รีวิว ASUS ROG Zephyrus M15 รหัส GU502LV-HC097T โน้ตบุ๊คที่สเปคมาทรงพลังสำหรับการเล่นเกม หรือจะทำงานกราฟฟิคหนักๆ ก็เอาอยู่ สเปคเรียกว่าจัดเต็มมาใช้ได้ ตั้งแต่ตัว CPU ที่ใช้เป็น Intel Core-i7 10th Generation ตัวล่าสุด การ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX2060 พร้อม RAM ใส่มาให้ 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูลเป็น M.2 NVMe PCIe 3.0 SSD ขนาด 1TB ถือว่าเป็นสเปคระดับแถวหน้าที่รับมือได้กับทุกความต้องการ พร้อมกับ ราคา อยู่ที่ 69,990 บาท
ปี 2020 ทาง ROG นั้นยังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาลงตลาดอย่างต่อเนื่อง และสำหรับ ASUS ROG Zephyrus M15 ของปีนี้ ก็ยังคงเป็นโน้ตบุ๊คระดับ Performance ที่น่าสนใจ เพราะตัวสเปครวมถึงการออกแบบมาทำมาได้ค่อนข้างดี ที่พร้อมทั้งเรื่องการเล่นเกม และการทำงานระดับหนักๆ จริงจังได้สบายๆ
เรามาเริ่มด้วยการแกะกล่อง ดูของที่ให้มา และดูดีไซน์ภายนอกกันก่อนเลย
Unbox
แพ็กเกจมาเป็นกล่องดำใหญ่อลังการ พร้อมตราสัญลักษณ์ ROG สีแดงบนกล่อง ในกล่องนอกจากตัวเครื่องแล้ว ยังมีอุปกรณ์เพิ่มเติมมาให้อยู่หลายชิ้น เริ่มด้วยอแดปเตอร์ชาร์จ AC 19.5V 11.8A 230W เป็นแบบตัวใหญ่น้ำหนักพอสมควร แต่ว่า ยังมีอแดปเตอร์ตัวเล็กที่รองรับ Power Delivery 65W มาให้ด้วย เพื่อความสะดวกในการพกพาใช้งานนอกสถานที่ และด้านล่างจะมีกระเป๋าสำหรับใส่เครื่อง
นอกจากนี้ยังมีเซ็ตของกล้องเว็บแคม ROG Eye แบบแยกเสียบประกอบ เพราะว่ารุ่นนี้ที่หน้าจอจะไม่มีกล้องเว็บแคมติดตั้งมาให้ ตัวกล้องแยกตัวนี้ รองรับความละเอียด 1080p 60FPS มีออโต้โฟกัส พร้อมมีไมโครโฟนในตัว การติดตั้งจะเอามาหนีบติดกับจอ หรือวางแยกก็ได้ โดยจะเสียบใช้งานผ่านช่อง USB
เรื่องอุปกรณ์เสริมต่างๆ ถือว่า ASUS ใจดีมากๆ ให้มาแบบครบครัน ทั้งตัวกล้อง ROG Eye และตัว Adaptor ก็มีให้มาทั้งแบบ 230W และแบบตัวเล็ก PD 65W
Hand-On
มาดูที่ตัวเครื่องกัน เครื่องที่ทางทีมงานได้มา รีวิว จะเป็น ROG Zephyrus M15 (GU502LV) สี Prism black ที่หลักๆ สีเครื่องจะเป็นสีดำตามสไตล์ของตระกูลซีรีย์นี้ แต่จะสะดุดตากับฝาด้านนอก ที่ออกแบบและเล่นลวดลายเป็นแบบ DOT เรียงกัน ใช้สีเป็นแบบเหลือบเมื่อสะท้อนกับแสง ให้สีแบบสเปคตรัมที่สวยแปลกตาดี ไม่ได้ดำทึบไปทั้งเครื่อง ส่วนโลโก้ของ ROG จะแอบมาหลบเล็กๆ อยู่ตรงมุม ดูมินิมอลลงตัวดี โดยวัสดุของตัวบอดี้จะเป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา
ตัวฝาบนมีเว้นช่องด้านล่างเอาไว้เพื่อเปิดช่วยเรื่องของการระบายความร้อนจากด้านหลัง เมื่อกางออก แต่เมื่อปิดเอาไว้ก็จะทำให้เห็นไฟแสดงสถานะการทำงาน, การชาร์จ เป็นไฟดวงเล็กๆ ซ่อนเอาไว้อยู่
สิ่งที่ต้องชมเรื่องดีไซน์คือความบางและเบา ROG Zephyrus M15 รีดน้ำหนักมาอยู่ที่เพียงแค่ 1.9 กิโลกรัม ด้วยความหนาไม่ถึง 2 เซนติเมตร ถือว่าเบามากสำหรับโน้ตบุ๊คขนาดจอ 15.6 นิ้ว เรื่องการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่จึงเป็นเรื่องที่สะดวกมาก
ด้านใต้ของเครื่องมีช่องระบายอากาศอยู่ทั้งด้านล่าง และด้านข้าง ซึ่งตำแหน่งด้านข้างวางไว้ชิดฝั่งบน ทำให้เวลาที่ใช้งานลมร้อนไม่พ่นออกมาโดนมือ ส่วนด้านข้างส่วนล่างจะมีช่องลำโพงคู่แบบสเตอริโออยู่
ไล่ดูพอร์ตต่างกันบ้าง เริ่มจากทางด้านขวาจะเป็นช่อง USB-C รองรับมาตรฐาน Thunderbolt3 และพอร์ต USB 3.2 Gen 1 Type-A มาให้อีก 2 ช่อง และมีช่อง Kensington lock มาให้ด้วย
ทางด้านซ้าย มีช่องเสียบอแดปเตอร์ 230W ช่องเสียบสาย LAN (RJ-45), HDMI 2.0b, USB 3.2 Gen 2 Type-A, ช่องเสียบไมโครโฟน และช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5mm (ESS Hi-Fi DAC)
เปิดดูด้านใน หน้าจอของ ASUS ROG Zephyrus M15 จะมีขนาด 15.6 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด 4K UHD (3840 x 2160) เรื่องความเที่ยงตรงของสีมั่นใจได้ในระดับ 100% Adobe RGB, Pantone validated จะเห็นได้ว่าพื้นที่ของจอกับตัวเครื่องนั้น เหลือขอบด้านบนและด้านข้างน้อยมาก ถ้าคิดเป็นสัดส่วนก็เต็มพื้นที่ถึง 81% ด้วยการออกแบบถอดเอากล้องเว็บแคมออกไปใช้เป็น ROG Eye จึงทำให้ได้พื้นที่เต็มเหยียดขนาดนี้
โซนล่างกับแป้นพิมพ์ ให้ความเป็นเกมมิ่งด้วยไฟ RGB เปลี่ยนสีได้แบบ All Zone รวมถึงยังปรับแต่ง Macrokeys เพื่อใช้ในการเล่นเกมต่างๆ โดยเราสามารถเข้าไปปรับแต่งได้ตามอัธยาศัยที่โปรแกรม Armory Crate ซึ่งเป็นซอฟท์แวร์ช่วยบริหารจัดการเครื่องแบบครบวงจรในโปรแกรมเดียว ส่วนเรื่องการปรับแต่งสีของคีย์บอร์ดก็มีลูกเล่นหลากหลายเลยล่ะ
การออกแบบแป้นพิมพ์ของ ROG Zephyrus M15 ใส่ใจในความเป็นเกมมิ่ง ตั้งแต่การปรับความโค้งมนของแต่ละปุ่ม จะเห็นว่าแป้น Space bar มียื่นติ่งออกมา และปุ่มทิศทางก็เลื่อนออกมาจากตำแหน่งเล็กน้อย เพื่อให้กดเล่นเกมได้ถนัด ส่วนเทคโนโลยีของคีย์บอร์ดก็จัดมาให้อย่างดี ทั้ง OverStork ช่วยเรื่องการกดรัวๆ ได้ดี และยังมี N-key rollover & anti-ghosting มาให้ด้วย
ที่ปุ่ม F5 จะเป็นคีย์ลัดสำหรับเปลี่ยนโหมดการทำงานของเครื่อง ว่าจะเป็น Turbo, Silent, Balanced เลือกได้ตามแต่สถานการณ์ที่ต้องการ
ด้านล่างจะเป็นแป้น TouchPad แบบใหญ่ที่ซ่อนปุ่มเอาไว้ ขนาดถือว่าใช้ถนัดดีครับ กดนุ่มและลากเลื่อนได้พริ้วๆ ไม่มีสะดุด ตำแหน่งก็วางไว้ได้เหมาะมือดีเลยทีเดียว
สเปคภายใน และการอัพเกรด
ROG Zephyrus M15 สเปคหลักตัว CPU คือ Intel Core-i7-10875H แบบ 8 คอร์ 16 เธรด ที่รุ่นนี้เด่นสำหรับการทำงานที่หนักๆ เน้นกราฟฟิคหรือเล่นเกมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง การสตรีมมิ่ง และการตัดต่อวิดีโอได้อย่างสบายๆ
RAM มีมาให้เป็น 16GB DDR4 Bus 3200 MHz แบบ 8GB x 2 แถว โดย 1 แถวจะเป็น On-board และถอดเปลี่ยนอัพเกรดได้สูงสุด 16GB (รวมเป็น 24GB)
ส่วนหน่วยความจำภายใน ใส่ให้มาเป็น SSD M.2 NVMe ขนาด 1TB โดยยังมีสล็อตให้ใส่เพิ่มได้อีก 1 ช่องสำหรับอัพเกรด SSD เพิ่มได้อีก
ทดสอบความเร็วของ SSD ที่ให้มา ความเร็วในการอ่านได้ 1907 MB/s และเขียนที่ 1766 MB/s เป็นความเร็วที่อยู่ในระดับน่าพึงพอใจกับการใช้งานหนักๆ ได้สบาย ซึ่งถ้า 1TB ที่ให้มารู้สึกไม่พอก็ยังอัพเกรดเพิ่มได้ด้วย
การ์ดจอตัว Onboard จะเป็น Intel UHD Graphics 630 เอาไว้สำหรับการทำงานที่ไม่หนักมาก หรือการประมวลผลกราฟฟิค 2 มิติได้สบายๆ โดยจะมีการ์ดจอแยก NVIDIA GeForce RTX 2060 มาให้ด้วย ที่แรงเหลือล้น ชนงานกราฟฟิค 3D ได้แบบหายห่วง และยังรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing อีกด้วย
ผลทดสอบ PCMark 10 ได้อยู่ที่ 5067 คะแนน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่สอบภาพในการใช้งานทั่วไปทุกอย่าง ตั้งแต่การเล่นเว็บ, งานเอกสาร, งานรีทัช Photoshop, Lightroom รวมไปถึงการตัดต่อวิดีโอ
แบตเตอรี่และการใช้งาน
เห็นเป็นโน้ตบุ๊คตัวบาง แต่เรื่องแบตเตอรี่การใช้งานนั้นทำได้ดีเลยทีเดียว จากการทดสอบแบตเตอรี่ชาร์จแบบเต็มๆ ใช้งานแบบปกติๆ ก็พอสำหรับใช้ได้ถึง 6 ชั่วโมง แต่ถ้าจะใช้งานหนักๆ แล้ว ยังไงก็เสียบอแดปเตอร์ชาร์จจะดีกว่า หรือถ้าต้องไปใช้งานนอกสถานที่ พกเจ้า PD 65W ตัวน้อยไว้ช่วยเติมไฟให้ได้อีกด้วย
ASUS ROG Zephyrus M15 (GU502LV) เหมาะสำหรับใคร?
ด้วยสเปคและศักยภาพของ ROG Zephyrus M15 ตัวนี้ ยังคงความเป็นลูกครึ่งระหว่างโน้ตบุ๊คสำหรับเล่นเกมและสำหรับทำงานในตัวเดียวกัน ซึ่งจากที่ลองใช้แล้ว มันตอบโจทย์ดีมากสำหรับด้านการทำงานกราฟฟิค ตั้งแต่สเปคภายในที่พร้อมรบกับทั้งงาน Photoshop แต่งภาพ รีทัช หรืองานปรับสีภาพ Lightroom ก็สบาย เพราะตัวจอที่ผ่านมาตรฐานทั้ง 100% Adobe RGB และ Pantone มันคือเกิดมาเพื่อสายทำงานแท้ๆ หรือจะตัดต่อวิดีโอก็สบายๆ เรียกว่า ถ้าใครทำงานเป็นสายครีเอเตอร์ เจ้านี่เหมาะดีมาก แถมน้ำหนักที่เบาพกพาไปทำงานนอกสถานที่ได้แบบไม่ต้องหลังแอ่นแต่อย่างใด
ส่วนในแง่ของการเล่นเกมนั้น สายเกมเมอร์ฮาร์ดคอร์อาจจะรู้สึกไม่สุด เพราะตัวจอถึงแม้ว่าจะเป็น 4K UHD แต่รองรับเฟรมเรตที่ 60Hz เท่านั้น และในหลายๆ เกมถ้าอยากจะเล่นให้ได้เฟรมเรตสูงๆ ก็จำเป็นต้องปรับกราฟฟิคที่ FHD จะให้ความรู้สึกที่ลื่นไหลมากกว่า และมีส่วนที่มีติบ้างอีกเล็กน้อย ก็ตรงที่เครื่องไม่มี SD Card Reader มาให้ด้วย ต้องใช้อแดปเตอร์เสียบเอา และก็แอบเสียดายตรงไม่มีสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องมาให้ด้วย
การทำงานหนักๆ เรื่องของการควบคุมความร้อนเป็นที่น่าพอใจ ASUS เลือกใช้ซิลิโคนของ THERMAL GRIZZLY พร้อมการออกแบบให้ช่องระบายอากาศหลายจุด ตัวบอร์ดมี Heat Pipe มาอีก 6 เส้น ทำงานหนักๆ เราจะเห็นเลยว่าเครื่องพยายามลดอุณหภูมิเครื่องอย่างเต็มที่ เพื่อให้ Performance ทำงานได้อย่างเต็มที่
รีวิว นี้ สรุปโดยรวมแล้ว ASUS ROG Zephyrus M15 (GU502LV) เหมาะเลยล่ะ ถ้าคุณอยากได้โน้ตบุ๊คสำหรับทำงานประสิทธิภาพแรงๆ หน้าจอใหญ่คมชัด สีเที่ยงตรง พร้อมทั้งยังอัพเกรดเพิ่มเรื่องหน่วยความจำ กับ RAM เพื่อทำงานได้เต็มที่ยิ่งกว่าเดิม รวมถึงดีไซน์ที่เพรียวบาง น้ำหนักเบา รองรับการชาร์จด้วยอแดปเตอร์ PD 65W ที่ให้คุณพกเครื่องไปไหนมาไหนได้แบบหลังไม่หัก ส่วนเรื่องเล่นเกมถือว่าเล่นได้ดีอยู่ แต่อาจจะไม่ใช่ระดับสุด แต่ยังเล่นได้สนุกและลื่นไหล
รีวิว สเปค ASUS ROG Zephyrus M15 (GU502LV)
- CPU: Intel® Core™ i7-10875H Processor (8C/16T)
- Memory: 16GB DDR4 BUS 3200 Mhz. (8GB*2)
- Graphics: NVIDIA Geforce RTX2060
- Storage: 1TB M.2 NVMe PCIe 3.0 SSD
- Display: 15.6” 4K UHD (3840 x 2160) IPS-level panel ,100% Adobe RGB, Pantone validated
- Cover : Rainbow-like dots
- Keyboard : All Zone RGB lighting
- Intel® Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax) + Bluetooth 5.1
- OS: Windows 10 Home
- Weight : 1.9kg.
- 230W power adaptor
- Support PD Adapter(Type C)
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- 1 x Thunderbolt™ 3 with USB 3.2 Gen 2 Type-C, DisplayPort™ 1.4 and Power Delivery
- 1 x USB 3.2 Gen 2 Type-A
- 2 x USB 3.2 Gen 1 Type-A
- 1 x HDMI 2.0b
- 1 x 3.5mm Audio jack (ESS Hi-Fi DAC)
- 1 x Audio jack mic-in
- 1 x Kensington lock
- 1 x RJ-45 jack
- เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 6 with Gig+ performance (802.11ax) , Bluetooth 5.1
- ราคา 69,990 บาท