รีวิว POCO X3 NFC สมาร์ทโฟนที่มากับความคุ้มสุดๆ อีกแล้ว กับ ราคา เริ่มต้น ที่ 6,999 บาท ได้ชิปเซ็ต Snapdragon 732G รุ่นใหม่ จอ 120Hz ลื่นไหล แบตเตอรี่ใหญ่อึดสะใจ กล้อง 64 ล้านพิกเซล เป็นสเปคที่สร้างมาสำหรับการเล่นเกม โดยที่ทำราคาออกมาได้ดีเลยทีเดียว
ตอนนี้ชื่อของ POCO ถือว่าเป็นอีกแบรนด์ที่อยู่ในร่มเงาของ Xiaomi ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในราคาที่ล้ำค่า โดย POCO ถูกว่าตำแหน่งให้เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นความคุ้มค่ากับสเปคยิ่งกว่า Xiaomi ไปอีกขั้น ซึ่งที่ผ่านมาหลายๆ รุ่นก็เขย่าตลาดในบ้านเรามาไม่น้อย
ตัวของ POCO X3 NFC มีความน่าสนใจตรงที่การทำสมาร์ทโฟนราคาไม่เกินหมื่นบาท แต่ให้สเปคหลายๆ อย่างที่คุ้มเกินราคา ก่อนจะเริ่ม รีวิว POCO X3 NFC เรามาแกะกล่องดูกันก่อนว่ามีอะไรให้มาบ้าง
ตัวกล่องของ POCO X3 NFC จะมาเป็นสีดำ และมีตัวหนังสือเป็นสีเหลืองสดตัดอย่างชัดเจน ตัวกล่องด้านในก็จะเป็นสีเหลืองด้วยเช่นกัน โดยที่ด้านใต้กล่องจะมีฉลากบอกถึงรุ่นของสมาร์ทโฟน, ของที่มีให้มาในแพ็กเกจ รวมถึงสเปคเบื้องต้น ซึ่งตัวนี้จะเป็นรุ่นความจุ 6GB RAM + 64GB ROM สี Shadow Grey
และเข้ามาในกล่อง จะมีให้มาคือคู่มือการใช้งานเบื้องต้น พร้อมเอกสารรับประกัน, เข็มเหล็กขนาดเล็กสำหรับจิ้มถาดซิม และเคสใสแบบ TPU สำหรับสวมใส่เครื่องเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนและกันกระแทก นอกจากนี้ เคสตัวนี้ยังมีความพิเศษตรงที่สามารถช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียได้อีกด้วย
ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟ ตัวอะแดปเตอร์จะเป็นแบบ 33W พร้อมสำหรับการชาร์จเร็ว ส่วนตัวสาย USB ที่ให้มาก็จะเป็นแบบ USB-A to USB-C สำหรับใช้คู่กับอะแดปเตอร์ชาร์จ เพื่อให้ได้กำลังไฟในการชาร์จที่ดีที่สุด
Hand-On ลองสัมผัสดูดีไซน์
ขนาดและมิติของตัวเครื่องนั้น อยู่ที่ 165.3 x 76.8 มิลลิเมตร หนา 9.4 มิลลิเมตร และหนักอยู่ที่ 215 กรัม ถือว่าหนักพอสมควรสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้วัสดุเฟรมกับฝาหลังเป็นโพลีคาร์บอเนต ส่วนด้านหน้าจะเป็นกระจก Corning Gorilla Glass 5
เริ่มดูกันที่ตัวหน้าจอกันก่อน POCO X3 NFC ใช้หน้าจอแบบ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ แบบ DotDisplay ที่เว้นรูด้านหน้าตรงกลาง เอาไว้สำหรับกล้องหน้า ตัวจอขนาดของอัตราส่วนเป็น 20:9 2400×1080, 395ppi โดยตัวจำจะมีติดฟิล์มกันรอยมาให้เรียบร้อย
ซึ่งจอตัวนี้มีจุดเด่นตรงคุณสมบัติค่ารีเฟรชเรตให้มาสูงถึง 120Hz และค่าความไวต่อการตอบสนองสัมผัสที่ 240Hz พร้อมทั้งยังผ่านมาตรฐานของ TÜV Rheinland ในเรื่องของการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำ ช่วยให้มีผลต่อสายตาน้อยลง รวมถึงรองรับมาตรฐาน HDR10 สำหรับการดูคอนเทนต์อีกด้วย
ตัวกล้องหน้า จะอยู่เป็นรูตรงกลางด้านบนของจอที่เว้นไว้เล็กๆ ตัวกล้องความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 แบบ 4-in-1 Super Pixel ด้านบนเป็นช่องลำโพงเสียงสำหรับสนทนา และยังทำงานเป็นลำโพงตัวที่สองสำหรับการเล่นเสียงแบบสเตอริโอได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้านบนยังมีไฟ LED ที่จะสว่างเพื่อแจ้งเตือน Notification ให้ด้วย ถือว่าเป็นสิ่งที่สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ไม่ค่อยใส่มาให้แล้ว แต่ใน POCO X3 NFC มีมาให้ด้วย
ด้านหลังของตัวเครื่อง POCO X3 NFC ตัวที่เราได้มา รีวิว จะเป็นสีเทา Shadow Grey เป็นเทาสีโทนค่อนข้างเข้ม วัสดุมีความมันวาว โดยลวดลายที่ฝาหลังจะเป็นแถบเส้นแนวทะแยงเรียงกัน และมีเว้นด้านล่างเป็นข้อความคำว่า POCO อยู่
ชุดโมดูลกล้อง เป็นการวางเอาไว้จุดตำแหน่งตรงกลางด้านบน ทำทรงพื้นที่เป็นลักษณะวงกลม โดยตัวชุดกล้องจะเป็นกรอบนูนออกมาจากฝาหลังพอสมควร โดยจะวางตำแหน่งตรงกลางเป็นกล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล ส่วน 4 มุมจะเป็นไฟแฟลช LED, กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide, กล้อง Macro และกล้องวัดระยะ
ด้านข้างฝั่งซ้ายของตัวเครื่องจะเป็นถาดซิม ที่กดออกแล้ว จะเป็นถาดแบบ Hybrid ที่ใส่ซิมขนาด Nano SIM รองรับได้ 2 ซิม โดยช่องซิมที่ 2 เลือกได้ว่าจะเป็นใส่ซิม หรือใส่ microSD ที่เพิ่มหน่วยความจุได้อีก สูงสุดถึง 256GB
ทางขวา มีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power ที่ดีไซน์บากเว้าเข้าไปในขอบเครื่อง เพื่อใช้เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมไว้ด้วยกัน เวลากดปุ่ม Power ก็จะสแกนลายนิ้วไปด้วยพร้อมกันทีเดียว
ด้านล่างของเครื่อง มีพอร์ตสำหรับเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร, ช่องเสียบ USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล, ช่องไมโครโฟน และช่องลำโพงเสียง
สำหรับดีไซน์นั้น ฝาหลังอาจจะดูแปลกๆ ตาไปบ้างทั้งการวางเรียงกล้องหลัง ผิวสัมผัสที่เป็นแบบเงาวับมีลายนิ้วมือค่อนข้างง่าย แนะนำว่าควรหาเคสมาใส่ (ซึ่งใช้เคสที่แถมให้มาเลยก็ได้ คุณภาพดีเลยทีเดียว) ขนาดตัวเครื่องหน้าจอใหญ่พอสมควร รวมถึงน้ำหนักที่ 215 กรัม ถือนานๆ อาจจะมีเมื่อยกันบ้าง โดยรวมแล้วเรื่องดีไซน์ถือว่าดีเลยทีเดียว
ประสิทธิภาพ
ชิปเซ็ต POCO X3 NFC เลือกใช้ชิปรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Qualcomm อย่าง Snapdragon 732G ที่เป็น Kyro™ 470 Octa-core 2.3 GHz ชิปประมวลผลกราฟิก Adreno 618 ถือว่าเป็นชิประดับกลางที่พัฒนามาเพื่อประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมรวมถึงกราฟฟิค
รวมกับตัว RAM ที่ให้มา 6GB แบบ LPDDR4X และหน่วยความจำภายใน เป็นแบบ UFS 2.1 ที่มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 64GB และ 128GB ตัวหน่วยความจำจากสเปคแล้วถือว่าอยู่ในระดับกลาง แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไปทุกอย่าง ใช้ได้แบบไหลลื่น ยิ่งได้จอแบบ 120Hz มา การใช้งานเรายิ่งรู้สึกได้ว่า เปิดแอปเลื่อนหน้าจอ มันดูนุ่มนวลลื่นปื้ดไปหมด
การออกแบบระบบภายในของ POCO X3 NFC ใช้เทคโนโลยีการระบายความร้อนภายใน LiquidCool 1.0 Plus ที่โครงสร้างประกอบด้วยฮีทไปท์ทองแดง ทำงานร่วมกับกราไฟต์ ผลที่ได้ถือว่าน่าพอใจมาก คือการใช้งานหนักๆ อย่างเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ จากความรู้สึกแล้วถือว่าอุณภูมิไม่ได้สูงจนเกินไป ถือเล่นได้แบบไม่รู้สักว่าร้อน เพราะนอกจากระบบการระบายความร้อนที่ดีแล้ว ตัวชิปเซ็ต Snapdragon 732G ตัวใหม่ตัวนี้ ก็ถือว่าใช้พลังงานในระดับที่ไม่สูงมากอยู่แล้ว ผลที่ได้มาจึงดีน่าพอใจ
การเล่นเกม กับการลองเล่น ROV เลือกปรับกราฟฟิคในโหมดเฟรมเรตสูงได้ โดยปรับความละเอียดของภาพเต็มที่ได้สูงสุดคือที่ระดับสูง และปรับภาพ HD ได้ที่สูงมาก การเล่นเฟรมเรตก็วิ่งได้นิ่งๆ ที่ 60fps มีแกว่งบ้างนิดหน่อยเวลาที่มีตัวละครรุมตีกันเยอะๆ แต่ถือว่าเล่นได้ไม่มีปัญหา
เรื่องของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่นั้น ให้มาเยอะจริงๆ คือ 5,160 mAh กันเลย คืออีกสาเหตุที่ทำให้ตัวเครื่องมีความหนาและน้ำหนักมาก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับคนที่ชอบใช้สมาร์ทโฟนที่แบตอึด ใช้งานปกติทั่วไป ยังไงๆ ก็อยู่ได้แบบเต็มวันแบตเหลือๆ กลับถึงบ้านสบาย แต่ถ้าใช้งานหนัก เล่นเกม ถ่ายรูปเยอะๆ ก็แล้วแต่สภาพการใช้งาน รวมถึงการใช้หน้าจอที่ 120Hz ก็มีผลต่ออายุแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน
แต่ที่ดีก็คือ การใส่ระบบชาร์จเร็วที่ 33W มาให้ด้วย ทำให้แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขนาดนี้ เสียบชาร์จแบตเตอรี่จากหมดเกลี้ยงจนเต็ม 100% ใช้เวลาเพียงแค่ 65 นาทีเท่านั้น
ฟีเจอร์การใช้งานที่น่าสนใจ
ตัวของระบบปฏิบัติการ ใช้เป็น MIUI 12 for POCO พื้นฐานบน Android 10 หน้าตานั้นดูเรียบใช้งานง่าย ฟีเจอร์การใช้งานถือว่าสะดวกสบายและเพิ่มประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนให้ดียิ่งขึ้น
Video Toolbox ระบบที่เป็นออพชั่นเสริมระหว่างที่เราดูคลิปวิดีโอ ที่เลือกเปิดเมนูเรียกเครื่องมืออย่างเปิดหน้าจอแอพอื่นขึ้นมาได้ หรือคำสั่งพิเศษอื่นๆ
Game Turbo ระบบมาทำงานร่วมกับการเล่นเกม ช่วยการปรับแต่งได้ทั้งเรื่องของการแจ้งเตือนต่างๆ การเปิดแอพแบบหน้าต่างลอยบนเกม สำหรับเวลามีแชตมาแล้วต้องการอ่านระหว่างเล่นเกม พร้อมปรับเรื่องการจับภาพหน้าจอ บันทึกหน้าจอ ฯลฯ โดยตัวเมนูจะซ่อนไว้อยู่ทางมุมซ้ายบนของจอเวลาที่เล่นเกม
Floating Windows นอกจากการใช้งานแบบครึ่งหน้าจอแล้ว เรายังเลือกใช้งาน 2 แอพได้ด้วยการเปิดเป็นหน้าต่างลอยอยู่ด้านบน โดยเลื่อนตำแหน่งได้ และย่อหลบไว้ที่มุมเครื่องก็ได้
Second Space สำหรับคนที่อยากสร้างโลกอีกใบ เก็บไฟล์, ภาพ, วิดีโอ ฯลฯ แยกออกมาไว้เผื่อไม่อยากให้ใครเห็น ระบบของ MIUI 12 ก็ยังมีให้ใช้ได้อยู่
Cleaner เอาไว้ใช้สำหรับรีดเร้นประสิทธิภาพ ด้วยการเคลียร์ปิดแอพที่กิน RAM อยู่ออก เพื่อให้เครื่องกลับมาใช้งานได้เร็วขึ้น รวมถึงเคลียร์ส่วนของไฟล์ที่บางครั้งเต็มเครื่อง ให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น
กล้องและการถ่ายภาพ
เรื่องกล้องของทาง POCO X3 NFC ถือว่าให้มาใช้งานได้น่าพอใจ เริ่มด้วยกล้องหน้าเซลฟี่ ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.2 เป็นแบบ 4-in-1 Super Pixel ที่เป็นเทคโนโลยีรวมพิกเซล 4 จุดเป็นจุดเดียว ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและสว่างมากขึ้น ตัวกล้องหน้ามีให้เลือกใช้ AI ในการวิเคราะห์ซีน เพื่อได้ภาพที่ดีที่สุด โดยที่การถ่ายเซลฟี่มีปรับบิวตี้ที่เลือกปรับแยกส่วนได้ พร้อมฟิลเตอร์ให้เลือกแต่งสีได้หลายแบบ
กล้องหลัง เป็นแบบ 4 เลนส์ ประกอบด้วย
- กล้องหลัก 64MP Sony IMX682 f/1.89 4-in-1 Super Pixel
- กล้อง Ultra-wide 13MP มุมกว้าง 119 องศา f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4 ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 ซม.
- กล้องวัดระยะ 2MP f/2.4
ตัวกล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX682 ถือว่าเป็นรุ่นที่ยอดนิยมและถ่ายรูปออกมาได้น่าดี ความละเอียดกล้องที่สูง ทำให้สามารถถ่ายภาพแล้วคมชัด กล้องมุมกว้างถือว่ามุมองศากว้างสำหรับช่วยการเก็บภาพมุมกว้างมากขึ้น หรือถ่ายในที่แคบได้ง่ายยิ่งขึ้น
กล้องมาโครความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มาช่วยในการถ่ายภาพในระยะที่ใกล้ๆ ได้ใกล้สุด 4 เซนติเมตร ส่วนกล้องวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล ก็เป็นตัวช่วยทำงานร่วมกับกล้องหลัก ในการวัดระยะถ่ายภาพ Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้ดี
กล้องวิดีโอนั้นถ่ายได้ความละเอียดสูงสุดที 4K 30fps มีฟีเจอร์อย่างเช่นใส่ Beauty ได้ และมีโหมด Track motion object แตะล็อคที่วัตถุแล้วถ่ายวิดีโอเพื่อกำหนดกรอบไว้ที่วัตถุนั้น และยังมีระบบช่วยลดการสั่นไหวในการถ่ายวิดีโอมาให้ด้วย
ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้องของ POCO X3 NFC
ภาพถ่าย Portrait ด้วยกล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล
ภาพถ่ายมุมกว้างแบบ Ultra-Wide 119 องศา
ภาพถ่ายในเวลากลางคืน เทียบกันระหว่างภาพถ่ายด้วยโหมดกล้องธรรมดา และโหมดกลางคืน
โหมดถ่ายกลางคืน เร่งความสว่างและลด noise ที่เกิดในภาพ
ถ่ายเซลฟี่เวลากลางคืน ให้ความสวยกระจ่างใส หน้าไม่มืด
นอกจากตัวสเปคของกล้องแล้ว สิ่งที่น่าประทับใจก็คือ ซอฟท์แวร์ในการปรับแต่งภาพของ MIUI 12 นั้น มีลูกเล่นที่แพรวพราวมากๆ คือถ้าไม่อยากจบหลังกล้อง ก็เอามาแต่งเพิ่มต่อได้อีก เพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามแตกต่างจากเดิม หรือมีสีสันแปลกใหม่ ให้คุณสร้างสรรค์ภาพถ่ายเดียวแต่ได้ออกมาหลายอารมณ์
ตัวอย่างแรกเป็นการปรับภาพ Portrait ที่เลือกปรับแสงแบบ Studio Light จำลองสภาพแสงได้หลายหลาก
การถ่ายภาพ Portrait นั้น ยังเลือกปรับระดับความเบลอของฉากหลังได้ โดยการจำลองค่ารูรับแสงให้เบลอมากเบลอน้อยได้ รวมถึงยังเลือก Light Trail
แต่ที่เด็ดก็คือตัวฟิลเตอร์ Portrait Color Focus ที่จะเปลี่ยนภาพถ่ายให้ฉากหลังเป็นสีขาวดำ และคนที่อยู่ในภาพจะยังมีสีสันสดใส เอาไว้ใช้เวลาที่ถ่ายมาแล้วอยากให้นางแบบมีความโดดเด่นมากขึ้น โดยที่ภาพที่เอามา Edit ได้นั้น เป็นภาพอะไรก็ได้ไม่จำเป็นว่าต้องถ่ายเป็น portrait หน้าชัดหลังเบลอ และ AI ก็วิเคราะห์พร้อมแยกแต่งภาพให้ได้เป็นอย่างดี
อีกฟีเจอร์แต่งภาพที่แนะนำคอ Sky เป็นการใช้ความสามารถของ AI ระดับสูง แต่งภาพถ่ายที่มีท้องฟ้า โดยจับเอาเมฆและโทนแสงสีที่แตกต่างกันไปมาแทนท้องฟ้าเดิม เหมาะสำหรับเวลาถ่ายวิวทิวทัศน์แล้วท้องฟ้าไม่สวย เราเอาแต่งใหม่ได้ง่ายๅ แถมยังปรับโทนสีของภาพให้เข้ากับท้องฟ้า ดูแล้วไม่หลอกตา
สรุป POCO X3 NFC ราคา เริ่มต้นที่ 6,999 บาท คุ้มจริงมั้ย? น่าใช้หรือเปล่า?
POCO X3 NFC มีเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยกัน 2 รุ่นด้วยกันคือ ความจุ 6GB+64GB อยู่ที่ 6,999 บาท และรุ่น 6GB+128GB ที่ ราคา 7,999 บาท เทียบกับเสปคที่ได้แล้ว ถือว่าได้เยอะเกินราคามาหลายจุดมากๆ ตัวชิปเซ็ต Snapdragon 732G รุ่นใหม่ ใส่ระบบช่วยระบายความร้อนเพิ่มเข้ามา ให้หน้าจอขนาดใหญ่ที่รีเฟรชเรตถึง 120Hz พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ยักษ์อลังการมากๆ 5160 mAh พร้อมระบบชาร์จไว 33W
เรื่องถ่ายภาพสเปคนี้ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้น่าพอใจ กล้องหน้าเซลฟี่อาจจะมีเรื่องความคมชัดในบางที่อย่างการถ่ายเวลากลางคืนที่ยังเก็บรายละเอียดได้ไม่ดีนัก ส่วนกล้องหลัง 4 ตัวทำงานได้ค่อนข้างดีทีเดียวเลย และซอฟ์ทแวร์แต่งภาพที่ลูกเล่นแต่งได้สนุกมาก
แน่นอนว่าเทียบราคาแล้ว นี่ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่ามากๆ กับค่าตัว แต่ก็ต้องบอกว่ามันไม่ได้เป็น Flagship Killer ดังนั้นการทำราคาลงมาได้ต่ำขนาดนี้ โดยที่สเปคได้ดี ก็มีสิ่งที่ต้องแลกกันมาหลายสิ่ง อย่างเช่น ความหนาและน้ำหนักของเครื่องที่ค่อนข้างมากทั้งๆ ที่เป็นเครื่องวัสดุพลาสติก หน้าจอที่เป็น LCD ไม่ได้เป็น AMOLED ดังนั้นเรื่องสีสันและความชัดเวลาดูกลางแดดจะด้อยกว่า และยังมีเรื่องของโฆษณาที่มีติดอยู่ในหลายๆ แอปที่ใช้งานในเครื่อง
สรุปแล้ว POCO X3 NFC ส่วนตัวเราแนะนำให้จัดตัว 8GB+128GB ไปเลย เพราะ ROM 64GB ยุคนี้ใช้ไม่นานก็เต็มแล้ว ใครที่เป็นสายเล่นเกม ชอบแบตฯ อึดๆ หน้าจอลื่นปื้ดๆ ตัวนี้ในงบประมาณที่ไม่สูงมาก ถือว่าครบเครื่องน่าใช้อย่างแน่นอน
สเปค POCO X3 NFC
- ขนาด 165.3 x 76.8 มิลลิเมตร หนา 9.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 215 กรัม
- มีให้เลือก 2 สี Shadow Gray และ Cobalt Blue
- กระจกด้านหน้า 2.5D Gorilla Glass 5
- เฟรมเครื่องและฝาด้านหลัง วัสดุเป็นโพลีคาโบเนต ดีไซน์แบบ 3D Curve
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง บริเวณปุ่ม Power
- กันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP53 ทดสอบโดย TÜV SÜD
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.67 นิ้ว FHD+ แบบ DotDisplay
- อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 2400×1080, 395ppi
- ค่ารีเฟรชหน้าจอ 120Hz ค่าความไวต่อการตอบสนองสัมผัส 240Hz
- หน้าจอผ่านการรับรอง ปล่อยคลื่นแสงสีฟ้าต่ำ จาก TÜV Rheinland
- Color gamut: NTSC 84% (typ), DCI-P3 87.4% รองรับ HDR10
- ชิปเซ็ต Qualcomm® SnapdragonTM 732G ระบบประมวลผล Kyro™ 470 Octa-core 2.3 GHz
- GPU Adreno 618
- มีระบบช่วยระบายความร้อน LiquidCool 1.0 Plus ด้วยฮีทไปป์ทองแดง + กราไฟต์
- RAM 6GB (LPDDR4X)
- หน่วยความจำภายใน 64GB / 128GB (UFS 2.1)
- รองรับ 2 ซิม (Nano SIM) dual standby
- ระบบปฏิบัติการ MIUI 12 for POCO พื้นฐานบน Android 10
- กล้องหน้า 20MP f/2.2 4-in-1 Super Pixel
- กล้องหลัง 4 เลนส์
- กล้องหลัก 64MP Sony IMX682 f/1.89 4-in-1 Super Pixel
- กล้อง Ultra-wide 13MP มุมกว้าง 119 องศา f/2.2
- กล้อง Macro 2MP f/2.4 ระยะโฟกัสใกล้สุด 4 ซม.
- กล้องวัดระยะ 2MP f/2.4
- แบตเตอรี่ 5160 mAh รองรับชาร์จเร็ว 33W ชาร์จเต็มได้ภายในเวลา 65 นาที
- เชื่อมต่อ Wi-Fi 5, Bluetooth 5, NFC
- ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C , พอร์ตหูฟัง 3.5 มม.
