พรีวิว OnePlus Nord สมาร์ทโฟนที่ชูธงยกป้ายมาด้วยสโลแกนที่ว่า “Lite Flagship for New Gen” ราคา เปิดตัวมาในระดับหมื่นกลางๆ แต่ออกแบบและจัดสเปค ให้ผู้ใช้ยังสัมผัสประสบการณ์ใช้งานได้ดีเทียบเท่ากับรุ่นเรือธง
ช่วงที่ผ่านมา เราจะเห็นว่า OnePlus ได้ขยับจุดยืนของตัวเองจาก “นักฆ่าเรือธง” ไปเป็น “Super Flagship” ที่เน้นประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ดีขั้นพรีเมี่ยม ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีและน่าประทับใจทุกตัว จนมาในปี 2020 นี้ OnePlus ก็เปิดไลน์สินค้าใหม่เพื่อมาสู้กับตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่ม Mid-Tier หรือระดับกลาง ถ้าพูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือ กลุ่มสมาร์ทโฟนช่วงราคา 15,000-20,000 บาท ที่เรียกว่าดุเดือดและมีการแข่งขันกันสูงมากอยู่ในขณะนี้
OnePlus Nord จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา ใครที่สงสัยคำว่า “Nord” หมายถึงอะไร คำนี้เป็นภาษาทางยุโรปมีความหมายคือ “ทิศเหนือ” เหมือนกับการเดินหน้าพัฒนาสมาร์ทโฟนของ OnePlus เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดเหนือสุด
สำหรับ พรีวิว OnePlus Nord เราจะมาแกะกล่องดูในแพ็กเกจ สรุปสเปคเบื้องต้น พร้อมเกริ่นถึงประสบการณ์หลังลองสัมผัสและใช้งานเล็กน้อย สำหรับ รีวิว เต็มๆ รอชมกับทางคลิปของพี่หลามกัน
พรีวิว OnePlus Nord แกะกล่องลองสัมผัส
ตัวกล่อง แพ็กเกจของ OnePlus Nord ทำออกมาแตกต่างจากรุ่นพี่ที่เป็นกล่องยาวสีแดงเพลิง ด้วยตัวกล่องเป็นกระดาษสีดำ ที่ฝาด้านบนมีคำว่า NORD เรียงกันอยู่ พร้อมโลโก้ กล่องดีไซน์ให้มีเว้นช่องตรงกลางเอาไว้ให้เห็นเป็นสีฟ้าครามๆ ซึ่งเป็นสีใหม่ของรุ่นนี้ ตัวกล่องดีไซน์ดูเรียบๆ แต่ดูดีเลยทีเดียว
ด้านหลังมีบอกรายละเอียดของตัวรุ่นสินค้า ตัว OnePlus Nord ที่ทางทีมงานได้มา พรีวิว นี้เป็นรุ่นความจุ 256GB สีเป็น Gray Onyx รองรับ 2 ซิม
ภายในกล่องมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ เริ่มด้วยส่งที่เป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus ก็คือจดหมายแทนใจจากท่าน CEO พร้อมคู่มือใช้งาน, การรับประกันเบื้องต้น และยังมีสติกเกอร์โลโก้แบบใส เอาไว้ไปแปะข้าวของเก๋ๆ ได้ รวมถึงยังมีเคสใสแบบ TPU มาให้ด้วย มีการเล่นลวดลายใสกับขุ่นที่ดูสวยแปลกตา
อุปกรณ์อื่นๆ ที่ให้มา จะเป็นสายชาร์จแบบ USB-A to USB-C และอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับเทคโนโลยี Warp Charge 30T (ตัวที่นำมาพรีวิวเป็นรุ่นจำหน่ายในต่างประเทศ สำหรับรุ่นที่จำหน่ายในไทยอแดปเตอร์จะเป็นปลั้กแบบ 2 ขาปกติ)
ทีนี้มาดูที่ตัวเครื่องกัน ดีไซน์นั้นยังคงความเรียบง่ายที่ลงตัว และให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมทันทีที่เห็นและลองจับ กระจกหน้าและฝาหลังใช้วัสดุเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 5
ฝาหลังการทำสีเป็นแบบกึ่งมันกึ่งด้าน คือตัวสีนั้นเป็นสีด้านที่มีเหลือบสะท้อนแสง เป็นการเล่นสีให้มีมิติที่ให้ลุคดูแพง ไม่ได้วิบวับหรือลวดลายตระการตา ตัวเครื่องทดสอบเป็นสี Gray Onyx ที่เป็นสีเทากลางๆ ไม่เข้มมาก และจะมีอีกสีคือ Blue Marble ที่จะเป็นสีฟ้าออกคราม
ตัวชุดกล้องหลังของ OnePlus Nord เป็นชุดกล้องแบบ 4 เลนส์ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 และยังมีกล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา, กล้องวัดระยะ Depth 5 ล้านพิกเซล และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล เป็นเซ็ตกล้องที่ช่วยให้คุณถ่ายภาพได้ครบทุกระยะทุกโอกาส
ตัวเฟรมเครื่องวัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนตที่ทำสีเงาเข้ากับสีฝาหลัง ดูสวยงามจนไม่รู้สึกว่ามันเป็นพลาสติก ทางซ้ายของเครื่องจะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง ส่วนทางขวาเป็นปุ่ม Power และปุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ของ OnePlus นั่นคือปุ่มปรับโหมดเสียงเรียกเข้า/เงียบ/สั่น
ด้านล่างของเครื่อง มีช่องถาดใส่ซิมที่รองรับ 2 ซิมขนาด Nano (ไม่รองรับเพิ่ม microSD) ช่องไมค์สนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C และช่องลำโพง ส่วนที่ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนที 2 สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบข้างในการสนทนา
ด้านหน้าตัวจอเป็น Fluid AMOLED 6.44 นิ้ว FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 มีเว้นช่องสำหรับกล้องหน้าแบบคู่อยู่ตรงตำแหน่งมุมบนซ้าย เป็นกล้องหลัก 32 ล้านพิกเซลถ่ายเซลฟี่ได้คมชัด ทำงานร่วมกับกล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล ถ่ายเซลฟี่ได้มุมที่กว้างมากขึ้น และตรงกลางบริเวณขอบเครื่องจะมีช่องของลำโพงสนทนา
หน้าจอถือว่ามีขนาดที่ใหญ่แบบแทบไม่เหลือขอบด้านข้าง ส่วนช่วงล่างของจอจะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่สแกนได้แม่นยำและรวดเร็ว ตัวหน้าจอเลือกแสดงผลแบบ Ambient Display เพื่อโชว์ข้อมูลแจ้งเตือนเมื่อหยิบมือถือขึ้นมา หรือจะเลือกเป็นเคาะหน้าจอเพื่อปลุกหน้าจอแล้วดูก็ได้
Touch & Fell
ต้องบอกว่า OnePlus Nord เป็นสมาร์ทโฟน ราคา ระดับกลางที่ยังทำออกมาให้ดูสวยเรียบพรีเมียมได้ ตัวเครื่องงานประกอบปราณีตตามมาตรฐาน ใช้วัสดุเป็นกระจกทั้งด้านหน้าและหลัง ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดี ซึ่งเทียบกับหลายๆ แบรนด์ที่ทำราคาระดับนี้ ฝาหลังจะเป็นพลาสติก ถือว่า OnePlus ทำออกมาได้ดีเลยเรื่องของการเลือกวัสดุ
ส่วนขนาดตัวเครื่องที่กำลังดี น้ำหนัก 184 กรัมก็ไม่หนักจนเกินไป ถือใช้งานสบายๆ เล่นเกมยาวๆ ไม่มีเมื่อย
ด้านหลังชุดกล้องวางไว้ตรงหัวมุมเรียงเป็นแถว ในขนาดที่ไม่ใหญ่มาก และตัวโมดูลเองก็นูนขึ้นมาไม่มากนัก สีของฝาหลังดูเหลือบๆ ไม่สะท้อนแสงมาก ให้อารมณ์ดูเรียบๆ แต่ดูดีลงตัว
พรีวิว ประสบการณ์ใช้ OnePlus Nord แบบสั้นๆ
จากนี้ขอสรุปบอกเล่า หลังจากลองใช้งาน OnePlus Nord แบบสั้นๆ ในช่วงเวลาที่ได้ลองประมาณ 2-3 วัน
- หน้าจอ 90Hz ให้ความรู้สึกลื่นไหลใช้งานละมุนตา เปลี่ยนเมนู เลื่อนฟีดอ่านเว็บ
- แบตเตอรี่ความจุ 4115mAh ขนาดใหญ่เพียงพอสำหรับใช้งานปกติได้เต็มวัน ถ้าเล่นเกมกราฟฟิกหนักๆ หรือถ่ายรูป+วิดีโอเยอะๆ ก็จะลดเร็วหน่อย
- Warp Charge 30T ดีประเสริฐ เสียบชาร์จแค่ 30 นาที ได้แบตเตอรี่เติมได้ถึง 70%
- สเปครุ่นที่ทดสอบเป็น RAM 12GB ROM 256GB กับชิปเซ็ต Snapdragon 765G เพียงพอสำหรับเล่นเกมดังทั้งหลายในท้องตลาด ในระดับกราฟฟิคที่ดี เฟรมเรตแทบไม่มีร่วงให้เห็น และก็ไม่ร้อนมากอีกด้วย
- เสียดายที่รุ่นนี้รองรับ 5G แต่ยังไม่รองรับกับคลื่นที่มีอยู่ในไทยตอนนี้ ต้องรออัปเดทในอนาคต
- กล้องหลังถ่ายดีไม่แพ้รุ่นพี่ เมนูฟีเจอร์มีให้ใช้ถ่ายได้ครบทุกสถานการณ์ ปรับแต่งได้กำลังงาม
- กล้องหน้ามีเลนส์กว้างมาด้วย เซลฟี่ได้มุมที่เก็บบรรยากาศได้มากขึ้น
- วิดีโอกล้องหลังเปิดระบบกันสั่นเพิ่ม เดินถือถ่ายวิดีโอได้นิ่งมาก
- ลำโพงเป็น Mono และไม่มีช่องเสียบหูฟัง
- ไม่รองรับ Wi-Fi 6
- จอรองรับ HDR10+ ดู Netflix สีสวยๆ รองรับ HDR ได้เลย
- OxygenOS 10.5 ดีไซน์ใช้งานง่ายๆ เรียบๆ ไม่ยุ่งยาก และมีอัปเดทให้อยู่ตลอดเวลา
สรุป ราคา การสั่งจอง PreOder และ โปรโมชั่น
OnePlus Nord เปิดตัวในไทย โดยจะเข้ามาจำหน่าย 2 รุ่นความจุด้วยกันคือ
- รุ่น 8GB+128GB ราคา 14,990 บาท มีให้เลือก 2 สี คือ Blue Marble และ Grey Onyx
- รุ่น 12GB+256GB ราคา 17,990 บาท มีเข้ามาเป็นสี Blue Marble
ตัวสินค้าจะเริ่มเปิดสั่งจองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 21-27 สิงหาคม และจะเริ่มวางจำหน่ายจริง 28 สิงหาคม โดยช่วงจองจะมีโปรโมชั่น รับของสมนาคุณ เป็น eVIP Card ประกันหน้าจอแตก และกระเป๋า OnePlus รวมมูลกค่า 10,990 บาท
สามารถดูรายละเอียดการสั่งจองได้ที่ http://onlineoneplus.com/
รวมถึงสั่งจองกับ 3 โอเปอเรเตอร์ ยังมีโปรโมชั่นรับส่วนลดค่าเครื่อง ในราคาเริ่มต้น เพียง 7,990 บาท และครั้งนี้ OnePlus เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายมากขึ้น นอกจากทางโอเปอเรเตอร์ที่มากันครบทั้ง AIS Truemove H และ Dtac ยังมีผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่ายอย่าง Banana, CSC, It City, Jaymart, TG Fone ส่วนช่องทางออนไลน์ก็มีให้เลือกช้อปได้ทั้ง JD Central, Lazada, Shopee และ This Shop
ข้อมูล สเปค OnePlus Nord
- ขนาด 158.3 × 73.3 × 8.2 มิลลิเมตร
- หนัก 184 กรัม
- หน้าจอ Fluid AMOLED 6.44 นิ้ว FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9, ค่า Refresh rate 90Hz รองรับ HDR10+
- ด้านหน้า+ฝาหลัง กระจก Corning Gorilla Glass 5 เฟรมเครื่องเป็นโพลีคาร์บอเนต
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 765G 5G
- ชิปประมวลผลกราฟฟิก Adreno 620
- RAM 8GB / 12GB LPDDR4X
- ความจุภายในเครื่อง 128GB / 256GB แบบ UFS 2.1
- กล้องหน้าแบบเลนส์คู่
- กล้องหลัก 32 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX616 (f/2.45)
- กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 105 องศา (f/2.45)
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX586 มีระบบกันสั่น OIS+EIS (f/1.75)
- กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8 ล้านพิกเซล มุมกว้าง 119 องศา (f/2.25)
- กล้องวัดระยะ Depth 5 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล โฟกัสระยะใกล้สุด 4 เซนติเมตร (f/2.4)
- เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, NFC
- ปลดล็อคเครื่องด้วยสแกนลายนิ้วมือ (เซ็นเซอร์ใต้หน้าจอ)
- พอร์ตเชื่อมต่อ+ชาร์จ แบบ USB-C
- แบตเตอรี่ 4115 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Warp Charge 30T
- ระบบปฏิบัติการ OxygenOS 10.5 บนพื้นฐาน Android 10