เนื่องจากคำสั่งห้ามของสหรัฐฯ ฉบับแก้ไข TSMC ที่ตั้งอยู่ในไต้หวันไม่สามารถร่วมงานกับ Huawei ได้ TSMC จึงไม่สามารถผลิตชิปเซ็ต Kirin 9000 และชิปเซ็ต Kirin อื่น ๆ ให้กับ Huawei ได้ แต่มีรายงานว่า Qualcomm ได้ยื่นขอใบอนุญาตในการจัดหาชิปเซ็ตให้กับ Huawei โดยรายงานใหม่จากเว็บ 36k.com ของจีนอ้างว่า Qualcomm ได้รับอนุญาตแล้ว
Huawei เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการใช้ชิปเซ็ต Kirin เพื่อขับเคลื่อนสมาร์ทโฟน โดยออกแบบเซมิคอนดักเตอร์ผ่านแผนก HiSilicon ส่วน TSMC ทำหน้าที่ในการผลิต แต่ TSMC ใช้อุปกรณ์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ในการผลิตชิปเซ็ตเหล่านั้นจึงต้องเลิกทำธุรกิจกับ Huawei ดังนั้นในเดือนสิงหาคม Yu Richard ซีอีโอของ Huawei Consumer Business จึงกล่าวว่า Mate 40 series อาจเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นสุดท้ายที่ใช้ชิปเซ็ต Kirin
รายงานล่าสุดเปิดเผยว่าบริษัทต่าง ๆ เช่น Intel, AMD, Samsung Display, Sony และอื่น ๆ ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้ดำเนินธุรกิจกับ Huawei ต่อไป ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ TSMC อาจกลับมาผลิตชิปสำหรับ Huawei ต่อ ในขณะเดียวกันดูเหมือนว่า Qualcomm ต้องการจะจัดหาชิปให้กับ Huawei
ตามรายงานของจีนแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ Huawei ได้กล่าวว่า Qualcomm ได้มอบใบอนุญาตในการจัดหาชิปให้กับ Huawei แล้ว หาก TSMC ไม่สามารถทำธุรกิจกับ Huawei กลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ เช่น P series และ Mate series อาจใช้ชิปเซ็ต Snapdragon แทน มีความเป็นไปได้ที่ Huawei P50 series ที่จะเปิดตัวใน Q1 อาจใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 875
Mate 40 series นั้นเป็นที่ต้องการสูงมาก แต่ด้วยความพร้อมใช้งานที่จำกัดของชิป Kirin 9000 ทำให้ Huawei ไม่สามารถผลิตสมาร์ทโฟน Mate 40 Pro และ Mate 40 Pro Plus ได้ ดังนั้นจึงมีการคาดเดาว่า Huawei อาจใช้ Snapdragon 875 ชั่วคราว
นอกจากชิป Snapdragon แล้ว คาดว่า Huawei จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้พลังงานจาก MediaTek โดยที่ไม่มีชิป Kirin มีรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า Huawei สามารถสต็อกชิปเซ็ต Dimensity ของ MediaTek ได้จำนวนมากก่อนเดือนกันยายน
ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าฯ
จากต้นทางของข่าว มีการคาดเดาว่า Huawei อาจจะเลือกเปลี่ยนมาใช้ Snapdragon 875 ของ Qualcomm บน P50 Series ที่จะเปิดตัวในปี 2021 แต่ทว่าเมื่อลงในรายละเอียดของใบอนุญาตให้บริษัทเอกชน ทำการค้าและผลิตชิ้นส่วนให้กับทาง Huawei นั้น จะมีข้อกำหนดอยู่ว่า จะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 5G ซึ่งอาจจะทำให้สุดท้ายแล้ว ใบอนุญาตนี้จะไม่ได้มาช่วยให้ Huawei มีทางเลือกในการพัฒนาสินค้าในยุคอนาคนมากเท่าใดนัก
ที่มา gizmochina