเดสก์ท็อปเวิร์คสเตชั่นนั้น ลดลงถึง 26%

หลังจากช่วงขาดทุนในไตรมาสที่ 1 ของปี ทาง HP ก็ได้ส่วนแบ่งตลาดกลับคืนมาและแซงหน้า Lenovo ขึ้นเป็นแบรนด์ที่มียอดส่งออกสูงที่สุด โดยส่งเครื่อง PC ออกขาย 18.1 ล้านเครื่อง ซึ่งฐานลูกค้าในสหรัฐอเมริกาโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปี 2019 ทำยอดได้ดีมากทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา

ทางด้าน Lenovo หล่นมาเป็นที่สอง โดยมียอดการส่งออกที่ 17.4 ล้านเครื่อง มีอัตราการเติบโตขึ้น 7% และ Dell ก็ฟื้นจากยอดที่ร่วงในไตรมาสที่ 1 โดยมีอัตราการเติบโตขึ้น 3% มียอดการส่งออกที่ 12 ล้านเครื่อง Apple และ Acer ตามมาเป็นที่ 4 และ 5 ตามลำดับ

หากดูข้อมูลแบบเป็นภูมิภาค ทางฝั่งอเมริกาเหนือ และ EMEA หรือ ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา นั้นมีการเติบโตขึ้นมากในไตรมาสที่ 2 โดยมีอัตราเติบโตขึ้น 11% และ 25% ตามลำดับ แต่ทางฝั่งละตินอเมริกากลับมียอดที่ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

การฟื้นตัวของตลาด PC ในภูมิภาคต่างๆ อาจจะมีการล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากทั้งธุรกิจและผู้บริโภคนั้นได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งจะต้องคิด วางแผนและจัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่ายมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ การผลิตและการจัดจำหน่ายในประเทศยังคงประสบปัญหาการหยุดชะงักเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากการถูกล็อคดาวน์ ซึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคนั้น ยอดการส่งออกขายในไตรมาสที่ 2 ไม่เพียงพอจะหักล้างกับยอดที่ซบเซาในไตรมาสที่ 1 ซึ่งมีอุปสรรคใหญ่จากการที่ผู้ใช้งานต้องทำงานที่บ้าน (work from home) และเรียนออนไลน์ และด้วยวัฒนธรรมของภูมิภาคที่ใช้งานมือถือเป็นหลัก ทำให้ยอดการส่งออกขายโน๊ตบุ๊คนั้นไม่ได้เติบโตขึ้นมากเท่าที่ควร