Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐอเมริกาเผยว่าการทดลองวัคซีนต้านไวรัส COVID-19 ในเฟสที่ 3 ของบริษัทพบว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโคโรน่าได้มากถึง 94%
Stephane Bancel ซีอีโอของ Moderna กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ผลการทดสอบวัคซีนของบริษัทในขั้นต้นให้ประสิทธิภาพที่สูงถึง 94% ในการยับยั้งเชื้อ COVID-19 โดยเขามองผลลัพท์จะเข้ามาช่วยพลิกสถานการณ์ในปัจจุบันให้ดีขึ้น
ทางบริษัท Moderna ได้ร่วมกับสภาบันวิจัยโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Institute of Allergy and Infectious Diseases) เพื่อพัฒนาวัคซีนโดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ 30,000 คน โดยอาสาสมัครจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ครึ่งหนึ่งจะได้รับวัคซีนปริมาณ 2 โดส ในระยะเวลาห่างกัน 4 สัปดาห์ และอีกครึ่งหนึ่งจะได้รับวัคซีนหลอก
จากการทดลอง พบว่า ในอาสาสมัครครึ่งหนึ่งจำนวน 15,000 คนที่ได้รับวัคซีนหลอกนั้น มี 90 คนที่ติดเชื้อ COVID-19 และมี 11 คนที่ป่วยหนัก และอีกกลุ่ม 15,000 ที่ได้รับวัคซีนจริงพบว่ามี 5 คนที่มีติดเชื้อ COVID-19 และไม่มีคนไหนที่มีอาการป่วยรุนแรง
ข้อดีของวัคซีนที่ Moderna พัฒนาขึ้นมานั้นสามารถจัดเก็บไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 36 – 46 องศาฟาเรนไฮต์ หรือประมาณ 2 – 8 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ตู้เย็นมาตรฐานในครัวเรือนทั้่วไปสามารถเก็บได้ และสามารถเก็บไว้ได้นาน 30 วัน แต่ถ้าหากอยากเก็บรักษาวัคซีนเอาไว้นานกว่านี้จะต้องเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิ -4 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ -20 องศาเซลเซียส จะช่วยเก็บรักษาวัคซีนได้นานขึ้นเป็น 6 เดือน
ก่อนหน้านี้ บริษัทผู้ผลิตยาไฟเซอร์และไบออนเทคได้จับมือร่วมกันพัฒนาวัคซีนป้องกัน COVID-19 ชนิดแรกที่ทดลองกับมนุษย์และสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 90% หากเปรียบเทียบคุณสมบัติเรื่องการจัดเก็บวัคซีน ถือว่าวัคซีนของ Moderna นั้นดีกว่าและสะดวกกว่าของไฟเซอร์มาก เพราะวัคซีนของไฟเซอร์ต้องจัดเก็บที่อุณหภูมิที่มากถึง -80 องศาเซลเซียส ทำให้มองเห็นถึงปัญหาที่ตามมาอย่างเรื่องการขนส่งวัคซีนไปที่ต่างๆ
ผลของการทดลองวัคซีนนี้ส่งผลให้หุ้นของ Moderna นั้นพุ่งขึ้น 11% ในช่วงตลาดพรีมาเก็ตติ้ง และทาง Moderna เผยว่าบริษัทมีแผนจะขออนุมัติการใช้งานฉุกเฉินจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ หรือ FDA ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ คาดว่าจะมีการสั่งผลิตวัคซีนประมาณ 20 ล้านโดส ที่เป็นส่วนของวัคซีนที่พร้อมขนย้ายในสหรัฐอเมริกา และจะผลิตเพิ่มอีก 500 ล้าน – 1 พันล้านโดสให้สามารถส่งไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปี 2021
อย่างไรก็ดี กระบวนการทดสอบของ Moderna จะยังดำเนินต่อไปเพื่อให้ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมที่มากขึ้นกว่านี้ โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
นอกจากนี้ Moderna ยังมีการทำข้อตกลงเกี่ยวกับวัคซีนเอาไว้ในทวีปอเมริกาเหนือ , ตะวันออกกลาง และภูมิภาคอื่นทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2020 บริษัทได้ประกาศบรรลุข้อตกลงกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องการผลิตวัคซีนเป็นจำนวน 100 ล้านโดส และข้อตกลงดังกล่าวยังมีทางเลือกให้รัฐบาลได้ทำการจัดซื้อเพิ่มได้ถึง 400 ล้านโดส ดังนั้นทางการสหรัฐฯจึงได้ลงทุนเกี่ยวกับวัคซีนต้าน COVID-19 กับทาง Moderan มากถึง 955 ล้านดอลลาร์ และจากผลการทดสอบวัคซีนล่าสุดอาจส่งผลให้มีเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้นถึง 2.48 พันล้านดอลลาร์
ที่มา : TechCrunch | CNBC
