สมาคมอุตสาหกรรมแผ่นเสียงแห่งอเมริกา เผยรายงานกลางปีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเพลงในสหรัฐฯ ที่น่าแปลกใจคือ ยอดขาย แผ่นเสียงแบบไวนิล ตอนนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ล่าสุดมียอดขายมากกว่า CD เพลงไปแล้ว
รายงานระบุว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1980 ที่แผ่นเสียงไวนิลมียอดขายสูงขนาดนี้ โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4% จากครึ่งแรกของปี 2019 เป็น 232 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 62% ของรายได้จริงในช่วง 6 เดือนแรกของปี แต่เทียบสัดส่วนตลาดของธุรกิจเพลงแล้ว มีส่วนแบ่งอยู่เพียงแค่ 4% เท่านั้น
ตลาดซื้อขายเพลงแบบแผ่น ในตลาดโดยรวมลดลงเหลือ 376 ล้านดอลลาร์ ลดลงถึง 23 % เมื่อเทียบปีต่อปี เหตุผลก็คือ พฤติกรรมของคนที่ไม่ไปร้านดนตรี, ศิลปินไม่จัดทัวร์คอนเสิร์ต (และไม่ขายซีดีในงานแสดง) ผู้คนนับล้านที่สูญเสียงานและงบประมาณด้านความบันเทิงท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 และแน่นอนว่า การเติบโตของบริการแบบสตรีมมิ่งจะเพิ่มมากขึ้น
บริการฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง ทำรายได้คิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของตลาด ขยายตัวเพิ่มจากปีก่อน ที่อยู่ที่ 79%
ไม่แปลกใจเลยที่การสมัครบริการฟังเพลงสตรีมมิ่งจะเพิ่มขึ้น อย่าง Spotify มีสมาชิกแบบพรีเมียมเพิ่มขึ้น 12 ล้านคนในช่วง 6 เดือน ทำยอดสมาชิกรวมกว่า 138 ล้านคนทั่วโลก นับสมาชิกสตรีมมิ่งแบบเสียเงินในสหรัฐฯ ตอนนี้เพิ่มขึ้น 24 % จากครึ่งแรกของปี 2019 มากกว่า 72 ล้านคน รายได้จากการสตรีมมิ่งทั้งหมดเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบรายปีคิดเป็น 4.8 พันล้านดอลลาร์
แต่ว่าการเติบโตรายได้โฆษณาภายในบริการสตรีมมิ่ง กลับชะลอตัวลง เหลือเพียง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นั่นแปลว่า บริการสตรีมมิ่งเริ่มมีรายได้การสมัครใช้งานแบบสมาชิกเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา engadget
