รีวิว SKYWORTH SUC7500 Android TV 10 รุ่นแรก ราคาเริ่มต้น 15,990 บาท

27 ตุลาคม 2020

รีวิว SKYWORTH SUC7500 สมาร์ททีวีซีรี่ย์ใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่เร็วสุด แรงสุด ด้วยชิปประมวลผลด้านภาพอัจฉริยะรุ่นใหม่ Chameleon Extreme 2.0 AIPQ Engine เอกสิทธิ์เฉพาะของ SKYWORTH สวยสะกดสายตาด้วยดีไซน์ไร้ขอบอินฟินิทสกรีน

ยี่ห้อนี้อาจจะใหม่สำหรับเรา แต่จริงๆ แล้วเขาได้เข้ามาขายในประเทศไทยนานแล้วนี้คือ TV ยี่ห้อ SKYWORTH รุ่น SUC7500 รุ่นนี้มีความเป็น Android TV เวอร์ชั่นใหม่สุดและยังมีระบบ AI ช่วยประมวลผลภาพด้วย ดีไซน์สวยน่าสนใจมาก ซึ่งทางแบรนด์ได้บอกกับเราว่าเป็นการดีไซน์แบบไร้ขอบ เรามาดูกันว่าจะไร้ขอบจริงหรือเปล่า จะเห็นเลยว่าไร้ขอบจริงๆ จากขอบจอใช้เพียง 1 มิลิเมตร กลายเป็นขอบเครื่องไปลย สุดยอดไร้ขอบจริงๆตัวเครื่องนั้นบาง ขอบบางอย่างที่ทางแบรนด์ได้บอกกับเรามาเลย SKYWORTH เขาบอกว่าการออกแบบนี้เรียกว่า Infinity Screen เป็นจอที่ออกแบบมาได้บางมากๆ สามารถใช้คำว่าไร้ขอบได้หเลย TV รุ่นนี้น่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่มั้ย เราไปทำความรู้จักกันเลย

SKYWORTH รุ่น SUC7500

ตัวที่เรานำมารีวิวนั้นคือ SKYWORTH SUC7500 ขนาด 55 นิ้ว เป็นจอ IPS ความละเอียด 4K ที่มีแพงไฟ Black light ด้านหลังแบบไดเรค เขามีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ภาพสว่าง สีสันสดใส เหมือนจอ OLED ด้วยชิพประมวลผล Chameleon Extreme 2.0 ระบบ AIPQ Engine ซึ่งเป็น AI คลาวด์เบส ซึ่งจะมีข้อมูลหรือดาต้าจำนวนมหาศาลบนคลาวด์เป็นคลังความรู้ให้กับ AI ในเครื่องนี้

AI ทำอะไรได้บ้างมาดูกัน

เรื่องแรกเลยก็คือ Dynamic Restoration คือเทคนิคในการปรับปรุงคุณภาพในส่วนที่ขาดหายไป อย่างเช่นเวลาที่เราเล่นไฟล์เก่า หรือภาพยนต์คลาสสิคเก่าจะเกิดสัญญาณรบกวนขึ้นตามจุดต่างๆ ของภาพ ซึ่งเทคนิคก็คือ อัลกอริทึม AIPQ ของ SKYWORTH เขาจะเปรียบเทียบภาพกับข้อมูลที่อยู่บนคราวด์แล้วเติมรายละเอียดส่วนที่ขาดหายไปให้ภาพนั้นมีความสมบรูณ์มากยิ่งขึ้

ระบบภาพ PureHDR คือความสามารถในการรองรับ HDR10+ ช่วยให้ภาพมีสีสันสดใสเฉลี่ยแสงในส่วนมืด ส่วนสว่างได้ดีมาก

เวลาที่เราดูคลิปที่มีความเคลื่อนไหวเร็วๆ ฟังชั่น S-Motion ก็จะเติมเฟรมให้ภาพเคลื่อนไหวเหล่านั้นดู Smooth มากยิ่งขึ้น

Contrast Enhardment

Contrast คือค่าความต่างของแสงที่เกิดขึ้นในภาพ ตัวอัลกอริทึม AIPQ Engine ที่อยู่ในชิป Chameleon Extreme 2.0 ตัวนี้เขาจะทำการแยกภาพออกเป็น 2304 ขอบเขต แต่ละขอบเขตจะใช้ซอฟแวร์ควบคุมความสว่างและความคมชัดทำให้ภาพที่ได้นั้นคมและลึกมากยิ่งขึ้น

จากการที่ได้ลองใช้ TV รุ่นนี้มาสักระยะนึงเราจะเริ่มจับวิธีการทำงานของ AI ได้ คือเวลาเราเปิดคลิปหรือเปิดหนังหรืออะไรก็แล้วแต่ ภาพที่ขึ้นมาตอนแรกจะเป็นภาพแบบธรรมดาๆ พอผ่านไปสัก 4-5 วินาที ภาพจะคมชัด สีจะค่อยๆ สดขึ้นเรื่อยๆ และปรับ Contrast จัดขึ้นเรื่อยๆ นั่นล่ะ AI มันเริ่มทำงานแล้ว

จอภาพ TV สมัยใหม่มีทั้งความสว่างและสีสันที่สดมากๆ ความสดของสีสันจะมีปัญหากับสีผิวของนักแสดงที่อยู่ในจอ ถ้าไม่เหลืองเกินไปก็อมแดงจนดูไม่เป็นธรรมชาติเลย SKYWORTH เขามีฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Skin Color Adjustment โดยใช้ความสามารถของชิป Chameleon Extreme 2.0 ทำการเปรียบเทียบภาพกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ และทำการปรับสีผิวของคนที่อยู่ในภาพให้ดูเป็นธรรมชาติและสมจริงมากยิ่งขึ้น

สังเกตจากสีนักแสดงของเราสีผิวจะดูเนื้อๆ เรื่อยๆ อมชมพูเล็กน้อย ดูสม จริงมาก

ระบบเสียง Dolby Audio และ DTS TruSurround

SKYWORTH รองรับระบบเสียง Dolby Audio และ DTS TruSurround จำลองระบบเสียงรอบทิศทางถือเป็นลำโพงติด TV ที่สามารถสร้างเสียงเซอร์ราวด์ได้ดีอีกตัวนึงเลย

คนที่ชอบดู YouTube ถ้าเป็น TV ยี่ห้ออื่นๆ เราจะเจอปัญหานึงที่เหมือนกันนั้นก็คือเรากำลังดูคลิปอยู่และจะมีโฆษณาแทรกเข้ามา เสียงโฆษณาจะดังกระแทกขึ้นมากเลยเราจะตกใจทุกครั้งแต่ SKYWORTH เขามีฟังก์ชั่นที่ชื่อว่า Wonder Audio Live เขาจะทำการเกลี่ยเสียงหรือปรับระดับ หรือเรียกว่า Normalization ทำให้เสียงทุกเสียงที่จะแสดงบนจอนั้นค่อยๆ ไล่ระดับ ไม่กระแทก ไม่กระชากขึ้นมา ช่วยให้เราไม่ตกใจด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวไปเป็นจุดเด่นของข้อดีของข้อแรก นั้นก็คือความสามารถของ ชิป Chameleon Extreme 2.0 ต่อมาเรามาดูจุดเด่นอย่างที่ 2 นั้นก็คือ

สมาร์ท TV ที่ใช้ระบบ Android 10

Android 10 ถือเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด ถึงแม้ว่า Android 11 จะ release ออกมาแล้วเมื่อเดือนกันยายน แต่ยังไม่มีใครเอาไปใช้ เพระาฉะนั้นถือว่าตอนนี้ Android 10 เป็นรุ่นล่าสุดแล้ว เมื่อเราลองไปเช็คดูแล้ว TV ยี่ห้ออื่นๆ ที่แพงกว่ารุ่นนี้บางรุ่นยังใช้ Android 8 อยู่เลย

ข้อดีของการใช้ TV Android 10 เวอร์ชั่นใหม่ นั้นก็คือจะตอบสนองได้อย่างฉับไวทำงานเร็วกว่าเดิม รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ รองรับ Codec ใหม่ๆ Codec ก็คือตัวถอดรหัสภาพและเสียงซึ่ง SKYWORTH TV ตัวนี้ใช้ TV Android 10 ก็จะรองรับ Codec ที่ชื่อว่า AV1 เป็นตัวถอดรหัสภาพและเสียงที่บริษัทชั้นนำทั่วโลกร่วมกันสร้างขึ้นมา มีใครบ้าง ก็จะมี Amazon, Cisco, Google ก็คือ YouTube, Microsoft, Mozilla, Netflix บริการต่างๆ ที่เราดูอยู่ในตอนนี้อย่างเช่น YouTube ก็ใช้ Codec ของ AV1 Netflix ก็ใช้ Codec ของ AV1 ถ้า TV เครื่องนี้รองรับ AV1 ก็แสดงว่าสามารถแสดงผลได้เลยโดยที่ไม่ต้องแปลงระบบเลยก็จะได้ภาพและเสียงที่เป็นแบบเดียวกันกับต้นฉบับเลย และนี้ก็คือข้อดี

พอเป็น Android TV เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็จะรองรับเทคโนโลยีเวอร์ชั่นใหม่ๆ อย่าง Bluetooth dual mode อย่างเช่นโทรศัพย์มือถือทุกวันนี้สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ได้ 2 ตัว SKYWORTH TV ตัวนี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth ได้ 2 อย่าง เช่นกัน ถ้าเรามี Soundbar เราก็ต่อ Bluetooth กับ Soundbar เป็นแบบไร้สาย จากนั้นเราก็ต่อ Bluetooth กับมือถือ เราก็จะสามารถเล่นเพลงจากมือถือของเราไปดังที่ลำโพง Soundbar ได้เลย

Remote Control ของ SKYWORTH TV

ยังมีข้อดีอีกหลายจุดสำหรับ SKYWORTH TV เริ่มจาก Remote Control ซึ่งเขามีปุ่ม Direct access เพียงแต่เรากดปุ่มเพียงครั้งเดียวแแล้วเข้า Application ที่เราเข้าบ่อยๆ ได้เลย มีอยู่ 4 ปุ่มด้วยกันก็คือ Netflix, Amazon Prime Video, YouTube, Google Play กดครั้งเดียวเข้า Application ได้เลยไม่เสียเวลา แล้วเห็นปุ่มสีขาวๆ ด้านล่างนั้นมั้ย? อันนี้คือ Google Assistant สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้เลย

แล้ว Google Assistant ก็รองรับภาษาไทยด้วย เพราะฉะนั้นเราอยากดูอะไร เราพูดเลย แล้วเดี๋ยวเขาจะรับฟังเราอย่างแม่นยำ แล้วจะไปค้นหาสิ่งเหล่านั้นมาให้เราดูได้โดยง่าย หรือถ้าบ้านไหนมีการติดตั้งระบบ IOT เอาไว้เราก็สามารถสั่งงานผ่าน Google Assistant บนหน้าจอ TV นี้ได้เลย เปิด-ปิดไฟ เปิด-ปิดอุปกรณ์ก็ทำได้

และปัญหาโลกแตกของทุกบ้านที่ต้องพบเจอก็คือ การทำ Remote TV หาย แล้วก็ไม่รู้จะควบคุมสั่งงาน TV ได้อย่างไร แต่ถ้าเป็น SKYWORTH TV ตัวนี้ สามารถใช้มือถือโดยการลง Application ควบคุมการทำงานผ่านมือถือแทน Remote TV ได้เลย ก็คือบนตัว TV เขาจะมี Application ตัวนึงก็คือ icastingTV ให้เรา

ดาวน์โหลด Application ที่ชื่อว่า casplay สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android จากเราจะสามารถใช้งานแทน Remote Control ได้ ใช้เพิ่มหรือลดเสียงได้ สามารถส่งสัญญาณภาพต่างๆ ได้ อย่างเช่น ส่งรูปขึ้นไปบนจอทีวีได้ด้วย จะดูรูป ดู Video ต่างๆ Cas หน้าจอขึ้นไปบน TV หรือจะเล่นเกมบนมือถือผ่านทางหน้าจอบน TV ก็ได้เจ๋งมากๆ

Keyboard ของ SKYWORTH TV

อีกเรื่องนึงก็คือเรื่องของ Keyboard ก็คือ Smart tv ส่วนใหญ่จะมี Keyboard อยู่ภาษาเดียวคือภาษาอังกฤษ เวลาที่เราจะค้นหา Content ภาษาไทยก็ค่อนข้างรำบากยุ่งยาก แต่ SKYWORTH TV นั้นมี Application ตัวนึงที่ชื่อว่า LeanKey Keyboard เราสามารถลง Keyboard ภาษาไทย เพิ่งไปได้ คราวนี้เราก็จะมี 2 ภาษาเลย ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย อยากจะค้นหาอะไรก็สบายเลยที่นี้

Browser ของ SKYWORTH TV

Android TV ส่วนใหญ่ไม่มี Browser มาให้ เราก็ต้องไปดาวน์โหลดใน Google pay และ Browserที่เราดาวน์โหลดมานั้นส่วนใหญ่จะใช้ยากและก็แถมยังมี Pup up โฆษณา ขึ้นมาเต็มไปหมด แต่ใน SKYWORTH TV มี Application ตัวนึงพรีโหลดมาให้เลยนั่นก็คือ QJYBrowser เป็น Browser แบบ Clean ใช้งานได้ง่ายๆ สบายๆ และก็ไม่มี โฆษณา ให้หงุดหงิดอารมณ์แต่อย่างใด

Game mode SKYWORTH TV

ใน SKYWORTH TV จะมี Port HDMI เป็นเวอร์ชั่น 2.0 และก็มี Game mode ปรับค่า Latency ของการต่อเครื่องเกม Console อย่าง Paystation ให้เราเล่นกมแล้วไม่ดีเลย์

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ SKYWORTH TV รุ่น SUC7500 ตัวนี้ที่น่าสนใจมากเลยทั้งดีไซน์สวย จอบางมากๆ ภาพก็สีสันสดใส ระบบเสียงก็ดี แถมยังมีระบบ Android TV เวอร์ชั้น 10 ซึ่งมีความสามารถเยอะแยะมากมาย อยากทราบราคากันแแล้วใช่มั้ย สำหรับรุ่น SUC7500 ตัวนี้ เขามีหลายขนาดให้เลือก

ขนาดหน้าจอ 50 นิ้ว 15,990 บาท
ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว 19,990 บาท
ขนาดหน้าจอ 65 นิ้ว 25,990 บาท

คุ้มค่ามากๆ เลยถ้าเราดูจากราคาเทียบกับสิ่งที่เราได้ และเราจะตัดสินใจง่ายขึ้นไปอีกขั้นเพราะสิ่งที่เราจะได้อีกอย่างนึงก็คือ เขารับประกันยาวนานถึง 3 ปีเต็ม และเป็นการรับประกันแบบทุกชิ้นส่วนของตัวทีวี รับรองไม่มีดอกจันทร์เล็กๆ มาหมกเม็ดกันว่ารับประกันจอแค่นี้แค่นั้น ไม่เลยทุกชิ้นส่วนรับประกัน 3 ปีเต็ม