เข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 OPPO ลั่นกลองรบ ส่ง สมาร์ทโฟน 5G ลงตลาดประเทศไทย พร้อมกัน 3 รุ่น OPPO Reno4 Z, Reno4 Pro และ Find X2 Pro พร้อมให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 5G ที่พร้อมใช้ได้จริงในไทยแล้ว โดยมีให้เลือกได้ครบทุกกลุ่มราคา ให้คุณเลือกใช้ได้เหมาะกับสไตล์ของคุณ
Unbox OPPO 5G Now
ทางออปโป้ได้ส่งกล่องแพ็กเกจพิเศษมาให้กับทางทีมงานล้ำหน้าฯ ที่อยู่ในกล่องนี้คือ 3 มือถือ 5G รุ่นใหม่ที่เปิดตัวพร้อมขายในไทยแล้ว (แน่นอนว่ากล่องใหญ่อันนี้ไม่มีขายนะ)
เปิดกล่องมาจะพบกับคำว่า “Your 5G Experience Starts Here” แปลตรงๆ ก็คือ “ประสบการณ์ 5G ของคุณ เริ่มต้นที่นี่แล้ว” ซึ่งในกล่องก็จะมี OPPO Reno4 Z 5G, Reno4 Pro 5G และ Find X2 Pro 5G วางเรียงอยู่ อย่างที่บอกว่าในการเปิดตัวครั้งนี้ OPPO ส่ง มือถือ 5G พร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น โดยมีครบอยู่ในทุก Segment ราคา ตั้งแต่ระดับกลางที่เน้นราคาคุ้มค่าแค่หมื่นต้นๆ, ระดับ Mid-range Premium และระดับแฟลกชิพเรือธงที่ดีที่สุด
เรามาไล่ดูกันแต่ละรุ่นกันเลยดีกว่าว่าแต่ละตัวมีจุดเด่นอะไรบ้าง และรุ่นไหนที่จะเหมาะสำหรับคุณ
OPPO Reno4 Z 5G : ราคาหมื่นต้นๆ ก็ได้ประสบการณ์ 5G แล้ว
รุ่นนี้ถือว่าเปิดราคามาค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากๆ เพราะอยู่ที่ 12,990 บาท เท่านั้น ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ของ OPPO ที่มีราคาถูกที่สุดในตอนนี้ ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถได้ประสบการณ์ 5G ในราคาเครื่องที่คุ้มที่สุด โดยยังได้เรื่องของดีไซน์เครื่องสวย ประสิทธิภาพการใช้งานที่ลื่นไหล และมั่นใจกับเรื่องกล้องที่ถ่ายได้สวยอย่างไม่ผิดหวัง
จุดเด่นหลักของ OPPO Reno4 Z 5G นอกจากเรื่องของ ราคา แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องพูดถึง อย่างแรกก็คือ ตัวนี้ใช้ชิปเซ็ตเป็น Dimensity 800 5G Octa-Core (7nm) ของ MediaTek ถือว่านี่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เข้ามาจำหน่ายในไทย ที่ใช้ชิปในตระกูล Dimensity ให้มาพร้อมกับ RAM ถึง 8GB และความจุภายใน 128GB สเปคนี้ถือว่าใช้งานลื่นไหลหายห่วง ทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม
ข้อดีจากที่ใช้เป็นชิป Dimensity 800 5G ก็คือ รองรับการเชื่อมต่สัญญาณแบบ Dual-mode ใช้ได้ทั้ง SA และ NSA ช่วยให้จัดระเบียบการใช้พลังงานได้ดี และพร้อมใช้งานในไทยได้ทันทีตั้งแต่แกะกล่องไม่ต้องรออัปเดต
หน้าจอก็ถือว่าไม่ธรรมดาเช่นกัน เป็นแบบ IPS ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แถมยังมากับรีเฟรชเรตสูงถึง 120Hz Silky Display แน่นอนว่าใช้งานให้ความรู้สึกลื่นไหลยิ่งขึ้น และเล่นเกมที่รองรับเฟรมเรตสูงๆ ได้อีกด้วย
แบตเตอรี่ มีมาให้ 4000 mAh ขนาดถือว่าใหญ่ความจุกำลังดี มีระบบชาร์จเร็วที่ 18W มาให้ด้วยช่วยให้เติมแบตเตอรี่ให้เต็มได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
ดีไซน์ของตัวเครื่อง ดูเรียบหรูตามสไตล์ของออปโป้ ฝาหลังเป็นสีเรียบแบบผิวด้าน ที่มีการไล่เฉดสีสวยงาม มีให้เลือก 2 สี Ink Black, Dew White การที่เลือกเป็นพื้นผิวด้านก็ดีตรงที่จับแล้วเกิดรอยนิ้วมือได้ยาก ส่วนการวางเรียงชุดโมดูลกล้องก็จัดวาง 4 เลนส์ได้อย่างสวยงามลงตัว โดยมีไฟแฟลชอยู่ตรงกลาง ส่วนด้านข้างตัวเครื่องปุ่ม Power จะรวมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ และพอร์ตเชื่อมต่อจะเป็น USB-C และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วย
กล้องหลัง 4 เลนส์ ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP (f/1.7) กล้องมุมกว้าง Ultra Wide 8MP (f/2.2), กล้องมาโคร 2MP (f/2.4) และกล้องวัดระยะ 2MP (f/2.4) ส่วนกล้องหน้า ก็จัดมาให้เป็นแบบคู่ 16+2MP ทำให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยงามมีมิติมากขึ้น
โดยรวมกับสเปค เมื่อเทียบกับราคาแล้ว OPPO Reno4 Z 5G ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่อยากจะเปลี่ยน สมาร์ทโฟน เครื่งอใหม่ เพื่อพร้อมใช้งาน 5G กับราคาเปิดตัว 12,990 บาท ถึอว่าคุ้มมาก มีของสมนาคุณ บัตร E-VIP และ OPPO Gift Set มูลค่ารวม 6,699 บาท (ของมีจำนวนจำกัด)
OPPO Reno4 Pro 5G : สมาร์ทโฟน 5G ที่ดีเด่นเรื่องถ่ายวิดีโออย่างเหนือชั้น
เรียกว่าเป็นรุ่นที่อัปเกรดความสามารถจาก Reno4 ทั้งสเปคและประสิทธิภาพต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของการถ่ายวิดีโอนั้น จัดลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้คุณถ่ายวิดีโอได้อย่างครบครันยิ่งกว่า
ก่อนอื่นพูดกันถึงเรื่องของดีไซน์กันก่อน ยังคงโดดเด่นในเรื่องน้ำหนักเครื่องที่เบาเพียง 172 กรัมเท่านั้น และเครื่องก็มีความบางเฉียบ 7.6 มิลลิเมตร ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางและเบา พกพาสะดวกถือสบายมากๆ และขอบเครื่องเป็นโลหะที่มีความโค้งมน แต่ตัดเหลี่ยมให้ดูมีสไตล์สวยงาม
การเล่นสีสันของฝาหลัง ยังคงสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยการทำสีแบบด้านที่มีรายละเอียดเป็นมิติสัมผัสแบบผิวทราย รุ่นนี้มีลูกเล่นกับข้อความ Reno Glow อันเป็นชื่อเทคนิคการทำสีแบบใหม่ เป็นตัวอักษรที่เป็นเงาวับ บนพื้นหลังที่เป็นสีด้าน ตัดกันอย่างสวยงามลงตัว
ด้านหน้าตัวจอเป็น AMOLED โค้งแบบ 3D ใหญ่เต็มตา 6.5 นิ้ว ไหลลื่นด้วยค่ารีเฟรชเรต 90Hz โดยจะมีตำแหน่งเว้นช่องแบบ Punch-Hole สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 32 พิกเซล หน้าจอแบบนี้ทำให้ได้ความรู้สึกที่สวยพรีเมียมยิ่งขึ้น แถมตัวลำโพงที่ให้มาในรุ่นนี้ก็เป็นแบบสเตอริโอคู่อีกด้วย และที่หน้าจอยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ Hidden Fingerprint Unlock ที่สแกนลายนิ้วมือได้รวดเร็วและปลอดภัย
ตัวกล้องหลังเป็นแบบ 3 เลนส์ที่มีระบบโฟกัสด้วยแสงเลเซอร์ (LDAF) ที่มีความแม่นยำรวดเร็วและทำงานได้เที่ยงตรงแม้ว่าจะอยู่สภาพกลางแจ้งหรือว่าที่มืดสนิท โดยกล้องทั้ง 3 ตัวจะประกอบด้วย
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.7
- กล้องเทเล 13 ล้านพิกเซล f/2.4 ซูมออพติคอล 2x
- กล้อง Ultra Wide-angle f/2.2
จุดเด่นเรื่องกล้องของ OPPO Reno4 Pro 5G คือการถ่ายวิดีโอ ที่มีความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ดียิ่งขึ้น ที่ล่าสุดสามารถถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนหรือแสงน้อยได้สวยคมชัด แบบมุมกว้าง Ultra Night Wide-angle Video และยังมีระบบลดการสั่นไหวในการถ่ายวิดีโอที่ดีมากๆ เหมาะสำหรับเอาไว้ใช้เป็นกล้องถ่าย VLOG เก็บภาพวิดีโอเพื่อเล่าเรื่องราวได้สนุกยิ่งกว่าเดิม
สเปคภายในรุ่นนี้ใช้เป็น Snapdragon 765G Octa-Core (7nm) ใส่ RAM มาให้ถึง 12GB และหน่วยความจำภายใน 256GB เป็นสเปคที่หลายห่วงทั้งเรื่องการใช้งานหนักๆ การเล่นเกม, ดูหนัง ดูคลิป เล่นโซเชียล ฯลฯ ได้แบบไม่ต้องกังวลอะไร
แบตเตอรี่ความจุ 4000 mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 ที่สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% ได้ภายในเวลาเพียง 36 นาทีเท่านั้น
OPPO Reno4 Pro 5G ราคา เปิดตัวที่ 24,990 บาท โปรโมชั่นตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน รับของแถมเป็นบัตร E-VIP Card รับประกันจอแตก และหูฟัง OPPO Enco M31 รวมมูลค่า 10,699 บาท
OPPO Find X2 Pro 5G: Green Vegan Leather Edition
สมาร์ทโฟนระดับแฟล็กชิพแห่งปีของทาง OPPO ที่เรียกว่าเป็นรุ่นที่สร้างความประทับใจตั้งแต่การดีไซน์ที่พรีเมี่ยม และประสิทธิภาพที่อัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยแบบเต็มเปี่ยม ครั้งนี้มากับเครื่องสีใหม่ Green Vegan Leather Edition สีเขียวนวลนุ่มละมุน
เอกลักษณ์ของ OPPO Find X2 Pro คือตัวฝาหลังที่ใช้วัสดุเป็นหนังเทียมแบบไมโครไฟเบอร์ที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล พรอมกับสีเขียวพาสเทลชวนหลงไหล โดยที่ขอบเครื่องที่เป็นโลหะก็จะเป็นสีเขียวแบบเคลือบด้านเข้ากับตัวฝาหลัง ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยมที่ดูดีมากๆ
อย่างที่บอกไปว่ารุ่นนี้คือเรือธงตัวท็อปของ OPPO ที่จัดของเด็ดของดีเอาไว้เต็มเอียด เริ่มกันตั้งแต่หน้าจอแบบ 120Hz ที่มีคุณสมบัติเรื่องการแสดงสีแบบ 10bit ให้สีได้มากกว่าพันล้านสี ความละเอียดก็สูงถึงระดับ QHD+ ให้ความรู้สึกไหลลื่นและคมชัดสวยงาม
หน้าจอนั้นเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว แบบขอบโค้ง เพื่อความสวยงามและโอบรับกับตัวเครื่องช่วยให้ถือจับได้ถนัดมากขึ้น ที่มุมด้านบนจะเว้นช่องแบบ Punch-Hole สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบซ่อนหน้าจอด้วย
กล้องหลังเป็นแบบ 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ Sony IMX689 ทำงานร่วมกับกล้องเลนส์มุมกว้าง Ultra Wide Angle ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล และกล้องซูม Periscope 13 ล้านพิกเซล ที่ซูมได้ไกลสูงสุดถึง 60x
สเปคภายใน มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 865 หน่วยความจำภายใน 512GB และ RAM 12GB เร็วแรงแบบไม่ต้องสืบ เรื่องของพลังงานใส่ระบบชาร์จเร็ว 65W SuperVOOC 2.0 กับแบตเตอรี่ 4260 mAh
โดยการเชื่อมต่อ 5G ของ OPPO Find X2 Pro 5G สามารถใช้งานได้แล้ว ผ่านการอัปเดตเป็น Android 11 เวอร์ชั่น Beta (สามารถอัปเดตได้ผ่านทาง OTA)
OPPO Find X2 Pro 5G สีใหม่ Green Vegan Leather Edition วางจำหน่ายในราคาเท่าเดิม 40,990 บาท พิเศษมีรับพิเศษ บัตร E-VIP และ OPPO Enco Free ชุดชาร์จ VOOC ในรถมูลค่ารวม 15,739 บาท
และนี่คือ 3 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นใหม่จาก OPPO ที่พร้อมแล้วสำหรับคนไทย ที่จะได้เปิดประสบการณ์ท่องโลกผ่านมือถือที่เร็วแรงกว่าที่เคยสัมผัสมา ให้ทุกการเชื่อมต่อไม่มีสะดุด ไม่ว่าไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็จะได้ความเร็วที่คุณจะต้องประทับใจ
มือถือ ทั้ง 3 รุ่น OPPO Reno4 Z 5G, OPPO Reno4 Pro 5G และ OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition เป็นตัวเลือกที่ให้ทุกคนเข้าถึงได้ในทุกช่วงราคา ยิ่งถ้าซื้อเป็นแพ็กเกจโปรโมชั่นร่วมกับโอเปอเรเตอร์ ทั้ง AIS, Truemove H และ Dtac จะได้รับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก ได้เครื่องในราคาสุดคุ้ม พร้อมใช้ 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
