Intel มุ่งพัฒนาโปรเซสเซอร์เพื่อการเล่นเกมที่ดีขึ้น ยืนยัน Rocket Lake เปิดตัวไตรมาสแรก ปี 2021

Intel พัฒนาโปรเซสเซอร์เพื่อมอบสุดยอดประสบการณ์การเล่นเกมให้กับผู้เล่น พร้อมยืนยัน Intel Core 11th Gen “Rocket Lake” จะเปิดตัวไตรมาสแรกปี 2021

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าผู้คนรอบตัว ไม่ว่าจะเพื่อนๆ หรือว่าครอบครัว ต่างเริ่มหันมาเล่นเกมเพื่อความบันเทิงมากขึ้น โดยเกมบนพีซีมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีความหลากหลายที่มากขึ้น ในขณะที่คุณภาพของทั้งฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ในปัจจุบันก็มีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

John Bonini รองประธานและผู้จัดการทั่วไปของแผนก Client Computing Group Desktop, Workstations and Gaming ของ Intel เขียนบทความเอาไว้บท medium.com ว่า เกมถือเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของ Intel ไปแล้ว โดยทาง Intel ได้ออกโปรเซสเซอร์ตั้งแต่ช่วงยุค 90 อย่าง Intel Pentium มาจนถึงโปรเซสเซอร์เดสก์ท็อป Intel Core S-Series 10th Gen ในปัจจุบัน

Intel มีความตั้งใจที่จะมอบฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพสำหรับเกมเมอร์ เพื่อให้สามารถเล่นเกมได้อย่างล้ำหน้าและมีประสิทธิภาพ และให้พีซีของคุณเป็นเครื่องที่เหมาะสมกับการเล่นเกมมากที่สุด

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีของ Intel ที่ได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่เกมระดับโลก โดยมีส่วนร่วมในการช่วยดูขั้นตอนการพัฒนา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในคุณสมบัติใหม่ๆ และรองรับความเสถียรก่อนจะเปิดตัวให้ใช้งานจริง สำหรับความร่วมมือระดับโลก อย่างเช่น

  • ร่วมมือกับ Epic เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมบนเทคโนโลยีของ Intel สำหรับเกมที่ใช้ Unreal Engine
  • ร่วมมือกับ IO Interactive A/S มากว่า 10 ปีสำหรับเกม Hitman
  • ร่วมมือกับ SEGA Creative Assembly สำหรับเกม Total War ซีรี่ส์
  • ร่วมมือกับนักพัฒนาเกมระดับโลก เช่น Bandai Namco , EA , Activision Blizzard , Ubisoft , NCSoft , Krafton (PUBG) , Tencent และ NetEase เป็นต้น

นอกจากจะทำงานร่วมกับนักพัฒนาเกมและผู้เผยแพร่เกมระดับโลกแล้ว Intel ยังทำงานร่วมกับวิศวกรเกมหลังจากมีการเปิดตัวเกม เพื่อช่วยกันปรับแต่งประสบการณ์การเล่นเกมอย่างต่อเนื่องโดยช่วยให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างลื่นไหลและเสถียรที่สุด

Crystal Dynamics Square Enix Marvel’s Avengers

ตัวอย่างของความร่วมมือล่าสุด เป็นการร่วมมือกับทาง Crystal Dynamics กับ Square Enix เพื่อช่วยกันพัฒนาเกม Marvel’s Avengers โดยทีมงานของ Intel ทำงานกับ Crystal Dynamics อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้ประสบการณ์ตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ที่สมบูรณ์มาสู่เกมพีซี และวิศวกรของ Intel ยังมีส่วนช่วยนักพัฒนาเกมในการสร้างภาพและเอฟเฟต์พิเศษที่มีรายละเอียด เพื่อประสบการณ์การรับชมที่ให้ความสมจริง และการตอบสนองที่สมจริง เพื่อความเพลิดเพลินของผู้เล่นเกมทุกคน

ตัวอย่างผลงานล่าสุดของ Intel มีดังนี้

Microsoft Flight Simulator 2020 ช่วยในการติดตั้ง Software Masked Occlusion Culling โดยจะเรนเดอร์และแสดงผลเฉพาะพิกเซลและวัตถุที่สร้างขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผู้เล่นสามารถมองเห็นได้ โดยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุงโซลูชั่นกราฟิกในตัว เช่น 11th Gen Tiger Lake

Microsoft Gears Tactics โดยจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับ The Coalition สำหรับ Gears Tactics เพื่อซัพพอร์ตการปรับใช้ของ Variable Rate Shading (VRS) และปรับปรุงในส่วนของ Asynchronous Compute โดย VRS จะช่วยลดความซับซ้อนของพิกเซลของฉาก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ Gear Tactics โดยไม่เสียความเที่ยงตรงของภาพไป ส่วน Asynchronous Compute จะช่วยให้ปริมาณงานกราฟิกบางอย่างทำงานควบคู่กันได้ ทำให้เกมสามารถดำเนินส่วนที่เป็น back-end กราฟิกได้มากขึ้น เพื่อช่วยให้เซสชั่นการทำงานนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น

SEGA Creative Assembly A Total War Saga: Troy เป็นการทำงานของ Intel ร่วมกับ Creative Assembly เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเล่นเกม และความสมจริง ด้วยความถี่ที่สูงและจำนวนคอร์ที่มีอยู่ในโปรเซสเซอร์ Intel Core 10th Gen เพื่อให้เอฟเฟกต์ด้านสิ่งแวดล้อมของตัวเกม เช่น ระบบหญ้าและน้ำ ดูมีความลึก สมจริง และซับซ้อนมากขึ้น

Intel Rocket Lake

นี่เป็นเหตุผลที่ Intel ตื่นเต้นกับโปรเซสเซอร์ตัวล่าสุดอย่าง Intel 10th Gen ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ เนื่องจากมันสามารถให้ความถี่สูงสุดเพื่อปลดล็อคศักยภาพในการเล่นเกมสูงสุดได้ อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมทุกแบบ ไม่ว่าจะเล่นแบบสบายๆ สนุกๆ หรือจะผู้เล่นระดับมืออาชีพ

ทั้งนี้ ความถี่ของโปรเซสเซอร์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา เนื่องจากแอปยอดนิยมและเกมที่ต้องใช้ประสิทธิภาพสูงจำนวนมากปรับขนาดด้วยความถี่ โปรเซสเซอร์รุ่นปัจจุบันของ Intel ที่นำโดยตัว Core i9 – 10900K บนเดสก์ท็อป และ Core i9-10980HK บนมือถือ ประสบความสำเร็จในระดับ 5.3 GHz ซึ่งถือเป็นผู้นำของอุตสาหกรรม

และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ ทาง Intel ได้พัฒนาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น Turbo Boost Max Technology 3.0 และ Thermal Velocity Boost ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นนักโอเวอร์คล็อกที่ชอบปรับแต่งระบบของตัวเองใน BIOS หรือใช้ซอร์ฟแวร์พิเศษจาก Intel เช่น Intel Performance Maximizer (IPM) หรือ Xtreme Tuning Utility โดยที่ Intel ยังคงให้บริการแก่ชาวโอเวอร์คล็อกด้วยการมอบตัวเลือกความถี่และความยืดหยุ่นสูงสุด ตัวอย่างเช่น Allen ‘Splave’ Golibersuch บันทึกประสบการณ์ของเขาในการโอเวอร์คล็อก Core i9-10900K ด้วยไนโตรเจนเหลว ทำได้ถึง 7 GHz ถือเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งมากๆ

John Bonini ยืนยันว่าเดสก์ท็อปโปรเซสเซอร์รุ่นต่อไปอย่าง Intel Core 11th Gen ใช้ code name ว่า Rocket Lake จะเปิดตัวช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 และจะซัพพอร์ต PCle 4.0 ซึ่งมันจะเป็นโปรเซสเซอร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม สำหรับรายละเอียด รอติดตามทาง Intel ไว้ได้เลย

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)