รีวิว OPPO A93 ดีไซน์สวยบางเฉียบ 6 กล้อง AI Portrait ถ่ายสวย สนุกทุกโมเมนต์

2 พฤศจิกายน 2020

รีวิว OPPO A93 สมาร์ทโฟนที่เด่นด้วยการดีไซน์ มาพร้อมกับความบางเบา พร้อม 6 กล้อง AI Portrait ครบครันรอบด้านใน ราคา เปิดตัวเพียง 8,999 บาท

สมาร์ทโฟนในตระกูลซีรี่ย์ A ของทาง OPPO นั้น ขึ้นชื่อเรื่องของการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม สเปคการใช้งานที่ตอบโจทย์การใช้งาน ในราคาที่คุ้ม และในช่วงท้ายปลายปี 2020 นี้ ออปโป้ก็ได้ส่ง OPPO A93 ที่อัปเกรดสเปคและฟีเจอร์การใช้งานจากรุ่นก่อนให้ทันสมัย

อย่างแรกเลยก็คือการออกแบบ ที่ตอนนี้ออปโป้มุ่งเน้นกับการทำสมาร์ทโฟนให้มีความบางและเบา โดยที่ OPPO A93 นั้น มีดีไซน์ที่บางเฉียบ เพียงแค่ 7.48 มิลลิเมตรเท่านั้น แถมด้วยยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 164 กรัม ถือว่าเป็นความบางและเบาที่สุดของสมาร์ทโฟนตระกูล A และหาได้น้อยมากที่สมาร์ทโฟนราคาต่ำกว่า 10,000 บาทจะได้ดีไซน์ที่บางเบาระดับนี้

ส่วนเรื่องของกล้องนั้นจัดเต็มด้วย 6 กล้อง AI Portrait ที่เป็นกล้องหน้าคู่ และกล้องหลัง 4 เลนส์ ความละเอียดสูงสุดที่ 48 ล้านพิกเซล รุ่นนี้มีการพัฒนาการถ่ายภาพทั้งในด้านของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ทำให้การถ่ายภาพบุคคลได้สวยงาม คมชัด ปรับหน้าชัดหลังเบลอได้เป็นธรรมชาติ หรือเซลฟี่สภาพแสงน้อยก็ยังเอาอยู่

การใช้งานพร้อมให้ความบันเทิงได้แบบเต็มที่ กับหน้าจอคมชัด Super AMOLED ตัวระบบปฏิบัติการเป็น ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10 (เตรียมอัปเดตเป็น Android 11 ในเดือนพฤศจิกายนนี้) มีระบบ Anti-lag Algorithm และ Air Gestures ที่ช่วยปรับแต่งการใช้งานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคนี้

แน่นอนว่า ออปโป้ยังให้เทคโนโลยีชาร์จเร็ว ที่สามารถได้พลังไฟเติมให้กับแบตเตอรี่ ใช้คุยสนทนาได้นานถึง 2 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที พร้อมมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสุด และฟีเจอร์ใหม่ AI Night Charging ที่ช่วยถนอมอายุแบตเตอรี่ในการชาร์จระหว่างนอนหลับได้อีกด้วย

แกะกล่อง รีวิว OPPO A93

ตัวแพ็กเกจของ OPPO A93 จะมาในขนาดมาตรฐาน ตัวกล่องเป็นสีขาวที่ด้านนอกสุดจะเป็นแจ็กเกตหุ้มไว้อีกที ที่กล้องจะมีภาพของตัวเครื่อง และที่มุมบนจะมีบอกสเปคของรุ่นนี้ ที่เป็น RAM 8GB และ ROM 128GB

ด้านหลังกล่องมีบอกฟีเจอร์หลังของรุ่นนี้ ที่เป็นหน้าจอ Dual Punch-Hole แบบ Super AMOLED, กล้อง 6 ตัว AI Portrait, สแกนลายนิ้วมือ In-Display Fingerprint 3.0 และบอดี้ที่บางเฉียบ 7.48 มิลลิเมตร

ตัวกล่องนั้นออกมาแบบรักษ์โลกด้วยวัสดุที่เป็นกระดาษทั้งหมด สามารถจัดการรีไซเคิลได้ง่าย ด้านในมีเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารการรับประกัน และจะมีเคสใส TPU สำหรับสวมเครื่องเพื่อกันรอยและป้องกันการกระแทก และที่ด้านหลังฝากระดาษใต้เครื่องจะมีเข็มจิ้มซิมมาให้ด้วย

ด้านล่างสุดของกล่อง มีอุปกรณ์เสริมมาให้ครบ ไม่ต้องไปซื้อที่ไหนเพิ่ม ทั้งหูฟังสมอลล์ทอล์คแบบแจ็ค 3.5 มิลลิเมตร, สาย USB-A to USB-C และอะแดปเตอร์ชาร์จรองรับการชาร์จเร็ว 18W

ส่องดูดีไซน์รอบเครื่อง

OPPO A93 ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้ภายในตัวเมนบอร์ด, แบตเตอรี่ และชิ้นส่วนต่างๆ ปรับแต่งให้เหมาะสมเพื่อให้สามารถอยู่ในตัวเครื่องที่บางเพียง 7.48 มิลลิเมตร และบางแค่ 164 กรัม ทำให้ OPPO A93 มีความสะดวกในการพกพาระดับที่ว่าจะใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋ากางเกงก็ไม่เป็นรอยนูนออกมา หรือจะพกใส่ในกระเป๋าถือของสาวๆ ก็เหมาะเจาะลงตัวยิ่งขึ้น

การออกแบบให้เครื่องมีความบางนั้น ออปโป้ยังคำนึงถึงเรื่องการใช้งานด้วย เพราะหากทำให้เครื่องมีความบางแล้วไม่จัดการออกแบบขอบเครื่องให้เหมาะสม ก็จะมีมุมเหลี่ยมที่เป็นคม ที่อาจจะสร้างความไม่สบายมือเมื่อถือจับ

นักออกแบบของ OPPO จึงใช้เทคนิคทำขอบเครื่องให้มีความโค้งมน 220 องศา สำเร็จเป็นเจ้าแรกของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ความโค้งนี้ช่วยให้เครื่องที่บางยังสามารถจับได้ถนัดเข้ากับอุ้งมือ แล้วยังใช้เทคนิค Hi Gloss เพื่อหักเหแสงรอบด้านบนขอบโค้งมน ทำให้เครื่องดูสวยงามพรีเมี่ยม

หน้าจอของ OPPO A93 เป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว (ค่ารีเฟรช 60Hz) ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 ความสว่างสูงสุดที่ 800 nits ค่าคอนทราสต์ 5,000,000 : 1 อัตราส่วนหน้าจอ 20:9 คิดเป็นสัดส่วนเต็มพื้นที่ด้านหน้าถึง 90.07% รวมๆ แล้ว สเปคจอของ OPPO A93 นั้น ถือว่าเป็นเกรดระดับค่อนข้างดีเลยสำหรับสมาร์ทโฟนเรตราคานี้ เพราะยังผ่านการรับรองมาตรฐาน TUV Rhienland ของเยอรมัน ในเรื่องช่วยถนอมสายตาด้วยการลดการปล่อยแสงสีฟ้า

ดีไซน์หน้าจอนั้นเป็นแบบ Mini Dual Punch-Hole ที่เว้นตำแหน่งมุมซ้ายบนของจอสำหรับกล้องหน้าคู่ โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของกล้องที่เล็กลง เหลือเพียง 3.7 มิลลิเมตร ทำให้มีพื้นที่รอบๆ กล้องหน้าเพิ่มขึ้น ให้ความรู้สึกกวนสายตาที่น้อยลง

คุณสมบัติที่ดีของจอ Super AMOLED นอกจากการแสดงภาพที่ให้สีสันสดใสแล้ว ตัวพิกเซลยังมีความสว่างและชัดเจน แม้ว่าจะใช้งานในกลางแจ้งที่มีแสงแดดจ้าก็ตาม

รวมทั้งหน้าจอที่ด้านล่าง จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ In-Display Fingerprint 3.0 ที่มีความแม่นยำและสแกนได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่สัมผัสก็สามารถปลดล็อคหน้าจอได้ภายในเวลาแค่ 0.3 วินาที

ด้านหลังเครื่อง เอกลักษณ์ที่โดดเด่นมาตลอดของ OPPO ก็คือเทคนิคการทำสี ที่มีลูกเล่นและให้สีแบบแปลกๆ ใหม่ๆ ล้ำแฟชั่นมาโดยตลอด สำหรับใน OPPO A93 ก็มีเช่นกัน กับเทคนิคที่ชื่อว่า “Shinny Matte” เป็นลูกเล่นการทำริ้วเส้นแสงระยิบระยับ ผสานกับการเคลือบพื้นผิวแบบด้านเพื่อป้องกันรอยนิ้วมือ ซึ่งเทคนิคเคลือบแบบใหม่นี้ ได้มีการเพิ่มมิติความลึกของการเคลือบ จาก 250 นาโนเมตร เป็น 400 นาโนเมตร ทำให้เกิดสีที่แตกต่างกันไปตามมุมที่หักเหกระทบกับแสง ทำให้ OPPO A93 มีความพรีเมี่ยมของสีสันและผิวสัมผัส

โดยสีของ OPPO A93 ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะมีด้วยกัน 2 สีคือ Matalic White ที่เป็นตัวที่ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้มา รีวิว จะเป็นสีขาวที่ให้มิติหลากหลาย รู้สึกโดดเด่น อ่อนโยน และเรียบหรู โดยจะสีประกายสีชมพูอ่อน เมื่อมีแสงมาตกกระทบ และ Matte Black สีดำด้าน ที่ให้ความหรูหราดูคลาสสิค ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถซูเปอร์คาร์

ปุ่มกดด้านข้างเครื่อง จัดวางตัวปุ่ม Power สำหรับปิดเปิดเครื่องและหน้าจอไว้ทางขวา ตำแหน่งที่เหมาะในการกดด้วยนิ้วโป้ง ส่วนทางซ้ายของเครื่องจะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และช่องของถาดซิม ที่เป็นแบบ Triple Tray ใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และมีช่องสำหรับเพิ่ม microSD มาให้ด้วย รองรับความจุเพิ่มได้สูงสุดถึง 512GB

ด้านล่างเครื่อง มีพอร์ตเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ช่องไมโครโฟนสนทนา, พอร์ตเชื่อมต่อข้อมูลและชาร์จไฟแบบ USB-C และช่องลำโพงเสียง

6 กล้อง AI Portrait ถ่ายสนุกในทุกโมเมนต์

มา รีวิว ดูกันเรื่องกล้องกันก่อนเลย สำหรับ OPPO A93 นั้น มีกล้องทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน แบ่งเป็นกล้องหน้าคู่ และกล้องหลัง 4 ตัว โดยจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

กล้องหน้าคู่ พร้อม Depth Camera

กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล f/2.4 เซนเซอร์ขนาด 1/3 นิ้ว
กล้อง Depth Camera 2 ล้านพิกเซล f/2.4 เซนเซอร์ขนาด 1/5 นิ้ว

กล้องหลัง 4 เลนส์

กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล f/1.8 เซนเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว
กล้องมุมกว้าง Wide Angle 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว
กล้องโมโน 2 ล้านพิกเซล f/2.4 เซนเซอร์ขนาด 1/5 นิ้ว
กล้องโมโน 2 ล้านพิกเซล f/2.4 เซนเซอร์ขนาด 1/5 นิ้ว

โดยที่ทั้ง 6 กล้องนี้จะทำงานในโหมด AI Portrait ที่ให้การถ่ายภาพบุคคลทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ออกมามีเอฟเฟกต์ได้สวยงามในทุกสถานการณ์ สภาพแสง และในทุกมุมมอง โดยจะมีโหมดที่น่าสนใจมากมาย

Dual Lens Bokeh : กล้องหน้าคู่ที่จะช่วยให้การถ่ายเซลฟี่ เพิ่มเอฟเฟกต์แบบโบเก้หน้าชัดหลังละลายได้สวยยิ่งขึ้น โดยใช้ได้ทั้งในภาพถ่ายและการถ่ายวิดีโอ โดยตัวกล้อง 2 เลนส์จะทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ช่วยประมวลแยกตัวบุคคลกับฉากหลังได้อย่างแม่นยำและชัดเจน โดยความฉลาดของซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นนี้ OPPO พัฒนามาถึงระดับที่ว่า ถ่ายเซลฟี่กล้องหน้าหลายคนก็จะไม่ทำให้คนใดคนหนึ่งเบลอ และรายละเอียดอย่างเส้นผม เครื่องประดับ ต่างหู ก็ยังตัดคมแยกออกมาได้สวยงาม

AI Super Night Portrait : การถ่ายเซลฟี่ในเวลากลางคืน สภาพแสงน้อย หรือมีแสงที่หลากหลาย ก็ยังได้ภาพที่ชัดเจน ระบบกล้อง AI ของ OPPO A93 จะทำการประมวลผลแสงแบบ HDR ในทุกส่วนในภาพ ทั้งแสงไฟด้านหลัง และแสงไฟที่ใบหน้าของแบบ แล้วปรับเฉลี่ยทุกอย่างให้มีความสว่างคมชัด ไม่เกิดแสงจ้าจนสว่างเบลอฟุ้งจนกลบรายละเอียด ภาพถ่ายบุคคลในเวลากลางคืนจึงออกมาสวย หน้าคมชัด โดยสีที่ได้ก็สดใสชัดเจน

AI Color Portrait : ลูกเล่นถ่ายภาพสุดกิ๊บเก๋ ที่ให้ภาพถ่ายบุคคลด้วยกล้องหลัง มีลูกเล่นไม่เหมือนใคร ตัวกล้อง AI จะสามารถจับตัวบุคคลแยกกับฉากหลัง โดยเล่นเรื่องของสี ที่เปลี่ยนให้ฉากหลังนอกจากจะเป็นโบเก้แล้ว ยังปรับให้กลายเป็นสีขาวดำ เพื่อลดความเด่น แต่ยังเก็บภาพบุคคลให้มีสีสันที่สดใส โดยระบบสามารถจับบุคคลในภาพได้ถึง 3 คนในช็อตเดียว ภาพในโหมดนี้ถ่ายมาตัวคนนั้นจะมีความโดดเด่น เหมาะสำหรับเอาไว้ทำภาพที่ดูสร้างสรรค์ เอาไปแชร์ต่อในโลกโซเชียลได้อย่างน่าสนใจ

AI Night Flare Portrait : การถ่ายภาพบุคคลเวลากลางคืน ที่จัดเพิ่มลูกเล่นของการถ่ายโบเก้ของฉากหลัง ให้สวยกว่าเดิม เพราะการเบลอฉากหลัง เอฟเฟกต์โบเก้จะถูกอัลกอริธึมของระบบ HDR จัดการเรื่องสีสันในสภาพแสงน้อย ให้สว่างมากขึ้น แล้ปั่นโบเก้ให้เป็นดวงใหญ่ๆ เหมือนใช้กล้องเลนส์รูรับแสงกว้างๆ ถ่าย ภาพที่ได้คือตัวบุคคลจะโดดเด่นไม่ใช่แค่สีสัน แต่ฉากหลังก็จะสวยงามเหมือนถ่ายด้วยกล้องโปรฯ กันเลย

AI Super Clear Portrait : โหมดนี้เป็นการตั้งค่าเพิ่มเติมใน Setting ของกล้องหน้าโหมด Photo ที่จะให้ AI มาช่วยจัดการปรับแต่งภาพถ่ายบุคคลที่บางครั้งอาจจะมีจังหวะที่มุมมองไม่ชัดเจน เกิดความพร่ามัวหรือมองเห็นหน้าคนในภาพไม่ชัด AI จะช่วยเติมและแก้ไขความบกพร่องของใบหน้า ด้วยเทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก ทำให้ภาพบุคคลในภาพดูชัดเป๊ะในทุกช็อต

AI Beauty 2.0 : เทคโนโลยีปรับแต่งใบหน้าอันชาญฉลาด ที่เสริมเติมแต่ใบหน้าของเราได้อย่างที่ต้องการ ทั้งการปรับแต่งหน้าเนียน, ลิปสติก, สีผิว ฯลฯ ให้ดูดีมากขึ้น และสวยขึ้นเป็นธรรมชาติ ไม่ดูปลอมดูหลอน

เฉพาะแค่โหมด AI Portrait ก็เรียกว่าน่าสนใจมากๆ เป็นการเอาโหมดเด่นๆ ที่คนชอบใช้ถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนมาให้อย่างครบ และแน่นอนว่ายังมีโหมดอื่นๆ ใส่ให้มาแบบจัดเต็มจริงๆ กับเรื่องของกล้อง

โหมด Portrait ของกล้องหลัง ให้ความรู้สึกเหมือนใช้เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงกว้างๆ โดยการถ่ายเราจะได้ตัวบุคคลที่สวยด้วยโหมดบิวตี้ และฉากหลังที่ละลายได้สวยงามอย่างมีมิติ ไม่หลอกตา

กล้องหลังเลนส์ Ultra-Wide ที่ช่วยให้เก็บภาพได้มุมกว้างกว่าปกติ สร้างมุมมองของภาพที่ให้อารมณ์แตกต่าง ใช้ได้ทั้งการถ่ายภาพ landscape หรือ จะถ่ายคนก็ดูดีเช่นกัน

Night Mode สำหรับถ่ายภาพกลางคืน เก็บรายละเอียดของภาพให้สว่างชัดเจน ในส่วนที่เป็นแสงไฟก็จะคมชัดไม่สว่างพร่า ส่วนที่เป็นเงามืดก็จะถูกปรับให้สว่างเห็นรายละเอียดมากขึ้น

Ultra Dark Mode เก็บภาพในสภาพแสงน้อยจนเกือบมืด ให้สว่างและเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น

การถ่ายวิดีโอ มีระบบ Ultra Steady ช่วยลดการสั่นไหวของภาพระหว่างบันทึกวิดีโอ โดยใช้งานได้ทั้งการถ่ายด้วยกล้องหลังและกล้องหน้า

โหมด Photo มี AI Scene ปรับแต่งให้การถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ดูสวยที่สุด ทั้งถ่ายอาหาร, วิวทิวทัศน์, โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรเอง

ฟิลเตอร์ในโหมด Portrait จะมีฟิลเตอร์สีขาวดำ OP6 และ OP7 ที่ใช้คุณสมบัติของเลนส์โมโน 2 ตัว ถ่ายภาพสีโมโนโทนออกมาได้สวยคลาดสิคดีมาก

ในโหมด Pro (Expert) นอกจากการถ่ายที่เลือกปรับค่าได้อิสระแล้ว ยังมีโหมด XHD เก็บภาพในความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล ให้ได้ภาพที่คมชัดมากยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพด้านการใช้งาน

ตัวชิปเซ็ตของ OPPO A93นั้นใช้เป็น MediaTek Helio P95 แบบ Octa-core ความเร็ว CPU สูงสุด 2.2 Ghz มี RAM มาให้ 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 128GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 512GB ถือว่าเป็นสเปคที่อยู่ในระดับกลาง ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำได้สบาย ส่วนการเล่นเกมก็ยังสามารถเล่นได้ในระดับปานกลางได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด

สิ่งที่ OPPO เพิ่มเข้ามาใน OPPO A93คือ Anti-Lag ที่เป็นความสามารถด้านการประมวลผลเพื่อตรวจจับและเคลียร์ข้อมูลใน RAM ที่ช่วยลดอาการเครื่องค้างหรือสะดุดจากการทำงานหลายๆ แอป และยังช่วยเรื่องการอ่านเขียนข้อมูลในระบบทำได้เร็วขึ้น เทียบแล้วเร็วกว่าในรุ่นก่อนถึง 54% เลย

แบตเตอรี่ ขนาดความจุ 4000 mAh ถือว่ามากพอสมควรสำหรับสมาร์ทโฟนเครื่องที่บางเฉียบและเบาขนาดนี้ เป็นขนาดที่ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ความจุเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปได้เต็มวัน โดยจะมีระบบชาร์จเร็ว 18W มาให้ช่วยชาร์จไฟได้เร็วขึ้น

โดยการชาร์จไฟ 5 นาที จะได้พลังไฟสำหรับใช้คุยสนทนาได้ 2 ชั่วโมง, เล่น Instagram หรือ YouTube ได้นานถึง 1 ชั่วโมง

OPPO นำเสนอฟีเจอร์ในการชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ใน OPPO A93คือ AI Night Charging ที่ช่วยให้การชาร์จมือถือตอนกลางคืนระหว่างนอนมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยปกติพฤติกรรมเราจะเสียบชาร์จมือถือไว้ตอนนอน โดยแบตก็จะชาร์จจนเต็ม 100% แล้วกำลังไฟก็จะถูกชาร์จให้เต็ม 100% ตลอดเวลา ซึ่งจะมีผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ตัว AI Night Charging จะมีระบบการเรียนรู้เวลาตื่นนอนของเรา ตัวเครื่องจะประเมินแล้วค่อยๆ ชาร์จแบตเตอรี่เฉลี่ยให้จนถึง 80% ในช่วงก่อนตื่นนอนประมาณ 90 นาที จากนั้นก็จะเร่งชาร์จ 20% ที่เหลือจนเต็ม 100% ในตอนที่เราตื่นพอดี ถือว่าเป็นระบบที่ฉลาดมากๆ

นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงาน Super Power Saving Mode สำหรับใช้งานในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีที่แบตเตอรี่เหลือน้อยและใกล้หมด เพื่อยืดระยะเวลาการใช้สมาร์ทโฟนต่อไปให้ได้นานที่สุด จากพลังงานที่เหลือในแบตเตอรี่ โดยเมื่อแบตมือถือเราเหลือ 5% จะเลือกปรับใช้โหมดนี้ได้ ทำให้เราสามารถใช้แบตที่เหลือ โทรคุยได้นาน 70 นาที, ส่ง SMS ได้นาน 49 นาที, กดเรียก GRAB หรือใช้งาน Google Map ได้อีกร่วมครึ่งชั่วโมง

ตัวระบบปฏิบัติการที่มากับเครื่องจะเป็น ColorOS 7.2 ครอบอยู่บน Android 10 (ที่มีคิวจะได้อัพเป็น Android 11 ในเดือน พ.ย. 2563) ถือว่าเป็น OS เวอร์ชั่นที่ใช้งานได้ง่าย หน้าตาเรียบๆ แต่มีลูกเล่นและฟีเจอร์ฉลาดให้ใช้งานสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้น

สรุป รีวิว OPPO A93 ราคา 8,999 บาท ได้คุ้มค่าแค่ไหน?

ออปโป้ ยังคงไม่ทำให้เราผิดหวัง กับ OPPO A93 ที่ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ A ตัวท็อป ที่ให้หลายอย่างมาคุ้มราคา ทั้งการออกแบบที่ตัวเครื่องมีความบางและน้ำหนักเบา สีสันก็สวยงาม เรียกว่าถูกใจแน่นอน ส่วนกล้องที่ถ่ายพอร์ตเทรตได้สวยทั้งกล้องหน้าและหลัง และเวลากลางวันกลางคืน โหมดต่างๆ พร้อมรองรับที่จะเก็บภาพได้สวยทุกสถานการณ์

แบตเตอรี่ 4000 mAh เป็นขนาดที่เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน มีชาร์จเร็ว 18W มาให้และระบบอัลกอริธึมภายในที่ช่วยเรื่องประหยัดพลังงานและการชาร์จแบต ให้ใช้งานไหลลื่นตลอดทั้งวัน

OPPO A93 ราคา และโปรโมชั่น สั่งจองล่วงหน้า

มาด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีขาว Metallic White และ สีดำ Matte Black ใน ราคา 8,999 บาท พิเศษสำหรับช่วง Pre-order รับฟรี! ของสมนาคุณ OPPO Pillow Blanket และ E-VIP Card มูลค่ารวม 3,899 บาท เมื่อพรีออเดอร์ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ

และสามารถพรีออเดอร์ได้ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,489 บาท เมื่อสั่งจองล่วงหน้าพร้อมสมัครแพ็คเกจตามที่กำหนดกับ ผู้ให้บริการเครือข่ายที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม – 3 พฤศจิกายน 2563

สรุปข้อมูล สเปค OPPO A93

ขนาดเครื่อง 73.8 x 160.1 มิลลิเมตร หนา 7.48 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 164 กรัม
หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว Mini Dual Punch-Hole Dispaly FHD+ (2400 x 1080)
ชิปเซ็ต MediaTek Helio P95
RAM 8GB
หน่วยความจำภายใน 128GB
แบตเตอรี่ 4000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว 18W
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้จอ In-Display Fingerprint 3.0
กล้องหน้าคู่ 16MP (f/2.4) เซนเซอร์ขนาด 1/3″ + 2MP depth (f/2.4) เซนเซอร์ขนาด 1/5″
กล้องหลัง 4 ตัว Quad-camera
- กล้องหลัก 48MP
- กล้องมุมกว้าง 8MP
- กล้อง Mono 2MP x2
รองรับเครือขาย 2G / 3G / 4G
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 7.2 บนพื้นฐาน Android 10
มีให้เลือก 2 สี Metallic White / Matte Black
ราคา 8,999 บาท (เปิดตัว ตุลาคม 2563)