รีวิว Vivo Y20 น้องนุชสุดท้องรุ่นล่าสุด เปิดตัว ราคา 5,299 บาท ถึงจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ให้แบตฯ จุใจถึง 5,000 mAh ดีไซน์สวย พร้อมปุ่มสแกนลายนิ้วมือด้านข้างจับถนัดมือ และกล้องหลัง AI 3 เลนส์ เรียกว่าให้มาคุ้มราคาดีเลยทีเดียว
สเปค Vivo Y20
- ขนาด 164.41×76.32×8.41 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 192.3 กรัม
- หน้าจอ IPS ขนาด 6.51 นิ้ว 1600 x 720 (HD+)
- รองรับ 2 ซิม Dual Standby
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 460
- RAM 4GB
- หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f/1.8)
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล (f/2.2)
- กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล (f/2.4)
- เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz /5GHz
- Bluetooth 5.0
- พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB (USB 2.0)
- แบตเตอรี่ 5000 mAh
- มีให้เลือก 2 สี Nebula Blue / Dawn White
แกะกล่อง ลองสัมผัส Unbox + Hand-On
ตัวกล่องแพ็กเกจมาในสีแบบทูโทน ขาว-น้ำเงิน เรียบๆ แต่ดูดี ภายในมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ ทั้งเคสใสสำหรับใส่กันรอยเครื่อง, เข็มจิ้มถาดซิม, เอกสารคู่มือการใช้เบื้องต้น และการรับประกัน
ชุดอุปกรณ์ชาร์จไฟ ตัวสายให้มาเป็นหัวแบบ Micro USB และตัวอแดปเตอร์ชาร์จ กำลังจะอยู่ที่ 5V 2A
มาดูที่ตัวเครื่องกันบ้าง สำหรับ Vivo Y20 จะมีเข้ามาในประเทศไทย ให้เลือกกัน 2 สีคือ สีน้ำเงิน Nebula Blue ที่ได้แรงบันดาลใจสีสันมาจากห้วงจักรวาล เล่นระดับไลเฉดสีน้ำเงินและม่วง ให้อารมณ์ลึกลับชวนัน และตัวที่ทางทีมงานได้มา รีวิว จะเป็นสีขาว Dawn White ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น มีชีวิตชีวา เหมือนแสงสว่างที่ทอดผ่านมาในยามเช้า
ตัววัสดุนั้นใช้เป็นโพลีคาร์บอเนต ทำสีออกมาให้ดูพรีเมียมมีราคา อย่างฝาหลังนั้นของ Dawn White นั้นจะไม่ได้ขาวจั๊ว แต่เป็นเหลือบฟ้า ที่มีเหลือบแทบสีรุ้งเป็น Radiant พุ่งจากตัวหน้าจอ ทำให้ดูมีมิติเปลี่ยนไปตามแสงกระทบและมุมมอง ส่วนเฟรมเครื่องด้านข้าง ออกแบบให้มีความโค้งแบบ 2.5D ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล รับพอดีกับมือเวลาถือได้อย่างถนัด
ด้านหลังตัวเครื่องนั้น ตัวชุดโมดูลกล้องจะวางเรียงเป็นแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นดีไซน์แห่งปี 2020 ที่ Vivo ใช้กับสมาร์ตโฟนทุกรุ่นปีนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกล้องถ่ายภาพมากขึ้น โดยตัวเลนส์ 3 เลนส์จะวางเรียงกัน ประกอบด้วยเลนส์กล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล, กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล, กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล และมีไฟแฟลชแบบ LED ตัวโมดูลนั้นก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก และนูนขึ้นมาจากตัวฝาหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านข้างตัวเครื่องทางขวาจะเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power ที่ออกแบบมาให้เว้าลงไป เพราะใส่ตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ เพื่อใช้ปลดล็อคเครื่องได้ทันทีที่กดปุ่ม Power ภายในเวลาเพียงแค่ 0.33 วินาทีเท่านั้น
ส่วนทางซ้ายตัวเครื่องเป็นช่องถาดซิม เป็นแบบ Triple Tray รองรับใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 ซิม ใช้งานแบบ Dual-Standby และมีช่องสำหรับใส่ microSD รองรับความจุได้มาสุดที่ 256GB
ด้านล่างตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร, ช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อ+ชาร์จไฟแบบ Micro USB และช่องลำโพงเครื่อง
ด้านหน้าตัวเครื่อง หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.51 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 72) อัตราส่วน 20:9 ดีไซน์แบบ Halo FullView Display ให้พื้นที่ใหญ่เต็มตา โดยจะมีเว้นเว้าเข้ามาแบบหยดน้ำ สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และช่องลำโพงสนทนา
ตัวจอมีมุมมองที่กว้าง ใช้เทคโนโลยี In-Cell ทำให้จอ LCD ให้สีสันที่สวยงามสดใส คมชัด และแสดงรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังมีโหมดปกป้องสายตา ที่ช่วยกรองแสงสีฟ้าในระหว่างการใช้งานให้อีกด้วย
โดยรวมแล้วกับดีไซน์ของ Vivo Y20 ถือว่าสวยงามดีครับ วัสดุพลาสติกไม่ใช่ปัญหา เพราะมาโค้งมนและเล่นสีสันของฝาหลังที่มีมิติสะท้อนแสง ดูพรีเมี่ยมดีมากๆ ขนาดตัวเครื่องถือว่าไม่ได้เล็ก จอใหญ่ แต่ถือใช้ก็ไม่ได้เทอะทะมาก น้ำหนักเองก็อยู่ที่ไม่มากเกินไปเช่นกัน ถือถนัด เล่นเกมนานๆ ก็ไม่รู้สึกลำบากอะไร
สเปคภายใน และ ประสิทธิภาพ
ชิปเซ็ตของ Vivo Y20 ใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 460 เป็นชิปรุ่นระดับเริ่มต้นที่ค่อนข้างใหม่ ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดี RAM 4GB ถือว่ากำลังดีไม่น้อยเกินไปสำหรับสมาร์ตโฟนระดับนี้ มีพื้นที่ความจุภายในเครื่อง 64GB แบบ UFS 2.0 และยังเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD ได้อีก 256GB
แบตเตอรี่ คือไฮไลท์ของรุ่นนี้ ถูกใจใครที่ชอบสมาร์ตโฟนแบตอึดๆ เพราะ Vivo Y20 ใส่ให้มาแบบจุใจถึง 5,000 mAh ถ้าใช้งานทั่วไป อยู่ข้ามวันได้สบายๆ ตามสเปคแล้ว ชาร์จแบตเตอรี่เต็มๆ 1 ครั้ง ใช้ชมภาพยนตร์ความละเอียด HD ได้นานถึง 16 ชั่วโมง หรือเล่นเกมก็ได้นานถึง 11 ชั่วโมงกันไปเลย พร้อมทั้งยังมีระบบ Reverse Charging ที่เอาสายต่อแบบ OTG มาเสียบ เพื่อใช้ Vivo Y20 เป็น Power Bank จ่ายไฟเอาใช้มือถือเครื่องอื่น หรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วย (สาย OTG ต้องซื้อเพิ่มต่างหาก)
เรื่องการเล่นเกม ถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นราคาเบาๆ แต่ก็ยังให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีได้ เพราะว่า Vivo Y20 มีระบบ Ultra Game Mode 8.0 ที่พัฒนาฟีเจอร์ให้การเล่นเกมทำได้ดียิ่งขึ้น ตั้งแต่การจัดการด้านทรัพยากรในเครื่องให้พร้อมเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ได้อย่างไหลลื่น ปรับแต่งโหมดห้ามรบกวน ปัดการแจ้งเตือน สายเรียกเข้า และการรบกวนต่างๆ ออกไป เพื่อไม่ให้มาขัดจังหวะระหว่างที่เล่นเกม
มีระบบอัลบั้มเกม และการบันทึกหน้าจอ สามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียวบนแถบเลื่อนด้านข้างบนจอ โดยการบันทึกหน้าจอจะถูกจัดเก็บให้ในอัลบั้มเกมทันที
รวมถึงยังมีโหมดอื่นๆ สำหรับการเล่นเกมที่พัฒนามาจากความต้องการของผู้เล่น อย่าง Game Countdown โหมดนับเวลาถอยหลัง เพื่อให้คุณได้ไปอัพเดทโซเชียลอื่นๆ ก่อนการเริ่มเกม แล้วกดสลับกลับไปที่เกมได้เพียงคลิกเดียว และ 4D Game Vibration 2.0 ระบบสั่นในเกมเพิ่มความสมจริงระหว่างเล่น
จากที่ได้ทดสอบเล่นเกม ROV ปรับความละเอียดที่ระดับสุดเท่าที่ระบบอนุญาต พร้อมเปิดเล่นแบบ High Framerate เล่นแล้วถือว่าโอเคเลย เฟรมเรตในการเล่นนั้นอยู่ที่ 60fps มีแกว่งลงบ้างในเวลาที่มีตัวละครในฉากมากๆ แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีไม่รู้สึกขัดใจอะไร ตีป้อมกันเพลินๆ เพราะแบตที่ให้มา 5000 mAh นี่เหลือเฟือมาก และความร้อนระหว่างที่เล่นเกมก็ถือว่าค่อนข้างน้อยด้วยเช่นกัน
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ใน Vivo Y20
เห็นว่าเป็นน้องเล็กแต่อย่าคิดว่าไม่มีทีเด็ดอะไร Vivo Y20 ใช้ระบบปฏิบัติการเป็น Funtouch OS 10.5 (พื้นฐานบน Android 10) การทำงานต่างๆ ถือว่าลื่นไหลดี และยังมีฟีเจอร์การใช้งานที่ชาญฉลาด ช่วยทั้งการปรับแต่งระบบ และการทำงานหลายๆ อย่างได้สะดวกยิ่งขึ้น มีอะไรบ้าง ไปดูกัน
Dynamic Effect เลือกปรับแต่งเอฟเฟกต์ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ อนิเมชั่นตอนปลดล็อคหน้าจอ, เอฟเฟกต์จดจำใบหน้า ฯลฯ ให้เราปรับแต่งในแบบที่เราชอบได้
Face Wake ระบบการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่อง คือนอกจากจะมีระบบสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องตรงปุ่ม Power ด้านข้างแล้ว สำหรับใครที่อยากได้สะดวกๆ รวดเร็ว เราสามารถใช้โหมดนี้ ทำการสแกนลงทะเบียนใบหน้าของเราไว้ หลังจากนั้นเวลาจะใช้งาน หยิบเครื่องขึ้นมาปุ้บก็เข้าใช้งานได้เลย
Multi-Turbo 3.0 มาพร้อมด้วย Center Turbo ที่ช่วยปรับแต่งให้การเรียกใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ในเครื่องทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และมี AI Turbo ช่วยในเรื่องวิเคราะห์ปัญหาของระบบ ที่อาจจะมีแอพที่ทำให้ระบบของเครื่องช้าลง แล้ว AI จะจัดการปรับแต่งเพื่อให้ประสิทธิภาพการใช้งานดียิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องประสิทธิภาพการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สาย การระบายความร้อน เพื่อให้การเล่นเกมลื่นไหลดีขึ้นกว่าที่เคย
EasyShare ของดีที่คนใช้ Vivo รู้ดี เป็นระบบให้เราสามารถแชร์ไฟล์ไปยังสมาร์ตโฟนเครื่องอื่น หรือคอมพิวเตอร์ ที่ง่าย สะดวก และเร็วมากๆ เราแค่กดเลือกไฟล์ ถ้าเป็น Vivo ด้วยกัน ก็สั่งโยนไปยังเครื่องอื่นได้เลย ถ้าเป็นเครื่องยี่ห้ออื่นก็ลงแอพ EasyShare ก่อนก็รับได้แล้ว ส่วนถ้าต้องการโยนไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็แค่เข้าหน้าเว็บ vs.vivo.com สแกนคิวอาร์โค้ด ก็โยนไฟล์เข้าเครื่องคอมได้เลย เป็นอะไรที่สะดวกมากๆ ไม่ต้องต่อสาย USB ให้วุ่นวาย
กล้องถ่ายภาพ
เรื่องถ่ายภาพ บอกเลยว่าไม่ใช่ธรรมดา กล้องของ Vivo Y20 กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/1.8 ถือว่าค่อนข้างกว้างทำให้เวลาถ่ายในที่แสงน้อยยังเก็บรายละเอียดได้ดี ส่วนกล้องหลังจัดเซ็ตมาเป็นแบบ Triple Camera 3 ตัว เริ่มด้วยกล้องหลัก 13 ล้านพิกเซล (f/2.2), กล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) และ กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล (f/2.4) สเปคถือว่าอยู่ระดับกลางๆ แต่ทำงานและลองใช้จริงแล้ว ก็สามารถถ่ายภาพออกมาได้ดี
กล้องหน้าเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล มีลูกเล่นฟิลเตอร์หลากสีสันหลากอารมณ์ให้เลือกเยอะถึง 18 แบบ มี HDR ช่วยเวลาถ่ายเซลฟี่ย้อนแสงที่ยังให้ความสว่างชัดทั้งใบหน้าและฉากหลัง และแน่นอนว่า มีโหมด Beauty ที่ปรับแต่งความสวยงามได้แบบเป็นธรรมชาติ และเลือกปรับได้อย่างละเอียด ทั้งความนวลของผิว, โทนสี, ปรับผิวขาว, หน้าเรียว, ปรับรูปหน้า, ลดกราม, ตาโต ฯลฯ เรียกว่าไม่ต้องถึงมือหมอ ก็เซลฟี่หล่อสวยกันได้
เซลฟี่ในร่ม มีแสงจากด้านหลัง ก็ยังหน้าสว่างชัด เซลฟี่เก็บรายละเอียดได้ชัดทั้งใบหน้าและฉากหลัง Beauty Mode ช่วยจัดการปรับแต่งส่วนต่างๆ ของใบหน้าได้อย่างที่ต้องการ กล้องหน้ามี HDR ถ่ายเซลฟี่ย้อนแสง เก็บชัดทั้งท้องฟ้า ฉากหลัง และนางแบบ
การเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าของ Vivo Y20 เลือกได้ทั้งแบบปกติ แล้วยังปรับเลนส์ใช้เป็นโบเก้ เพื่อละลายฉากหลังให้เบลอแบบหน้าชัดหลังตื้น (ถ่ายเสร็จมาปรับโฟกัสเองเพิ่มได้ด้วย) หรือจะเข้าโหมดพาโนราม่า ถ่ายเซลฟี่แบบมุมกว้างด้วยการบิดข้อมือก็ช่วยให้เก็บภาพถ่ายได้หลายคน และเก็บวิวทิศทัศน์มาได้ด้วย
มาดูกันต่อที่กล้องหลังกันบ้าง เซ็ตอัพกล้องของ Vivo Y20 เป็นแบบ 3 เลนส์ มีโหมดมาให้ทั้ง พาโนราม่า, Portrait, ภาพถ่ายปกติ, วิดีโอ, ถ่าย Live Photo, วิดีโอ Slo-mo, Timelapse, โหมดโปร และโหมดถ่ายเอกสาร
เลนส์กล้องสำหรับการถ่ายด้วยกล้องหลัง นอกจากมุมมองปกติที่เลือกซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุด 4x จะมีเลนส์โบเก้ สำหรับถ่ายแบบภาพหน้าชัดหลังเบลอ และเลนส์ซูเปอร์มาโคร ใช้ถ่ายวัตถุในระยะใกล้ได้สุงสุดถึง 4 เซนติเมตร
ถ่ายภาพ Portrait บุคคล ลูกเล่นมาครบเหมือนกล้องหน้า ทั้งฟิลเตอร์และบิวตี้ แต่จะได้เรื่องความคมชัดมากขึ้น เพราะถ่ายได้ที่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น ถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p และจะมีเลือกเปิดบิวตี้สำหรับการถ่ายวิดีโอได้ด้วย (แต่จะเลือกได้สูงสุดที่ 720p)
รวมๆ แล้ว กล้องที่ให้มาถือว่าไม่ขี้เหร่เลย ถ่ายเซลฟี่ ถ่าย Portrait มาได้สวยๆ เอาไว้โพสต์โชว์โลกโซเชียลได้แบบไม่อายใคร แถมในตัวซอฟท์แวร์ Gallery ของ Vivo Y20 ยังมีตัวแก้ไขให้ปรับแต่งภาพเพิ่มเติมได้อีก จะแต่งบิวตี้เพิ่มก็ได้ มี AI Make Up ที่ฉลาดไปอีก เลือกแต่งหน้าเสริมเติมลิป, ปัดแก้ม หรือเขียนคิวเพิ่มให้ได้ และยังมีปรับรูปร่างสัดส่วนยืดขา ปรับเอว สะโพก บอกเลยว่าสาวๆ หลงรักฟีเจอร์ปรับแต่งพวกนี้แน่นอน
ภาพถ่ายต้นฉบับ 
เข้า AI Beauty ปรับแต่งใบหน้าเพิ่มได้ ปรับสัดส่วน เปลี่ยนสีลิป ปัดแก้ม ทำได้ สวยเป๊ะยิ่งกว่าเดิม
ประสบการณ์หลังทดสอบใช้งาน
Vivo Y20 ด้วยความเป็นรุ่นเล็กสุดในกลุ่ม Entry Level ณ เวลานี้ ถือว่าทำสเปคมาได้น่าสนใจ ให้ความสำคัญกับฟีเจอร์หลักที่คนซื้อสมาร์ตโฟนกลุ่มนี้ต้องการ ก็คือ หน้าจอที่ใหญ่ ดีไซน์สวย แบตเตอรี่ที่เยอะใช้งานไ้ด้เต็มๆ วัน ใช้งานง่าย และกล้องที่ถ่ายสวย ซึ่งทั้งหมดนี้ Vivo Y20 มีให้ครบเลย
หน้าจอนั้นใหญ่เต็มตา ดูหนังดูซีรี่ย์ เล่นเกมได้สบาย แบตเตอรี่ 5,000 mAh เป็นความจุขนาดใหญ่ที่ใช้ได้เต็มวันได้สบายๆ การใส่สแกนลายนิ้วมือมาให้ที่ปุ่ม Power ด้านข้างเครื่อง ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกตอนปลดล็อค และทำให้ด้านหลังเครื่องเรียบๆ สวยๆ เพราะไม่ต้องเอาเซ็นเซอร์สแกนมาไว้ด้านหลัง ดีไซน์จึงดูเรียบหรูดูแพงได้ดีจริงๆ
กล้องหน้าเซลฟี่ ถือว่าทำได้ดีระดับหน้าพอใจ ความละเอียดอาจจะไม่ได้มาก แต่ก็ได้ภาพสวยหน้าใสถูกใจสาวๆ กล้องหลัง 3 ตัวทำให้ถ่ายภาพเอฟเฟกค์แบบโบเก้ละลายหลังได้สวยงาม และมีเลนส์มาโครเอาไว้ถ่ายภาพวัตถุเล็กๆ ได้ด้วย รวมถึงตัวซอฟท์แวร์แต่งภาพใน Funtouch OS ยังมีความหลากหลาย ทำให้ได้ภาพที่สวยอย่างที่ต้องการ
เล่นเกมมีระบบช่วยปรับแต่งให้เล่นเกมได้ลื่นไหล ROV วิ่ง 60fps ในระดับ HD การเชื่อมต่อ Wi-Fi มีให้ทั้ง 2.4 GHz และ 5Ghz ทำให้ใช้เครือข่ายในความเร็วที่ดียิ่งขึ้น อันนี้ชอบครับ เพราะบางทีรุ่นที่เป็น Entry Level ชอบมีแอบกั๊กให้มาแค่ 2.4GHz เพียงอย่างเดียว
ส่วนที่ต้องสังเกตคือ ตัวพอร์ตเชื่อมต่อนั้น ใช้เป็น Micro USB ตรงนี้แอบเสียดายถ้าเป็น USB-C จะดีมากๆ แล้วก็ส่วนของแถมในกล่องนั้น ไม่มีหูฟังมาให้นะ ต้องหาเพิ่มเอง
ทีมงานล้ำหน้าฯ ขอจบ รีวิว Vivo Y20 ถือว่าเป็นรุ่นเล็กที่น่าสนใจ ในกลุ่มสมาร์ตโฟน ราคา งบประมาณ 5,000 บาท ด้วยค่าตัวของ Vivo Y20 อยู่ที่ 5,299 บาท ถือว่าคุ้มค่าใช้ได้ กับสเปคและสิ่งที่ได้มา พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้าน Vivo Brand Shop และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และสามารถติดตามรายละเอียดสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่จาก Vivo ได้ที่ https://www.facebook.com/VivoThailand
