รีวิว Razer BlackShark V2 X หูฟังสำหรับสายเกมมิ่ง ช่วยให้คุณเพลิดเพลินเล่นเกมสนุกแบบที่คุณไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ด้วยวิศวกรรมเสียงที่ล้ำสมัย รวมพลังของไดรเวอร์ 3 ตัวไว้ใน หนึ่งเดียว ออกแบบมาเพื่อปรับความถี่เสียงสูงกลางและต่ำแยกกันด้วยไดรเวอร์ Razer TriForce ขนาดใหญ่ 50 มม. แถมน้ำหนักเบา สวมใส่สบายอีกด้วย วางจำหน่ายในประเทศไทยด้วย ราคา 2.290 บาท
สำหรับ Razer นั้น เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับแบรนด์นี้ ในเรื่องของเทคโนโลยีอุปกรณ์สายเกมมิ่งที่มักจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่มาให้เราได้ตื่นเต้นตลอดเวลา สำหรับวันนี้เรามาทำความรู้จักกับหูฟัง Razer BlackShark V2 X รุ่นนี้ได้รับการอัพเกรดด้วยตัวไดอะแฟรมที่เคลือบไททาเนียม ช่วยเพิ่มความชัดเจนให้กับทุกเสียงที่คุณได้ยิน มีความแข็งและแรงขึ้นเพื่อการสะท้อนที่ดีขึ้นตอบสนองที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และการสร้างเสียงที่แม่นยำ ตามมาด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่มีน้ำหนักเบานุ่มสบายหูใส่ได้ต่อเนื่องยาวๆ จะตีป้อม ตีมอน เก็บเวล หรือดูหนังฟังเพลงก็ได้ตามใจเลยจร้า
แกะกล่อง รีวิว Razer BlackShark V2 X
มาดูกันเลยดีกว่า ว่าในกล่องนั้นเขาให้อะไรมาบ้าง
- หูฟัง Razer BlackShark V2X
- สายสำหรับต่อช่องไมโคโฟน
- ถุงสำหรับใส่หูฟัง Razer BlackShark V2X
- คู่มือการใช้งาน
ดีไซน์ Razer BlackShark V2X ที่มาพร้อมกับความสบายน้ำหนักเบา
สำหรับเจ้า Razer BlackShark V2X นั้น มีน้ำหนักที่เบาเพียง 240 กรัม ถือว่าเป็นน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา สำหรับหูฟังในรูปแบบ Over-Ear สวมใส่แบบครอบหัว ชุดหูฟังให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยส่วนแผ่นรองส่วนครอบด้านบนหัวที่หนาขึ้น พร้อมทั้งใช้ฟองน้ำรองหูฟังแบบเมมโมรี่โฟม ปรับปรุงใหม่ห่อด้วยผ้าระบายอากาศและหนังเทียมดูดีมีสไตล์ เหมาะสำหรับเราชาวเกมมิ่งทั้งหลายสายอุปกรณ์ดีเด่น โดยที่แถบคาดหัวนั้น ใส่โลโก้ของ Razer เอาไว้ด้วย ดูสวยเด่นเป็นสง่า
ที่เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอีกจุด ก็คือการออกแบบของเหล็กยึด 2 ขาซ้ายขวา เป็นการเชื่อมตัว Headband กับหูฟังทำให้เราปรับขนาดให้เข้ากับขนาดศีรษะของเราได้อย่างพอดี ไม่รู้สึกอึดอัดหรือแน่นและหนักจนเกินไป และรวมไปถึงตัวสายหูฟังที่อยู่ด้านนอกทำให้ปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย
สำหรับตัวบอดี้ของ Razer BlackShark V2X นั้น แน่นอนว่าต้องเป็นสีดำอยู่แล้วดูดุดัน ยิ่งตัดกับสีเขียวสดสะท้อนแสง สีอันเป็นสัญลักษณ์ของ Razer ในส่วนของสาย เป็นดีไซน์ที่ทำให้ความรู้สึกดุดัน ไม่น่าเบื่อ สวยงามน่าใช้ โดยที่ตัวสายนั้นมีขนาดความยาวกำลังดี และตัวสายเป็นแบบแบบพลาสติกสีด้าน ที่ดีในเรื่องความยืดหยุ่น และผิวสัมผัสที่ดี
สำหรับไมโครโฟนนั้นรุ่นนี้จะไม่สามารถถอดดออกมาได้ เวลาที่เราไม่ได้ใช้งานแล้วนั้นเราก็สามารถเก็บพับขึ้นไปได้ไม่แกะกะเวลาที่ไม่ใช้งาน โดยตัวก้านของมันจะดัดได้ ถ้าจะใช้ก็แค่ดัดลงมาเท่านั้นเอง
ข้างๆ กับตัวไมโครโฟน เราจะเห็นปุ่มที่ปรับ Volume สำหรับปรับระดับความดังเสียงขณะที่ใช้งาน เลือกปรับโดยหมุนซ้ายขวาได้เลย ตำแหน่งของปุ่มปรับใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย ถัดไปข้างๆ จะเป็นตัวเปิด-ปิดไมโครโฟน เวลาที่เราไม่ต้องการใช้งานเสียงไมค์พูด และที่ตัวหูฟังทั้ง 2 ข้าง จะมีสัญลักษณ์ของ Razer อยู่ด้วย
การรองรับการใช้งาน ที่ตัวแจ็คเสียบเป็นแบบ 3.5mm ทำให้สามารถใช้งานเพื่อเล่นเกมได้สารพัดรูปแบบ ไม่ใช่แค่เล่นกับเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows PC ยังสามารถใช้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้ง PS4, Xbox One, Nintendo Switch หรือจะเป็นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ฯลฯ ที่มีช่องเสียบแบบ 3.5mm
และในกล่อง ยังมีเพิ่มอุปกรณ์เข้ามาก็คือ สายสำหรับแยกหัวออกเป็นสายหูฟังกับไมโครโฟน สำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์แบบแยกเสียงซาวด์การ์ด ที่จะให้คุณภาพของเสียงและไมค์แยกได้ดียิ่งขึ้น
มาลองใช้งานกันเลยดีกว่า ว่าเจ้า Razer BlackShark V2X จะทรงพลังแค่ไหน
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า รุ่นนี้ได้รับการอัพเกรดด้วยไดอะแฟรมเคลือบไททาเนียม ช่วยเพิ่มความชัดเจนช่วยในเรื่องการตอบสนองของเสียงได้ดีขึ้น เนื่องจากไดรเวอร์สามารถเน้นเสียงเบส เสียงกลาง และเสียงแหลม แยกกันได้ จึงไม่ได้จำกัดไว้อยู่ในแค่ช่วงใดช่วงหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากการออกแบบหูฟังทั่วไป หมายความว่าคุณภาพเสียงของแต่ละย่านความถี่จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงการปรับคลื่นความถี่แบบเน้นเฉพาะจุดยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงความเบี่ยงเบนของระดับเสียงที่ลดลง ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับเสียงที่สม่ำเสมอมากขึ้นโดยไม่ทำให้เสียงกระเพื่อมหรือแหลม ซึ่งอาจทำให้โทนเสียงทื่อหรือเกินจริงมากขึ้น
มาตรฐานของระบบเสียงนั้น สามารถรองรับได้ถึงระดับ 7.1 Surround Sound ที่ให้ความสมจริงของเสียงที่มีมิติรอบด้าน โดยฟีเจอร์นี้จะรองรับการใช้งานเฉพาะบน Windows 10 64-bit
สำหรับเสียงของไมโครโฟน
Razer BlackShark V2X นั้นออกแบบด้วยเทคโนโลยี Razer HyperClear Cardioid Mic ที่มีระยะการเก็บเสียงระยะใกล้ เน้นที่เสียงพูดจากปากของเรา และมีระบบ Noise Cancellation ที่ลดเสียงรบกวนรอบข้างของเรา พร้อมทั้งรองรับการใช้งานกับโปรแกรม Razer Synapse 3 ถือว่า นี่เป็นเทคโนโลยีไมโครโฟนที่ Razer พัฒนามาอย่างดี ทำให้ในระหว่างการเล่นเกม ที่ต้องอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบ เสียงพูดคุยกับเพื่อนร่วมทีมก็ยังให้ความคมชัดดีด้วยเช่นกัน
สรุปสุดท้ายกับ รีวิว หูฟัง Razer BlackShark V2 X อีกสักครั้งแบบคร่าวๆ ถือว่าควรค่าแต่การใช้งานและมีไว้ครอบครองจริงๆ ด้วยการออกแบบดีไซน์ใหม่ให้มีการใช้งานที่ง่ายยิ่งขึ้น สะดวกสบาย ปรับเข้ากับระดับศีรษะของเราได้ ความนุ่มของตัวบอดี้ก็ช่วยทำให้เราไม่อึดอัดเมื่อสวมใส่ไปนานๆ ไม่เจ็บหู ไม่ปวดร้าวทรมานใจ จะเล่นเกมหรือดูหนังก็ได้ทั้งนั้น และที่สำคัญด้วยน้ำหนักเบาเพียง 240 กรัม ไม่หนักไม่ถ่วงใสแล้วไม่เมื้อยคอที่นี้ก็พร้อมทั้งศึกเล็ก ศึกใหญ่ สมรภูมิไหนก็ไม่หวั่นกันเลยจร้า
ส่วนราคานั้น ก็ไม่แพงอย่างที่คิดนะ อยู่ที่ 2,290 บาท ถือว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งแบบครอบหัวที่น่าสนใจ สนใจดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.razer.com
ข้อมูลสเปค: Headphones
- Frequency response: 12Hz – 28KHz
- Impedance: 32 Ω @ 1KHz
- Sensitivity (@ 1KHz): 100dBSPL/mW,1KHz
- Drivers: Customized Dynamic 50mm Driver
- Inner ear cup diameter: 63 mm x 43 mm / 2.48 in x 1.69 in
- Connection type: Analog 3.5mm
- Cable length: 1.3 m / 4.27 ft.
- Approx. weight: 240 g / 0.53 lbs
- Oval ear cushions: Breathable memory foam cushions
ข้อมูลสเปค: Microphone
- Frequency response: 100Hz – 10KHz
- Signal-to-noise ratio: 60dB
- Sensitivity (@1 kHz): -42dB V/Pa,1KHz
- Pick-up pattern: Unidirectional
- On-earcup controls:
- Volume up and down
- Mic mute on/off toggle
- Audio Usage:
- Audio Usage: Devices with 3.5 mm audio jack
- Surround sound: Only available on Windows 10 64-bit