การ์ดจอ Nvidia RTX 3080 ขาดตลาด คนไปขายต่อใน eBay ราคา 2 ล้านกว่าบาท

หลังจากที่การ์ดจอ RTX 3080 ของ Nvidia วางขาย และได้รับความนิยมสูงมากจนขายหมดเกลี้ยงไปทุกที่ จนทำให้เกิดการนำไปขายต่อ แน่นอนว่าหนึ่งในแพลตฟอร์มที่มีการนำการ์ดจอ RTX 3080 ลงขายและประมูลก็คือ eBay ล่าสุด มีผู้ลงขายการ์ดจอ RTX 3080 ใน eBay ราคา 70,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.177 ล้าน !!!

Nvidia RTX 3080 eBay ราคา
จากรูป เป็นราคาลงขายตอนเริ่มที่ 50,000 ดอลลาร์ แต่ราคาจบจริงๆ ที่ 70,000 ดอลลาร์ โดย Gizmodo เป็นผู้ที่เก็บภาพเอาไว้ได้

นอกจากนี้ บัญชีทวิตเตอร์ของ Nvidia ยังเต็มไปด้วยความเห็นจากผู้ใช้งานเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาไม่ได้รับอีเมลแจ้งเตือนให้ซื้อการ์ดจอ RTX 3080 ทันเวลา มีผู้ใช้งานบางคนที่กดเข้าไปซื้อได้จริง แต่เมื่อกดไปที่ปุ่มซื้อเขากลับได้รับข้อความป๊อปอัพขึ้นมาว่า ‘สินค้าหมดแล้ว’ ผู้ใช้งานทวิตเตอร์บางรายอ้างว่า พาร์ทเนอร์ของ Nvidia ก็ไม่ได้ส่งอีเมลแจ้งเตือนไปยังลูกค้าของพวกเขาเช่นกัน

มีผู้ใช้งาน Reddit โพสต์วิดีโอและอธิบายว่า เขายังไม่เคยเห็นแม้แต่ปุ่มให้กดซื้อในหน้าขายการ์ดจอบนเว็บไซต์ของ Nvidia เลยด้วยซ้ำ ในวิดีโอจะเห็นว่าเบราเซอร์ทางขวามือจะ auto refresh ไม่กี่วินาที หลังจากรีเฟรชเสร็จ ปุ่ม ‘notify me’ หายไปแล้วเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘out of stock’ หลังจากนั้นมีผู้ใช้งาน Reddit หลายคนที่โดนแบบนั้นเหมือนกัน

หลังจากนั้นทาง Gizmodo ลองทำการซื้อบนเว็บของ Nvidia แล้วพบว่าการ์ดจอ RTX 3080 founders edition หลังจากนั้นก็ไล่ตรวจสอบหาร้านค้าพาร์ทเนอร์ว่าร้านไหนที่ยังเหลือสินค้าอยู่บ้าง ระบบได้ redirect ไปยัง Newegg และ Best Buy หลังจากนั้นทั้ง 2 ร้านต่างก็แจ้งว่า RTX 3080 หมดเกลี้ยงแล้ว

นอกจากออนไลน์แล้ว มีผู้ที่ไปรอซื้อการ์ดจอ RTX 3080 ที่ไปต่อคิวซื้อออฟไลน์ที่ Micro Center ที่ Tustin รัฐแคลิฟอร์เนีย แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะมีผู้ใช้งาน Reddit โพสต์วิดีโอที่มีคนต่อคิวหน้า Micro Center แล้วทราบข้อมูลว่าที่นั่นมีการ์ดจอ RTX 3080 เพียง 85 ชิ้นในสต็อคเท่านั้น แต่จากวิดีโอมีผู้มาต่อคิว 100 กว่าคนในเวลานั้น

Nvidia ทราบถึงเรื่องที่การ์ดจอ RTX 3080 ถูกนำไปขายต่อใน ราคา ที่สูงกว่าราคาขายจริงอย่างมาก บริษัททราบดีว่าการ์ดจอรุ่นดังกล่าวมีความต้องการที่สูงมาก และบริษัทกำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มการ์ดจอดังกล่าวสู่ร้านค้า มีข้อมูลว่าเวลา 6 โมงเช้าที่แถบแปซิฟิก ยังมีร้านค้าปลีกรายใหญ่กว่า 50 ร้านที่ยังมีสินค้าอยู่ พร้อมทั้งได้ออกแถลงการณ์เพื่อขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว

ที่มา : Gizmodo

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)