เอ็มพูร่า เผยธุรกิจโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยมาจากโควิด-19เปลี่ยนวิถีชีวิตคน ผสานบริการ 5G เตรียมเดินหน้าเล็งพัฒนาเซอร์วิส เจาะกลุ่มลูกค้า B2Cและ B2B ส่งเซอร์วิสแรก “สมาร์ทโฮม” จับกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ พร้อมเปิดตัว“มอร์ฟัน แอพพลิเคชัน”(MoreFun Application) แพลตฟอร์มอัจฉริยะ
นายณัฏฐ์ณภัทร อาศิรวาทวณิชย์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ็มพูร่า จำกัด (EMPURA) ผู้นำนวัตกรรมInternet of Things(IoT)เปิดเผยว่า “ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีความสัมพันธ์กับชีวิตประจำวันของมนุษย์มากขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ผู้ประกอบการหันมาให้ความสำคัญกับการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์สินค้าและบริการไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้าน ที่ทำงาน รวมถึงแกดเจ็ตเทคโนโลยีต่างๆ อีกทั้งประเทศไทยเปิดใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต5G ที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นประเทศแรกในอาเซียนและยังมีแผนส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G ของประเทศ ให้ครอบคลุมร้อยละ 98ของประชากรภายในปี 2570เพื่อนำประโยชน์จากเทคโนโลยีมาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คนหันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวทั้งเพื่อการทำงานและการอยู่อาศัย ส่งผลให้ธุรกิจ IoT มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เฉพาะภายในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงหลายประเทศทั่วโลก จากข้อมูลInternational Data Corporation (IDC) คาดการณ์เกี่ยวกับตัวเลขของธุรกิจ Internet of Things (IoT) ทั่วโลกว่า จะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเติบโตอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2021ด้วยมูลค่าการลงทุนทั่วโลกกว่า 47.5ล้านล้านบาท ในภาคอุตสาหกรรม ภาคการขนส่ง สาธารณูปโภค และตลาดคอนซูเมอร์ (Consumer)
โดย เอ็มพูร่าผู้นำนวัตกรรม IoTที่ให้บริการครบวงจรเจ้าแรกของประเทศไทย ได้เล็งเห็นช่องว่างทางการตลาดของอุตสาหกรรมIoT ในประเทศไทย อีกทั้งการเติบโตของตลาดโลก จึงได้เตรียมสร้างสมาร์ทเซอร์วิสแบบครบวงจร เจาะกลุ่มตลาด B2Cและ B2Bประเดิมเซอร์วิสแรก“บ้านอัจฉริยะ” (Smart Home) สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลและกลุ่มโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยจะให้บริการตั้งแต่การวางระบบIoT ให้เหมาะกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า การออกแบบดีไซน์ฟังก์ชั่นการใช้งานให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัย รวมไปถึงการเป็นผู้จัดจำหน่าย (Distributor) ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ทั้งนี้ลูกค้าสามารถดูการออกแบบผ่าน VR Solution ก่อนลงมือสร้างจริงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ยังได้พัฒนา“มอร์ฟัน แอพพลิเคชัน”แพลตฟอร์มอัจฉริยะ ซึ่งถูกพัฒนาให้เป็น All in One application แบ่งการใช้งานออกเป็นSmart HomeServiceสำหรับการสั่งงานและควบคุมฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในบ้าน และShopping Serviceการช้อปปิ้งออนไลน์สำหรับสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีจากแบรนด์อื่นๆ มากมาย โดยจะเปิดให้ใช้งานแอพลิเคชันในช่วง ปี2021
ล่าสุด เอ็มพูร่าได้เข้าร่วมในงาน COMMART Thailand 2020 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29พฤศจิกายน 2563 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา โดยจำลองการทำงานของระบบ IoT ภายในบ้านอัจฉริยะเต็มรูปแบบ บนเนื้อที่กว่า 500 ตารางเมตร พร้อมชูไฮไลท์ระบบสั่งงานบนมอร์ฟัน แอพลิเคชัน ครั้งแรกบนเครือข่าย 5G ที่มีประสิทธิภาพของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผู้มีโครงข่ายครอบคลุมมากที่สุดใน 77จังหวัดทั่วประเทศไทย พร้อมการสาธิตบริการด้านธุรกิจ Real Estate แห่งโลกอนาคต ผ่าน VR Solution ตอบรับสถานการณ์โควิด ลดการใช้ชีวิตอยู่ในที่สาธารณะ หรือสถานที่ที่มีปริมาณผู้คนจำนวนมาก และเพื่อความประหยัดเวลาในการเดินทาง โดยลูกค้าสามารถรับชมคอนโดมิเนียมพร้อมรูปแบบห้องที่ต้องการได้แบบเสมือนไปสถานที่จริง และร่วมช้อปผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีจาก บริษัท เอ็มพูร่า จำกัด