Align Technology ผู้ผลิตระบบจัดฟันแบบใส Invisalign รุดหน้าขยายธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิด ‘Align Training Center Bangkok’ ศูนย์ฝึกอบรมด้านทันตกรรมแห่งใหม่ในไทย พร้อมเผยโซลูชันนวัตกรรมทันตกรรมดิจิทัลสุดล้ำ
ศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่ของ Align ที่กรุงเทพฯ จะเป็นสถานที่สำหรับจัดการฝึกอบรม และการสาธิตกระบวนการ รวมถึงการฝึกปฏิบัติของทันตแพทย์ โดยเน้นให้เห็นถึงประโยชน์ของการผสานโซลูชันและนวัตกรรมของ Align มาใช้ในการรักษาคนไข้ โดยศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในย่านเพลินจิต
สำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของ Align Technology ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ โดยมีการพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมเพิ่มเติมแก่ทันตแพทย์ ตลอดจนดำเนินกิจกรรมการตลาดใหม่ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ในผู้เข้ารับการรักษาทั่วทั้งภูมิภาค
การเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมที่ทันสมัยแห่งใหม่ในไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งความเป็นเลิศในการให้ความรู้แก่ทันตแพทย์เกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Align โดยรวมถึงระบบจัดฟันแบบใส Invisalign ระบบจัดฟันแบบใส Invisalign Go การรักษาแบบ Invisalign First และรีเทนเนอร์ Vivera นอกจากนี้ ทันตแพทย์จะได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานจริงของระบบสแกน iTero ทั้งในขั้นตอนของทันตกรรมบูรณะและการจัดฟัน
คุณศศิธร เทียนทอง กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Align Technology กล่าวว่า “การลงทุนเปิดศูนย์ฝึกอบรมครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Align ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเรามีเป้าหมายที่จะเตรียมความพร้อมให้แก่ทันตแพทย์ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้เข้ารับการรักษาที่เลือกใช้เครื่องมือจัดฟันแบบใส Invisalign และสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดแก่ผู้เข้ารับการรักษาทั่วภูมิภาคนี้ได้อย่างเต็มศักยภาพ Align จะช่วยเสริมความสามารถให้ทันตแพทย์ได้ฝึกความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมจัดฟันสมัยใหม่ ตลอดจนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และสร้างเครือข่ายกับทันตแพทย์ชั้นนำในวงการได้ ภายใต้สภาพแวดล้อมการฝึกอบรมที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและอำนวยความสะดวกสบายสูงสุด”
Align ยึดมั่นในความสำคัญของการฝึกอบรม และถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แนวทางการจัดฟันของ Align แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ ทันตแพทย์ทุกคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Align จะสามารถเข้าถึงการฝึกอบรม โปรแกรมการเรียนการสอนทางคลินิก เครื่องมือ และการสาธิตกระบวนการ เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีนวัตกรรมและทางเลือกต่างๆ มาใช้ในการรักษาได้จริงผ่านระบบของ Invisalign โดยที่ศูนย์ฝึกอบรมทุกแห่งจะมีห้องบรรยาย ห้องสาธิต และห้องปฏิบัติการ
“ทุกครั้งที่เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ เราจะให้ความรู้เชิงลึกทั้งหมดแก่ทันตแพทย์อย่างรอบด้าน เพื่อให้นำไปใช้ในการรักษาได้ ด้วยเหตุนี้หัตถการของทันตแพทย์จำนวนมากในปัจจุบันจึงได้นำการรักษาด้วยระบบดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ มาใช้ และใช้อย่างมีจุดมุ่งหมายมากขึ้นกว่าที่เคย และศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่นี้จะเป็นสถานที่ในการเรียนรู้ให้แก่ทันตแพทย์ในไทยได้เป็นอย่างดีตลอดหลายปีข้างหน้านี้” คุณศศิธรกล่าว
Align มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกภูมิภาคและทุกช่องทาง โดยล่าสุดมีผู้รับการรักษา มากถึง 8.6 ล้านคน มีแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมกว่า 182,000 คน และ Align ดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังเปิด Invisalign Center ในสิงคโปร์และกรุงเทพฯ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคในพื้นที่และช่วยแนะนำแพทย์ที่ให้บริการจัดฟันแบบใส Invisalign นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลงทุนมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,118 ล้านบาท) ในการทำการตลาดกับผู้บริโภคทั่วโลกเพื่อสร้างการรับรู้และจูงใจให้ผู้บริโภคสนใจการรักษากับ Invisalign
นอกจากการเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรมแห่งใหม่แล้ว Align ยังเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อสนับสนุนแพทย์เพื่อฟื้นฟูผลกระทบจากโควิด-19 โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Align ได้เร่งพัฒนาเครื่องมือเสมือนจริงเพื่อลดจำนวนการนัดหมายในคลินิกให้น้อยที่สุด และให้บริการรักษาเฉพาะบุคคลที่ตรงตามคำแนะนำของแพทย์และความต้องการของผู้รักษา เพื่อมอบความไว้วางใจ ความปลอดภัย ความสะดวก และการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยีใหม่ๆ ดังกล่าว ได้แก่ Invisalign Virtual Appointment, Invisalign Virtual Care และ My Invisalign App ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้รับการรักษามากยิ่งขึ้น โดยผู้รับการรักษาสามารถติดต่อกับแพทย์จากระยะไกลเพื่อติดตามความคืบหน้า ลดเวลาในการเดินทาง และเพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง
“จากผลกระทบของโควิด-19 ทาง Align ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะช่วยเร่งแก้ไขปัญหารอบด้านเพื่อลดความเสี่ยงให้กับแพทย์และคนไข้ นอกจากการช่วยบริจาคเครื่องมือป้องกันต่างๆ ที่จำเป็นต่อแพทย์และโรงพยาบาลทั่วโลกแล้วในประเทศไทยเราได้ทำการบริจาค Face shield ให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี ในขณะเดียวกันเราได้ยกระดับและให้ความสำคัญแก่การเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Invisalign Virtual Appointment, Invisalign Virtual Care และ My Invisalign App ซึ่งความพยายามของเราในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับในเชิงบวกเป็นอย่างมาก มีความสนใจใหม่ๆ เกี่ยวกับทันตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น รวมถึงในกลุ่มแพทย์ที่ยังไม่เคยลองนำโซลูชันมาปรับใช้งานในช่วงก่อนเกิดการระบาด เราเห็นผลตอบรับและกระแสในเชิงบวกต่อการจัดฟันแบบใส Invisalign ขั้นตอนการปฏิบัติงานแบบดิจิทัล และระบบสแกนภาพ iTero ซึ่งทันตแพทย์หลายท่านบอกเราเป็นเสียงเดียวกันว่าระบบ iTero ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการทำงานไปแล้ว และเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ขับเคลื่อนทันตกรรมดิจิทัลในภูมิภาคนี้” คุณศศิธรกล่าวเสริม